"ลุมพินี วิสดอม" ระบุ การพัฒนาบริการที่ส่งเสริม "สุขภาวะ: Well-Being" เป็นโอกาสการสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคต
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom หรือ LWS) บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวถึงแนวโน้มและทิศทางในการพัฒนางานบริการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ และมีความต้องการในบริการที่แตกต่างจากก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับสุขภาวะที่ดี (Well-Being) เป็นโจทย์ใหม่สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยเฉพาะงานบริการที่เกี่ยวข้องกับที่พักอาศัย
จากผลการสำรวจของทีมพัฒนางานบริการ (Service Development Center: SDC) ของ "ลุมพินี วิสดอม" พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้พักอาศัยในคอนโดลุมพินีกว่า 84% ต้องการใช้ชีวิตประจำวันในพื้นที่ส่วนกลางในการผ่อนคลายกับธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้องใช้ชีวิตที่บ้านมากขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนั้น 79% ต้องการพื้นที่ออกกำลังกาย และอีก 75% ต้องการพื้นที่นั่งทำงานหรือทำกิจกรรมงานอดิเรกแบบบุคคล/กลุ่ม ซึ่งสอดคล้องกับรายงานประจำปี 2564 ของจาก Google ที่พบว่าผู้บริโภคมีการใช้ระบบค้นหาข้อมูล (Search engine) ของ Google ค้นหาประโยคคำว่า "หาหมอออนไลน์" สูงขึ้นกว่ากว่าปี 2563 กว่า 122% เมื่อนำมาพิจารณาควบคู่กับข้อมูลยอดขายนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ทั่วโลก ซึ่งปกติแล้วนาฬิกากลุ่มนี้จะมีฟังก์ชันตรวจสอบสุขภาพขั้นพื้นฐาน
เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ วัดอัตราการวิ่ง ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การออกกำลังกาย มียอดขายทั่วโลก 14.93 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2563 เพิ่ม 16% จากปี 2562 โดยเป็นยอดขายจำนวน 17.35 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2564 ซึ่งเป็นยอดขายที่เติบโตสูงกว่านาฬิกาหรูหรา และมีการคาดการณ์ว่ายอดขายจะถึง 30.88 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นภาพสะท้อนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภค และผู้พักอาศัยในอาคารชุดในปัจจุบันมีความต้องการพื้นที่ที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น และให้ความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตโดยคำนึงถึงสุขภาวะที่ดี
จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการในพื้นที่ชุมชน ทั้งอาคารสำนักงาน และอาคารพักอาศัย ที่จะพัฒนางานบริการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปโดยคำนึงถึงเรื่องของ "สุขภาวะ: Well-Being" ใน 4 ด้าน คือ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางจิตใจ สุขภาวะทางสังคม และ สุขภาวะทางสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1.ด้านสุขภาวะทางกาย จากผลการศึกษาของ "ลุมพินี วิสดอม" พบว่า ตลาดที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย และอาหารเพื่อสุขภาพ กำลังได้รับความสนใจและเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น
2.ด้านสุขภาวะทางจิตใจ
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ประชาชนเกิดภาวะความเครียดทั้งจากความกังวลต่อการติดเชื้อของ COVID-19 และความกังวลด้านเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนางานบริการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายทางจิตใจ เช่น
3.ด้านสุขภาวะทางสังคม
"มนุษย์" เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการการรวมกลุ่ม การพบปะสังสรรค์ แต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้กิจกรรมทางสังคมลดลง ทำให้ปัจจุบันได้มีการพัฒนางานบริการที่สร้างสุขภาวะทางสังคม เช่น
4.ด้านสุขภาวะทางสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์และการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี (Delivery) ทำให้มีปริมาณขยะเพิ่มขึ้น ทำให้มีการพัฒนางานบริการที่ดูแลเรื่องการจัดการขยะ และรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น
"การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา เป็นวิกฤติด้านสุขภาพที่ส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็น "โอกาส (Opportunity)" สำหรับการพัฒนางานบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยเฉพาะการพัฒนางานบริการที่คำนึงถึงสุขอนามัยที่ดี ซึ่งเป็นงานบริการที่มีโอกาสที่จะเติบโตในปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่า COVID-19 จะยังคงอยู่หรือไม่ ก็ตาม" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit