กรุ๊ปเอ็ม ประกาศก้าวต่อไปของการเปลี่ยนแปลง ด้วยข้อเสนอที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นและการควบรวมองค์กรด้านประสิทธิภาพให้เป็นหนึ่งเดียว

28 Apr 2022

เอสเซนส์และมีเดียคอม ผนึกกำลังเป็นเอสเซนส์มีเดียคอม

กรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส เตรียมเปิดตัวทั่วโลกในฐานะองค์กรด้านประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

มายด์แชร์ จะบรรลุการผสานธุรกิจเข้ากับนีโอ ซึ่งเป็นเอเจนซี่ด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับโลก

กรุ๊ปเอ็ม (GroupM) กลุ่มการลงทุนด้านสื่อในเครือดับบลิวพีพี (WPP) ประกาศในวันนี้ถึงขั้นตอนล่าสุดในการเปลี่ยนแปลงเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมให้กับลูกค้าและทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวต่อยอดจากการเปิดตัวบริษัทโครีโอกราฟ (Choreograph) ซึ่งเป็นบริษัทด้านข้อมูลและเทคโนโลยีระดับโลกของดับบลิวพีพีเมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยจะรวมบริษัทเอสเซนส์ (Essence) เข้ากับมีเดียคอม (MediaCom) และรวมมายด์แชร์ (Mindshare) เข้ากับนีโอ (Neo) และสร้างแพลตฟอร์มเพอร์ฟอร์แมนซ์ข้ามช่องทางอันแข็งแกร่งที่มีบุคลากร 9,000 คน โดยใช้เทคโนโลยีเอไอ (AI)

  • เอสเซนส์และมีเดียคอม จะรวมกันเป็นเอสเซนส์มีเดียคอม (EssenceMediacom) เอเจนซี่แห่งใหม่ที่นำเสนอการหลอมรวมดีเอ็นเอด้านดิจิทัลและข้อมูลของเอสเซนส์ เข้ากับการวางแผนกลุ่มเป้าหมายหลายช่องทางและความเชี่ยวชาญด้านสื่อเชิงกลยุทธ์ของมีเดียคอม
  • ความสามารถและโซลูชันระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมจากไฟน์แคสต์ (Finecast) ซาซิส (Xaxis) และกรุ๊ปเอ็ม เซอร์วิส (GroupM Services) ซึ่งเป็นชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานระดับโลกของกรุ๊ปเอ็ม จะมารวมตัวกันเพื่อสร้างกรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส (GroupM Nexus) องค์กรด้านประสิทธิภาพสื่อชั้นนำของโลก
  • มายด์แชร์จะผสานรวมกับเอเจนซี่ด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับโลกอย่างนีโอให้เสร็จสมบูรณ์ โดยจะมอบบริการสื่อรูปแบบใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า

คุณนิค ลอว์สัน (Nick Lawson) ซีอีโอระดับโลกของมีเดียคอม จะเป็นผู้นำในฐานะซีอีโอระดับโลกของเอสเซนส์มีเดียคอมที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ นอกจากนี้ คุณเคียวโกะ มัตสึชิตะ (Kyoko Matsushita) ยังได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นซีอีโอของดับบลิวพีพีในญี่ปุ่น หลังจากทำงานที่เอสเซนส์มา 8 ปี ขณะที่บริษัทได้เดินหน้าลงทุนในการขยายตลาดที่มีการเติบโตสูงหลายแห่ง ส่วนคุณนิโคลัส ไบดัน (Nicolas Bidon) ซีอีโอระดับโลกของซาซิส จะดูแลกรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส ในฐานะซีอีโอระดับโลก

คุณคริสเตียน จัล (Christian Juhl) ซีอีโอระดับโลกของกรุ๊ปเอ็ม กล่าวว่า "เราหลงใหลในโอกาสทางเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเป็นผู้นำเส้นทางการเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่องและบรรลุเป้าหมายการเติบโตของพวกเขา ซึ่งอนาคตของการตลาดนั้นขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์ ส่งเสริมด้วยการวางแผนที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นอันดับแรก และการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนมาตรฐานของประสิทธิภาพที่ใช้เทคโนโลยีเอไอ ขณะนี้ เรากำลังสร้างอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีซึ่งอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา และรับผิดชอบต่อเป้าหมายการเติบโตของนักโฆษณาและต่อวิสัยทัศน์ของเราสำหรับระบบนิเวศการโฆษณาที่เหมาะกับทุกคน ผ่านความร่วมมือของกรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส และเอเจนซี่ที่ทรงประสิทธิภาพของเราอย่างมายด์แชร์ เวฟเมกเกอร์ และเอสเซนส์มีเดียคอม นอกจากนี้ ผมต้องการแสดงความยินดีกับคุณเคียวโกะ ที่เติบโตขึ้นและเสริมความแข็งแกร่งให้กับเอสเซนส์ในช่วงที่เธอดำรงตำแหน่งซีอีโอระดับโลก ในบทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นของเธอในฐานะซีอีโอของดับบลิวพีพีในญี่ปุ่น ซึ่งเราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับจุดยืนของเอเจนซี่ของเราทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก"

คุณโจชัว สแปเนียร์ (Joshua Spanier) รองประธานฝ่ายการตลาดของกูเกิ้ล (Google) กล่าวว่า "การเป็นพันธมิตรระยะยาวกับเอสเซนส์ที่ได้มีเดียคอมเข้ามาเติมเต็ม ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางการตลาดที่ทะเยอะทะยาน การผสมผสานระหว่างข้อมูลเชิงลึกอันชาญฉลาด การวิเคราะห์ที่แม่นยำ และความคิดสร้างสรรค์ที่ครอบคลุมไปทั่วโลก ได้ปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ และสร้างผลกระทบที่แข็งแกร่งขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งกับขั้นตอนต่อไปในการทำงานร่วมกัน"

คุณลุยส์ ดิ โคโม (Luis Di Como) รองประธานบริหารฝ่ายสื่อระดับโลกของยูนิลิเวอร์ (Unilever) กล่าวว่า "การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต เพลิดเพลินกับชีวิต และการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และเป็นการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมของเราอย่างรวดเร็ว การบรรจบกันของสื่อ ความบันเทิง และการค้าในสภาพแวดล้อมดิจิทัลทำให้เราสร้างแบรนด์และปิดการขายได้ในที่เดียว อย่างไรก็ตาม ในฐานะอุตสาหกรรมที่ต้องการมอบประสบการณ์ที่ครบวงจรให้ผู้บริโภคอย่างง่ายดาย เราต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญใหม่ ๆ และควบคุมแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ เราได้รับแรงขับเคลื่อนจากการที่กรุ๊ปเอ็มประกาศความเคลื่อนไหวในวันนี้ ซึ่งจะได้เห็นการผสานรวมที่ดียิ่งขึ้นระหว่างการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การวางแผนกลุ่มเป้าหมายหลายช่องทาง ประสิทธิภาพ และความเชี่ยวชาญด้านสื่อเชิงกลยุทธ์"

เอสเซนส์มีเดียคอม: เปิดตัวพร้อมพนักงาน 10 ,000 คนในสำนักงาน 125 แห่งในปี 2566

เอสเซนส์มีเดียคอมออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของลูกค้าทั่วโลก ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน นอกจากนี้ยังผสมผสานดีเอ็นเอด้านดิจิทัลและข้อมูลของเอสเซนส์ เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านสื่อเชิงกลยุทธ์ การวางแผนกลุ่มเป้าหมาย และศักยภาพในหลายช่องทางที่ยืดหยุ่นของมีเดียคอม

ลูกค้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากองค์กรระดับโลกที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของเอเจนซี่ 2 แห่งซึ่งเป็นส่วนเติมเต็มกันในเชิงกลยุทธ์ และออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตของลูกค้าโดยเฉพาะ โดยเอสเซนส์และมีเดียคอมใช้ต้นแบบการดำเนินงานดังกล่าวอยู่แล้ว กับบริษัทระดับโลก 3 แห่งที่เป็นลูกค้าของทั้งสองฝ่าย ได้แก่ กูเกิ้ล, มาร์ส (Mars) และ เอ็นบีซียูนิเวอร์ซัล (NBCUniversal)

การควบรวมกิจการของเอสเซนส์และมีเดียคอมเกิดขึ้นจากการเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของเอเจนซี่ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งทางคอมเวอร์เจนซ์ (COMvergence) ได้ยกย่องให้มีเดียคอมเป็นธุรกิจที่มีลูกค้าใหม่มากเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมในปี 2564 ด้วยมูลค่า 2.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เอสเซนส์ยังคงเติบโตและเพิ่มการจ่ายเงินให้กับกูเกิ้ล และลูกค้ารายสำคัญอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

คุณนิค ลอว์สัน ซีอีโอของเอสเซนส์มีเดียคอม กล่าวว่า "การก่อตั้งเอสเซนส์มีเดียคอมเกิดจากความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและได้รับการพิสูจน์แล้วระหว่างเอเจนซี่ต่าง ๆ ในการสร้างต้นแบบเอเจนซี่ที่ลูกค้าต้องการสำหรับอนาคต  โดยก่อตั้งขึ้นจากกลยุทธ์และความสามารถในการสร้างแบรนด์ที่ยอดเยี่ยม ด้วยการบุกเบิกความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากนั้นแล้ว เอสเซนส์มีเดียคอมไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าของเรามองเห็นภาพรวมและจินตนาการถึงสิ่งที่เป็นไปได้เท่านั้น แต่ยังให้โอกาสพนักงานของเราในการพัฒนาและฝึกฝนทักษะด้านใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าและยกระดับอาชีพของพวกเขา"

คุณเคียวโกะ มัตสึชิตะ กล่าวว่า "นักการตลาดระดับโลกในยุคปัจจุบันต้องการทั้งความคล่องตัวและความยืดหยุ่นจากพันธมิตรเอเจนซี่ของตนเอง เพื่อให้สนับสนุนธุรกิจของพวกเขาในตลาดต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม การผสานรวมเอสเซนส์และมีเดียคอมเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้ง 2 แห่งล้วนมีประวัติความเป็นเลิศที่โด่งดัง จะสร้างการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริงของนวัตกรรมที่คล่องตัวและการปรับขนาดระดับโลกในบริษัทเดียว"

กรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส เตรียมเปิดตัวในฐานะองค์กรระดับโลกที่มีผู้ปฏิบัติงานด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี 9 ,000 คน เพื่อให้บริการตลาดทุกแห่ง

กรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส จะมีผู้ปฏิบัติงาน 9,000 คนทั่วโลก โดยรับผิดชอบร่วมกันในการดำเนินแคมเปญมากกว่า 2 ล้านแคมเปญที่ทางกรุ๊ปเอ็มดูแลรับผิดชอบในแต่ละปี ชุมชนระดับโลกแห่งนี้จะเป็นตัวแทนของทีมงานผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมในช่องทางและแพลตฟอร์มดิจิทัล เสิร์ช โซเชียล โปรแกรม เอไอ การเพิ่มประสิทธิภาพข้ามช่องทาง ไปจนถึงเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

กรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส รวมเนื้อหาที่แสดงผลในทุกช่องทางและทุกอุปกรณ์ (addressable content) และทีวี เทคโนโลยีเอไอ (โคไพลอท) และโซลูชันทุกช่องทางจากไฟน์แคสต์ ซาซิส และกรุ๊ปเอ็ม เซอร์วิสเข้าเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งองค์กรระดับโลกแห่งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มเพอร์ฟอร์แมนซ์ข้ามช่องทางใหม่และศูนย์กลางการส่งสารระหว่างประเทศ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับนวัตกรรมด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์และประสิทธิภาพสำหรับเอเจนซี่และลูกค้าของกรุ๊ปเอ็ม

คุณนิโคลัส ไบดัน ซีอีโอของกรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส กล่าวว่า "กรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส ได้ผสานรวมความสามารถด้านสื่อระดับชั้นนำ ความเป็นเลิศของบริการดิจิทัล เทคโนโลยีเอไอที่ล้ำสมัย และความร่วมมือที่ยืดหยุ่น มาเป็นองค์กรด้านประสิทธิภาพข้ามช่องทางแห่งใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ประการเดียวคือ การเติบโตอย่างทรงพลังสำหรับบุคลากรของเรา หน่วยงานของเรา และแบรนด์อันน่าทึ่งที่พวกเขาเป็นตัวแทน เราแทบรอไม่ไหวที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ ร่วมกันเพื่อทุกคน"

มายด์แชร์เตรียมผสานรวมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์ 1 ,200 คนของนีโอ และบริการที่เน้นด้านดิจิทัล ลงเป็นบริการระดับโลก

มายด์แชร์และนีโอจะดำเนินการภายใต้แบรนด์มายด์แชร์ แต่จะรักษาและปรับขนาดต้นแบบการดำเนินงานของนีโอ โดยมุ่งเน้นที่โซลูชันประสิทธิภาพเป็นหัวใจหลักโดยเฉพาะ และจะผสานสิ่งนี้เข้ากับข้อเสนอที่เต็มรูปแบบของมายด์แชร์ ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพสื่อและดิจิทัล 1,200 คนของนีโอจะผนึกรวมเข้ากับผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ 10,000 คนของมายด์แชร์ โดยบริการที่เน้นด้านดิจิทัลของนีโอจะถูกรวมอยู่ในข้อเสนอของมายด์แชร์และกรุ๊ปเอ็มอย่างเต็มรูปแบบ

ขณะเดียวกัน คอมเวอร์เจนซ์ได้จัดอันดับให้มายด์แชร์อยู่ในอันดับที่ 3 ของธุรกิจใหม่ระดับโลกในปี 2564 โดยมีรายได้ 2 พันล้านดอลลาร์จากรายได้ของลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า และเมื่อไม่นานมานี้ มายด์แชร์ได้รับการเสนอชื่อเป็นเครือข่ายเอเจนซี่สื่ออันดับ 1 ในการจัดอันดับสื่อ 100 อันดับแรกของดับบลิวเออาร์ซี (WARC) เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

คุณอดัม เกอร์ฮาร์ต (Adam Gerhart) ซีอีโอระดับโลกของมายด์แชร์ กล่าวว่า "นี่เป็นการเดินทางของเราในปีที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการบริการสื่อที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของพวกเขา การควบรวมธุรกิจครั้งนี้ทำให้การเข้าถึงความสามารถที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัลของนีโอเป็นไปอย่างราบรื่น และสะท้อนให้เห็นความสำคัญกับต้นแบบประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเร่งการเติบโตที่ดี ซึ่งสำหรับทีมของเรา มันหมายถึงโอกาสที่มากขึ้นและศักยภาพในการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในทั่วโลก ผมดีใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับคุณนัสรีน มัดฮานี (Nasreen Madhany) ซีอีโอของนีโอ ในขณะที่เราได้บรรลุการควบรวมทั้ง 2 ธุรกิจเข้าด้วยกัน และก้าวไปสู่อนาคตใหม่ร่วมกันต่อไป"

เกี่ยวกับกรุ๊ปเอ็ม

กรุ๊ปเอ็ม (GroupM) เป็นบริษัทการลงทุนในสื่อชั้นนำระดับโลก โดยรับผิดชอบการลงทุนด้านสื่อมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ผ่านเอเจนซี่ต่าง ๆ เช่น มายด์แชร์ (Mindshare), เวฟเมกเกอร์ (Wavemaker), เอสเซนส์มีเดียคอม (EssenceMediacom) และเอ็ม/ซิกซ์ (m/SIX) ธุรกิจในเครือของกรุ๊ปเอ็มนั้นประกอบด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี (โครีโอกราฟ) การลงทุน และโซลูชันประสิทธิภาพข้ามช่องทาง (กรุ๊ปเอ็ม เน็กซัส) ซึ่งทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้วิสัยทัศน์เพื่อกำหนดรูปแบบสื่อยุคใหม่ที่การโฆษณาตอบโจทย์ได้มากขึ้น บริษัทจะสร้างนวัตกรรม สร้างความแตกต่าง และมูลค่าที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าของเราไม่ว่าพวกเขาจะทำธุรกิจอะไร ด้วยการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในเรื่องขนาด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรุ๊ปเอ็มได้ที่ www.groupm.com

ติดต่อ :
จาเร็ด ไบแมน (Jared Baiman)
อีเมล: [email protected]

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/283547/groupm_Logo.jpg