ฟิทช์คงอันดับเครดิต AIS และ AWN ที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และบริษัทลูก ซึ่งได้แก่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ที่ 'BBB+' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ของทั้งสองบริษัทที่ 'Fแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส+(tha)' ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ ของ AIS และ AWN ที่ 'AA+(tha)'

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะการเงินรวม: ฟิทช์จัดอันดับเครดิตของ AIS และ AWN โดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินรวมของกลุ่มซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างบริษัททั้งสอง ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่กับบริษัทลูก (Parent and Subsidiary Rating Linkage Criteria) AIS ถือหุ้นทั้งหมดใน AWN ทำให้มีอำนาจควบคุมการดำเนินธุรกิจ และนโยบายด้านการเงิน และการลงทุนของ AWN โดย AWN เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่ม โดยมีสัดส่วนรายได้ และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คิดเป็นร้อยละ 93 และ 81 ของกลุ่ม ตามลำดับในปี 2563

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสที่ยืดเยื้อ: ฟิทช์คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในระดับต่ำ หลังจากการแพร่ระบาดใหม่อีกรอบของโคโรน่าไวรัส ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564 และมาตรการต่างๆในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของรายได้ของ AIS ในปี 2564 ฟิทช์คาดว่าการฟื้นตัวของธุรกิจของ AIS จะเป็นไปอย่างช้าๆ ในปี 2565 โดยมีการเติบโตของรายได้จากการให้บริการที่ประมาณร้อยละ 2-3

เศรษฐกิจไทยจะยังคงได้รับแรงกดดันจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และการพึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ผู้ใช้บริการของ AIS ส่วนใหญ่จะอยู่ในระบบเติมเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากกว่า กลุ่มผู้ใช้บริการระบบรายเดือน จากสภาวะการว่างงานที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

การแข่งขันด้านราคาที่ไม่มาก: ฟิทช์คาดว่าการแข่งขันด้านราคาในปี 2565 จะยังคงไม่สูงมาก เนื่องจากผู้ประกอบการน่าจะมุ่งเน้นการทำกำไร มากกว่าการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยการให้ส่วนลดค่าเครื่อง ฟิทช์คาดว่านโยบายดังกล่าวน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากการให้บริการด้านข้อมูลให้ดีมากขึ้น และสนับสนุนให้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นการให้บริการด้านข้อมูลที่สำคัญมากขึ้นในระยะยาว

ความสามารถในการรองรับการลงทุน: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO Net Leverage) จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 1.3 เท่าในปี 2564 (2563 อยู่ที่ 1.1 เท่า) เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน และค่าคลื่นความถี่ ที่อยู่ในระดับสูง AIS มีแผนใช้จ่ายด้านการลงทุน (ไม่รวมค่าคลื่นความถี่) ประมาณ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 (ปี 2563 อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท) ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านคลื่นความถี่จะลดลงมาอยู่ในระดับ 2 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 และ 1.1 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 (ปี 2563 อยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท)

ฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำที่ 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2563 น่าจะรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่กระทบต่ออันดับเครดิตได้

ความคล่องตัวทางการเงินที่สูง: ฟิทช์เชื่อว่า AIS มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการอัตราส่วนหนี้สิน ซึ่งได้แก่การปรับลดการลงทุนในเครือข่าย 5G หรือปรับลดการจ่ายเงินปันผล หากความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด AIS ดำเนินการขยายเครือข่าย 5G ในหัวเมืองหลักอย่างต่อเนื่อง และได้เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 แม้ว่าความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศไทยยังคงมีความไม่แน่นอน บริษัทคาดว่าจะใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G ในการขยายความครอบคลุมของการให้บริการระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายได้มากขึ้น ฟิทช์คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนเครือข่าย 5G จะอยู่ในระดับต่ำในช่วงเริ่มต้น และค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนในการก่อสร้างเครือข่าย 5G ที่สูงจะกดดันกระแสเงินสดสุทธิในช่วง 2 ปีข้างหน้า

ผู้นำตลาด: AIS เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทสไทย ฟิทช์เชื่อว่า AIS จะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้จากการให้บริการให้อยู่ในระดับประมาณร้อยละ 45-50 ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า (ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 46) นอกจากนี้สถานะทางธุรกิจของ AIS ยังได้รับการสนับสนุนจาก ขนาดธุรกิจและฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ชื่อเสียงทางการค้าที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุมมากที่สุด AIS ได้ขยายธุรกิจไปสู่การให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยรายได้จากการให้บริการดังกล่าวมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 12 (2561 อยู่ที่ร้อยละ 8) อย่างไรก็ตามรายได้จากการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงยังคงมีสัดส่วนที่ต่ำที่ประมาณร้อยละ 6 ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมดของ AIS ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

อันดับเครดิตของ AIS สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง AIS มีอันดับเครดิตสูงกว่าบริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)' แนวโน้มเครดิตเป็นลบ เนื่องจาก DTAC มีขนาดรายได้ที่เล็กกว่า มีสถานะทางการตลาดที่ด้อยกว่า และมีอัตราส่วนกำไรต่อรายได้ที่ต่ำกว่า AIS อันดับเครดิตของ DTAC ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ที่ 'aa-(tha)' เพื่อสะท้อนถึงความเกี่ยวเนื่องในระดับปานกลางระหว่าง DTAC กับ Telenor โดย Telenor มีอำนาจควบคุมคณะกรรมการและผู้บริหารของ DTAC

อันดับเครดิตของ AIS มีความแข็งแกร่งกว่าอันดับเครดิตของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ThaiBev ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดสุราและเบียร์ในประเทศไทย เวียดนาม และเมียนมาร์ AIS และ ThaiBev มีสถานะทางธุรกิจในระดับใกล้เคียงกัน เนื่องจากบริษัททั้งสองเป็นผู้นำในธุรกิจที่ตนดำเนินการอยู่ AIS มีการกระจายตัวของธุรกิจในด้านภูมิภาคที่น้อยกว่า ThaiBev แต่อันดับเครดิตภายในประเทศของ AIS อยู่ในระดับสูงกว่า ThaiBev อยู่หนึ่งอันดับเนื่องจาก AIS มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งกว่า

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ AIS อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจาก AIS มีสถานะทางธุรกิจที่อ่อนแอกว่า ปตท. มีขนาดธุรกิจที่ใหญ่กว่า และมีการกระจายตัวของธุรกิจมากกว่า AIS ปตท. เป็นผู้ดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติในขั้นกลางน้ำและปลายน้ำเพียงผู้เดียวในประเทศไทย และเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียม รวมทั้งยังเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรายใหญ่ในธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีในประเทศไทย AIS และ ปตท. มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วน FFO Net Leverage อยู่ที่ระดับประมาณ 1.2-1.3 เท่า สำหรับ AIS และ 2 เท่าสำหรับ ปตท.

สมมุติฐานที่สำคัญ

สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ

  • รายได้เติบโตในระดับต่ำที่ร้อยละ 1-2 ในปี 2564 เนื่องจากความต้องการที่ต่ำหลังจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสระลอกใหม่ และมาตรการต่างๆในการควบคุมการแพร่ระบาด ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2564; โดยรายได้จะเติบโตประมาณร้อยละ 3-4 ในปี 2565 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรฐกิจที่เพิ่มขึ้นหลังจากมีการผ่อนคลายมาตราการควบคุมการแพร่ระบาด
  • EBITDA margin ที่ร้อยละ 42-43 ในปี 2564 และ 2565 (ครึ่งปีแรกของปี 2564 อยู่ที่ ร้อยละ 43)
  • เงินลงทุนในการขยายโครงข่ายอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ในปี 2564 และ 2565 (2563 อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท)
  • จ่ายเงินปันผลในอัตราร้อยละ 80 ของกำไร

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

AIS
ปัจจัยบวก

  • บริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก และอัตราส่วน FFO Net Leverage ลดลงต่ำกว่า 1.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้การให้บริการ

ปัจจัยลบ

  • การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วน FFO Net Leverage สูงกว่า 1.8 เท่าอย่างต่อเนื่อง
  • การเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย หรือกฎระเบียบของกิจการโทรคมนาคมที่ส่งผลในแง่ลบต่อบริษัท AWN

ปัจจัยบวก

  • การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในแง่บวกของ AIS โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่าง AIS และ AWN ไม่อ่อนแอลง

ปัจจัยลบ

  • การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของ AIS ในแง่ลบ

สภาพคล่อง

สภาพคล่องที่บริหารจัดการได้: ฟิทช์มองว่าสภาพคล่องของ AIS สามารถบริหารจัดการได้ โดยสภาพคล่องของ AIS ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดที่อยู่ในระดับสูงจำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปีไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ซึ่งเพียงพอต่อหนี้ที่ถึงกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท AIS น่าจะมีกระแสเงินสดที่ติดลบในปี 2564 จำนวนประมาณ 5 พันล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนก่อสร้างเครือข่าย 5G และการชำระค่าคลื่นความถี่ แต่ฟิทช์คาดว่า บริษัทน่าจะสามารถหาแหล่งเงินกู้ใหม่ในการสนับสนุนการลงทุนดังกล่าว ฟิทช์เชื่อว่า AIS มีความสามารถในการเข้าถึงตลาดเงินกู้ภายในประเทศเนื่องจากสถานะทางเครดิตที่ดี นอกจากนี้สภาพคล่องของ AIS ยังได้รับการสนับสนุนจากวงเงินจากธนาคารที่สามารถเบิกกู้ได้จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2564

เกี่ยวกับบริษัท: AIS เป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศแก่ลูกค้าจำนวน 1.5 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดตามจำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงประมาณร้อยละ 12 บริษัท อินทัช โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) และ Singapore Telecommunication Limited เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 40 และ 23 ตามลำดับ


ข่าวแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค+แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสวันนี้

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ หากบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ AIS คือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีอำนาจควบคุมใน AIS โดยสถานะทางเครดิตของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่อ่อนแอกว่าอาจส่งผล

ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิต บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก. แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค เป็น 'AAA(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) และ อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและ...

ฟิทช์คงอันดับเครดิต AIS และ AWN ที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และบริษัทลูก ซึ่งได้แก่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค...

ฟิทช์คงอันดับเครดิต AIS และ AWN ที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และบริษัทลูก ซึ่งได้แก่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค...