ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ.5% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศ สอดคล้องตามคาดการณ์ของตลาดการเงินและนักลงทุน โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนพฤษภาคมนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549 ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องติดต่อกันในสองการประชุม ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 5ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ Basis Points (BPS) จะถือเป็นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย นโยบายมากที่สุดในรอบ 22 ปีนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2543 ที่เป็นครั้งสุดท้ายมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
นโยบายที่ 50 bps โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีการปรับตัวสูงขึ้นตลอดเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะสั้นอายุ 3 เดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.85% เป็นการเพิ่มขึ้น 50 bps เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ยิ่งไปกว่านั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาวอายุ 10 ปีได้ปรับตัวทะลุ 3% ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม สะท้อนภาพความคาดหวังถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของตลาดการเงิน
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย โดย ttb analytics ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ตลอดทั้งปี 2565 โดยให้ความสำคัญต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ที่ยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านการบริโภคที่ลดลงจากผลของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการผลิตจากต้นทุนวัตถุดิบสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน อาจส่งผลให้การนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศจีน เกิดความยากลำบากเพิ่มมากขึ้น ทำให้ส่งกระทบต่อเนื่องไปยังระบบซัพพลายเชนภายในประเทศ
ทั้งนี้ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่ระดับเดิมตลอดทั้งปี 2565 นี้ จะส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยและอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ แตกต่างกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ปรับตัวสู่ระดับ 2.25% - 2.50% ณ สิ้นปี 2565 จะส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยกับสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.75 %- 2.00% ซึ่งถือเป็นสถิติอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แตกต่างกันมากสุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2550
จากการที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในระดับสูง ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ ทำให้การลงทุนในตลาดการเงินสหรัฐฯ มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการไหลออกของเงินทุนจากภูมิภาคเอเชีย โดยเบื้องต้นเดือนเมษายน 2565 มีเงินลงทุนไหลออกจากภูมิภาคเอเชียกว่า 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การไหลออกของเม็ดเงินลงทุนจากภูมิภาคเอเชียเข้าสู่สหรัฐฯ ส่งผลกระทบทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าเงินบาทและสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชียอ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับเดือนเมษายนที่ผ่านมา การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลทำให้สกุลเงินหลักในเอเชีย ปรับตัวอ่อนค่าลง โดยสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นทำสถิติอ่อนค่าสูงสุด โดยอ่อนค่าลง 5.5% จากเดือนมีนาคม สำหรับค่าเงินบาทไทย ปรับตัวอ่อนค่าลง 3.0% จากเดือนมีนาคม โดย ณ สิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 34.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 33.3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม ถือเป็นการอ่อนค่าของเงินบาทในรอบเดือนมากที่สุดตลอดระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561
ttb analytics จึงได้ประเมินค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยประเมินกรอบค่า
เงินบาทไว้ที่ 34.20 - 34.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ตามการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ จากความคาดหวังของตลาดต่อการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนมิถุนายน
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ จ่อปรับฐานในไตรมาส 4 รับ 2 ปัจจัย คือ 1. ราคาหุ้นแพง 2. ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้ง แนะกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนไปยังตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2567 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานจาก 2 ปัจจัยคือ 1. ราคาหุ้นแพง และรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปมากแล้ว 2. ความไม่
ทิสโก้เผย Fed ลดดอกเบี้ยมากกว่าคาด ชี้! ปีนี้อาจลดต่ออีก 0.5% และปี 68 ลงอีก 1 - 1.25%
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้ ธนาคารกลาง...
กูรูทิสโก้ชี้ ตลาดหุ้นเสี่ยงปรับฐานอีก คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยต่อ - QT ฉุดสภาพคล่องลด
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ชี้ ตลาดหุ้นเสี่ยงปรับฐานลงอีก ...
ทิสโก้ชี้ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 6% หยุดเงินเฟ้อ แนะหาจังหวะซื้อตราสารหนี้ระยะยาวสหรัฐฯ ล็อกผลตอบแทนสูง
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ชี้ธนาคาร...
ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นโลก ปี 66 เสี่ยงถูกเทขายอีกรอบ แนะทางรอดซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ หรือหุ้นเฮลธ์ฯ และเทคฯ รับผลตอบแทนเด่น
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโ...
Fed ส่งสัญญาณเข้มคุ้มเงินเฟ้อ ทิสโก้เตือน! ใน1 - 3 เดือน หุ้นอาจร่วงแรงอีกครั้ง จังหวะซื้อเทคฯ เฮลธ์แคร์ พลังงานหมุนเวียนหลบภัย
—
ศูนย์เคราะห์เศรษฐกิจและก...
ทิสโก้คาด 27 ก.ค. Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจฟุบ จุดระเบิดเศรษฐกิจถดถอย แนะซื้อเทคฯ - เฮลธ์แคร์กำไรโตไม่หวั่นวิกฤต
—
ศูนย์วิเคราะห์เศ...
ทิสโก้ชี้ Fed ใช้ยาแรงขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ หวั่นธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ย...
ทิสโก้คาด เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ "ภาวะถดถอย" มากขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรง
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินเศรษฐกิจโลกอาจชะลอ...