EU SWITCH-Asia SCP Facility ร่วมกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ "พลังของคนรุ่นใหม่กับการขับเคลื่อนสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืน" ภายใต้โครงการ "การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อบูรณาการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่การปฏิบัติ"
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นนโยบายสำคัญที่บรรจุอยู่ในแผนพัฒนาประเทศ ตั้งแต่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 12 ของสหประชาชาติ (SDG 12) ว่าด้วยเรื่องการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และปัจจุบัน กรมควบคุมมลพิษ ได้ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2564 - 2570 ต่อเนื่องมาจากแผนส่งเสริมฯ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556
โครงการ "การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อบูรณาการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่การปฏิบัติ" เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือจาก 3 หน่วยงาน ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) โดยเน้นที่การพัฒนาการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน สื่อสารถึงหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้าง และกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งเติบโตมาพร้อม ๆ กับกระแสความตื่นตัวต่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และการเรียกร้องสิทธิ์ในการมีทรัพยากรธรรมชาติไว้ใช้ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีให้อยู่ในรุ่นของพวกเขา สอดคล้องกับนิยามของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ว่า "การพัฒนาที่สนองตอบต่อความต้องการของคนในรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ทำให้คนรุ่นต่อไปในอนาคตต้องประนีประนอมยอมลดทอนความสามารถในการที่จะตอบสนองความต้องการของตนเอง"
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืนในทวีปเอเชีย (EU SWITCH-Asia SCP Facility) ของสหภาพยุโรป โดยมีวัตถุประสงค์ 5 ข้อ ได้แก่ 1. เพื่อเพิ่มการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2. เพื่อศึกษาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประเภทต่าง ๆ และจัดกลุ่มเพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. เพื่อจัดทำนโยบายและแผนปฏิบัติการส่งเสริมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4. เพื่อให้ความรู้และข้อมูลเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 5. เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ด้านสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวปฏิบัติที่ดีและการถอดบทเรียนแก่ประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศกลุ่มผู้นำด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน อื่นๆ
ผลผลิตสำคัญที่ได้จากการดำเนินโครงการนี้ ได้แก่ ร่างนโยบายและแผนปฏิบัติการส่งเสริมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ผนวกกรอบแนวคิดของการจัดทำ National Green Directory หรือบัญชีรายการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการแบ่งกลุ่มสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ออกเป็น 4 กลุ่มตามระดับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและสื่อสารให้แก่ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ พร้อมทั้งคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการพิจารณาและขั้นตอนในการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการผลิตสื่อเผยแพร่เพื่อสร้างความตระหนักด้วย
โดยร่างนโยบายและแผนปฏิบัติการฯดังกล่าว สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2565-2570 แบ่งออกเป็น 6 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 การเพิ่มปริมาณสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลยุทธ์ที่ 2 การส่งเสริมการผลิตสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลยุทธ์ที่ 3 การส่งเสริมให้เกิดการบริโภคอย่างยั่งยืน กลยุทธ์ที่ 4 การใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์และกฎหมายเพื่อสนับสนุน กลยุทธ์ที่ 5 การติดตามและรายงานผล และ กลยุทธ์ที่ 6 การบริหารและกำกับดูแลแผนปฏิบัติการ โดยภายใต้แต่ละกลยุทธ์ ประกอบด้วยกลยุทธ์ย่อยและแผนงาน ซึ่งแบ่งเป็นแผนระยะสั้น 2 ปี (พ.ศ. 2564 - 2565) แผนระยะกลาง 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) และแผนระยะยาว 10 ปี (พ.ศ.2571-2580) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เชื่อว่าผลสำเร็จจากโครงการฯ และผลจากงานสัมมนาในวันนี้ จะส่งผลให้เกิดความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ร่วมกันประสานพลัง และจับมือกันระหว่างคนแต่ละรุ่น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืน
มร.จูเซ่ปเป้ บูซินี่ อุปทูต คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย กล่าวว่า สหภาพยุโรปมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มุ่งสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน โดยโครงการ "การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อบูรณาการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่การปฏิบัติ" ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรปภายใต้แผนงาน SWITCH-Asia ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งแผนการปฏิรูปสีเขียวของสหภาพยุโรป (EU Green Deal) มีเป้าหมายร่วมกันหลายประการกับประเทศไทย ในการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจชีวภาพ และเศรษฐกิจสีเขียว (Thai Bio-Circular-Green หรือ BCG) และเราจะยังคงร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยในโครงการนี้ต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่และอนาคตของโลก
รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญโครงการฯ กล่าวว่า โครงการนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 มีหน่วยงานนำร่องภายใต้โครงการ ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ (ตัวแทนหน่วยงานราชการส่วนกลาง) เทศบาลนครรังสิต (ตัวแทนหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตัวแทนบริษัทเอกชน)
จากการศึกษาข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างปีงบประมาณ 2563 ของทั้ง 3 หน่วยงานนำร่อง โดยอ้างอิงนโยบายและแนวทางที่เสนอภายใต้โครงการฯ พบว่า กรมควบคุมมลพิษ มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากเดิม 6.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า เป็น 23.82 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 12 ล้านตัน ภายในระยะเวลา 8 ปี (2565-2572)
สำหรับเทศบาลนครรังสิต มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากเดิมที่ 4% เป็น 80% ของงบประมาณทั้งปี ขณะที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจาก 77% เป็น 88% ของงบประมาณทั้งปี
ผลสำเร็จที่เป็นผลผลิตของโครงการฯนี้ จะมีการถ่ายทอดประสบการณ์ไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน และจะมีขยายผลต่อเนื่องภายในประเทศไทย ไปสู่การพัฒนาจัดทำระบบลงทะเบียนผู้ขาย (Vendor List Registration System) ตามแนวคิดของแพลตฟอร์ม National Green Directory เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อ จาก ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป รวมทั้งเพิ่มโอกาสแก่ผู้ขาย ทั้งที่เป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันจะส่งผลให้เกิดการขยายตลาดสีเขียว (Green Market) ของประเทศไทย รวมทั้งช่วยให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมกับตลาดการผลิตและการบริโภคสีเขียว สู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืนด้วย
นายประสิทธิ์ เกิดโต รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (รษก.ผอ.อ.อ.ป.) เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับ "องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป." หน่วยงานในสังกัด ทส. ที่มี "ผลการประเมินคุณธรรม ประจำปี 2567" ระดับ "องค์กรพัฒนาคุณธรรม" ตามโครงการส่งเสริมชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรม โดยมี นายถนอมศักดิ์ เฉียบแหลม รองผู้อำนวยการ
กลุ่มสยามกลการ รับประกาศนียบัตร 'Climate Action Leaders Recognition' บนเวที UN ประเทศไทย ตอกย้ำดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนระดับสากล
—
เมื่อเร็วๆ นี้ ...
DMT สุดปลื้ม คว้าเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อมครบทุกพื้นที่สำนักงานด่าน
—
นางอโนมา อุฤทธิ์ รองก...
UMI ได้รับใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) จาก โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก
—
บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหา...
"SAPPE" รับประกาศนียบัตร 'Climate Action Leaders' เวทีผู้นำด้านความยั่งยืน ยึดมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน พร้อมสนับสนุน Diversity & Equality
—
นางสาวปิยจิ...
บางจากฯ คว้ารางวัลระดับสากล "Climate Action Leader" บริษัทพลังงานหนึ่งเดียวของไทย สะท้อนบทบาทผู้นำสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
—
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 นางกลอยต...
เจียไต๋คว้ารางวัลสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม มุ่งเป้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน
—
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย โดยนายเกียรติศ...
'มิชลิน' รับประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ของผลิตภัณฑ์ 11 รายการ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการสัญจรอย่างยั่งยืน
—
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษั...
MSM รับตราสัญลักษณ์ G-Green
—
ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมืองทอง เซอร์วิสเซส แอนด์ แมเน็จเม้นท์ จำกัด หรือ MSM เครือบางกอกแลนด์ ...