โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ("IMH") โชว์ฟอร์มดี ครึ่งปีแรกของปี2565 กวาดกำไรเข้ากระเป๋า 179.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.85 % ขณะที่รายได้รวม 441.65 ล้านบาท หรือ 71.85 % ด้าน CEO "ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์" สบช่อง เล็งซื้อกิจการรพ.แห่งใหม่เพิ่ม จ่อปิดดีลภายในปีนี้ ตอกย้ำศักยภาพการเตรียมก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่มีขนาดใหญ่ ครบวงจรมาก
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ ("IMH") เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 441.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184.66 ล้านบาท หรือ 71.85% ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 179.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.21 ล้านบาท หรือ 132.85% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 76.93 ล้านบาท สำหรับปัจจัยหลักที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาล จากการรับรู้รายได้และกำไร ของโรงพยาบาล ประชาพัฒน์ รวมถึงบริษัทฯมีการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประกอบกับ "IMH" มีการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มIMH ในเชิงบวก และคาดว่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ส่วนงบผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทฯมีรายได้รวม 188.81 ล้านบาท ลดลง 25.37 ล้านบาท หรือ11.85 % และมีกำไรสุทธิ 72.68 ล้านบาท ลดลง 19.09 ล้านบาท หรือ 20.80% เนื่องจากทางภาครัฐมีการปรับหลักเกณฑ์แนวทางการจ่ายชดเชยค่าบริการโควิด-19 เพื่อปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น ทั้งนี้แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส2 ปรับลดลง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบรวมของงบครึ่งปีแรก แต่อย่างใด
" IMH ประสบความสำเร็จหลังจากที่เข้าซื้อกิจการ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ ฝั่งธนบุรี ก่อนหน้านี้ ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นในผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทฯคาดว่าภายในปี 2565 รพ.ประชาพัฒน์ จะมีคนไข้หมุนเวียนมาใช้บริการกว่า 250,000 คน เนื่องจากรพ.ประชาพัฒน์ เป็นรพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ ให้บริการรักษาโดยเน้นคนไข้เงินสดและประกันเอกชน ควบคู่คนไข้สิทธิรัฐ ซึ่งคาดว่ารายได้จากกลุ่มคนไข้เงินสดและประกันเอกชน จะมีสัดส่วน 70% ซึ่งมีมาร์จิ้นดี "
ส่วนแผนขยายธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IMH กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีลการเจรจาเข้าซื้อกิจการธุรกิจโรงพยาบาลแห่งใหม่ คาดว่าดีลดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ทั้งนี้ภายหลังจากดีลการซื้อกิจการโรงพยาบาลแห่งที่ 2 แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ IMH กลายเป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่มีขนาดใหญ่และมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดย IMH จะสามารถทยอยรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว เข้ามาเต็มปีตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ซึ่งก็จะผลักดันให้ กลุ่ม IMH มีอัตราการเติบโตของรายได้ สำหรับปี 2566 แตะระดับนิวไฮเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30-40 %
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้ากรณีการลงทุนในโครงการ โรงพยาบาล IMH แบริ่ง ขนาดไม่ต่ำกว่า 600 เตียง บนพื้นที่ 12 ไร่ ติดสถานี BTS แบริ่ง ภายใต้การลงทุน 5,500 ล้านบาทนั้น บริษัทฯคาดว่า โรงพยาบาล IMH แบริ่ง จะเปิดให้บริการแก่กลุ่มคนไข้ระดับกลาง-สูง ได้ในช่วงไตรมาส1/2568 เป็นต้นไป ซึ่งภายหลังเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ จะส่งผลให้กลุ่มIMH มีรายได้จากโรงพยาบาลดังกล่าว เข้ามาตั้งแต่ปี2568 ประมาณ1,000 ล้านบาท และจะมีการขยายการเติบโตเพิ่มขึ้น แตะระดับ 5,500 ล้านบาท ภายในปี 2572 ในขณะเดียวกันยังสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจของ IMH เนื่องจากโซนพื้นที่ "โรงพยาบาล IMH แบริ่ง"ครอบคลุมประชากรพื้นที่โซนกรุงเทพใต้ และจังหวัดสมุทรปราการ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit