ยังคงดำเนินการต่อไปสำหรับโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่ ซึ่งทาง มูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย ได้ร่วมกับสถานทูตออสเตรเลีย, มูลนิธิอานันทมหิดล, สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท., กรุงเทพมหานคร และสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดพลังบวกในสังคม และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว เป็นหนึ่งในหัวข้อหลักของรายการ 1 ในพระราชดำริ ตอนโรงเรียนดีมีทุกที่ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.40-21.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. ซึ่งในตอนนี้จะนำเสนอเรื่องของโรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน ที่ได้ใช้หลักบวร โดยนำบ้าน, วัด และโรงเรียน มาจัดการด้านการศึกษาให้กับเยาวชนจนประสบความสำเร็จ ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก สามารถนำมาเป็นต้นแบบในโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่ ของภาคเหนือ
ดร.ธราดร ตันวิพงษ์ตระกูล ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน ได้กล่าวว่า "โรงเรียนบ้านห้วยต้มฯ ตั้งอยู่ในชุมชนพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ หรือกะเหรี่ยง โดยมีครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมา เพื่อมุ่งหวังให้ได้รับความรู้ อ่านออกเขียนได้ สิ่งที่โดดเด่นคือทางโรงเรียนได้ใช้หลักบวร นำบ้านวัดโรงเรียนมาผสานสัมพันธ์ในการพัฒนาเด็ก เกิดเป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ มีการพัฒนาทั้งในด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต โดยบ้านคือทรัพยากรบุคคลในชุมชน ที่ได้มาร่วมมือกันพัฒนาสิ่งมีประโยชน์ต่อลูกหลาน เช่น ช่วยกันสร้างสนาม BBL (Brain Based Learning) เพื่อเด็กๆ จะได้มีสถานที่เล่นปนเรียน เพิ่มความสนุกสนาน, ส่วนวัดก็จะสนับสนุนการดูแลเรื่องคุณธรรม จนทำให้เป็นโรงเรียนคุณธรรมของ สพฐ. และเป็นโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข สอดคล้องกับการเป็นหมู่บ้านศีล 5 แห่งแรกของประเทศไทย, ด้านโรงเรียนก็ได้มีการปรับตัว พัฒนาให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง ทั้งด้านศักยภาพครู บุคลากรและผู้บริหารรวมจนถึงนักเรียนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน มีการกำหนดทิศทางของโรงเรียนไว้คือคิดและทำอย่างมีคุณภาพมาตรฐาน แต่อยู่ในบริบทของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีหน่วยลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ทำให้สามารถปลูกฝังนักเรียนในเรื่องจิตอาสา เป็นคุณธรรมที่อยู่ในใจ จนกลายเป็นจริยธรรมที่ปรากฏออกมาในการทำกิจกรรมต่างๆ มีการนิมนต์ท่านเจ้าคณะ ต.นาทราย มาให้ความรู้ เทศนาธรรม และการปฏิบัติสมาธิ จนเกิดเป็นค่ายคุณธรรมที่นักเรียนทุกระดับชั้นได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกปีครับ"
ด้าน ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส มูลนิธิเอเชียฯ หัวหน้าในการจัดทำโครงการ ได้กล่าวเสริมว่า "คุณครูที่โรงเรียนบ้านห้วยต้มฯ เป็นแรงหนุนสำคัญในการพัฒนาโรงเรียน ต้องอย่าลืมว่าโรงเรียนนี้ตั้งอยู่บนที่สูง ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวลำไย เด็กจำนวนมากต้องหยุดเรียนไปเพื่อช่วยเหลือทางบ้าน ครูจึงเป็นเสาหลักในการตามเด็กกลับมาเรียน หรืออธิบายให้ผู้ปกครองได้รับทราบ นอกจากนี้ยังมีปัญหาและความท้าทายอีกหลายอย่าง ซึ่งคณะครูและผู้บริหารได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม ช่วยเหลือและสื่อสารกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะมีปัจจัยต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา แต่โรงเรียนก็ไม่นำมาเป็นประเด็นเพื่อขัดแย้งกับความสำเร็จ สามารถผลักดันและปรับตัวเองให้เป็นโรงเรียนสมัยใหม่ ก้าวหน้า เด็กมีงานทำหรือได้เรียนต่อ และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขค่ะ"
มาที่ นายชาติชัย คีรีเสถียรทรัพย์ ชั้น ม.3/1 โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน ได้บอกกับเราว่า "โตขึ้นผมอยากเป็นช่างทำสีรถ เพราะมีความชอบเกี่ยวกับเครื่องยนต์ โดยตั้งใจจะไปศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงกว่าในตัวเมือง จ.ลำพูน ในช่วงโควิดที่ผ่านมาผมใช้วิธีการหาความรู้ผ่าน Google และพูดคุยกับเพื่อนและคุณครูผ่านการแชท และเมื่อมีเวลาว่างก็จะเข้าไปดู YouTube เพื่อหาความบันเทิง โดยชอบดูการ์ตูนพวก Marvel ต่างๆ"
ขณะที่ นายนราวิชญ์ ธารสุขสนธิ (ซีแกรม) ชั้น ม.3/1 โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ บอกว่า "ผมอยากเป็นนักวาดการ์ตูน วิชาที่ชอบและเรียนดีที่สุดคือคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และศิลปะ ตอนสมัยเรียนชั้นประถมผมเป็นตัวแทนส่งรูปภาพเข้าประกวดและได้รางวัลทุกปี ส่วนวิธีการหาความรู้ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าเป็นพวกสูตรและหลักการต่างๆ นั้นจะไปหาจากใน Google แต่ถ้าเป็นวิธีการคิดผมจะเข้าไปดูใน YouTube ซึ่งสำหรับผมคิดว่าเป็นวิธีการที่ดี โดยจุดเด่นของโรงเรียนผมคิดว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม อาทิ การใส่เสื้อปกาเกอะญอ และการกินเจในวันพระ ครับ"
โดยผู้สนใจชมคลิปการสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ รายการ 1 ในพระราชดำริ ตอนโรงเรียนดีมีทุกที่ ศรัทธาสร้างพลังการศึกษา คลิก https://www.youtube.com/watch?v=Utz-ANCveGI&t=421s ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป