ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ประกาศให้ 'เอสทีที จีดีซี ประเทศไทย' เป็นบริษัทที่น่าจับตามองที่สุดในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

08 Jun 2021

เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ STT GDC Thailand ผู้นำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น "Company to Watch" หรือ "บริษัทที่น่าจับตามอง" จากรายงานตลาดการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยประจำปี 2564 (Thailand Data Centre Colocation Services Market Report 2021) โดย ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรที่ปรึกษาและงานวิจัยทางธุรกิจระดับโลก

ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ประกาศให้ 'เอสทีที จีดีซี ประเทศไทย' เป็นบริษัทที่น่าจับตามองที่สุดในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

รายงานของ ฟรอส แอนด์ ซัลลิแวน ได้เน้นย้ำถึงจุดแข็ง 3 ด้านของ STT GDC Thailand ประการแรกคือการเชื่อมต่อที่เป็นกลางที่เปิดกว้างในการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทุกค่าย (Carrier-neutrality) และที่ตั้งในทำเลหัวหมาก ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้บริการจะได้รับประโยชน์จากการรับ-ส่งข้อมูลที่มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น (Low-latency) จากผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้ผลิตสื่อและคอนเทนต์ ที่กำลังมองหาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้

ประการที่สอง การออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์และระบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศของ STT GDC Thailand สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาทิ LEED Gold, TIA-942 Rated-3, Uptime Institute Tier III ในด้านการออกแบบและก่อสร้าง, มาตรฐาน ISO27001 และมาตรฐาน Threat and Vulnerability Risk Assessment (TVRA) ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้เมื่อผสานกับประสบการณ์ที่สั่งสมในการดำเนินงานดาต้าเซ็นเตอร์ในตลาดที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้ STT GDC Thailand เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่จะช่วยในการสร้างธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ประการสุดท้าย STT GDC Thailand สามารถให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นบริการเช่าพื้นที่เพื่อติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร (rack colocation) ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่สำหรับผู้เช่าที่มีโซลูชั่นปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการทางธุรกิจ (single-tenant build-to-suit solutions) ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งลูกค้าองค์กร และลูกค้าระดับไฮเปอร์สเกล

"ประเทศไทยมีความต้องการที่จะเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และดาต้าเซ็นเตอร์มีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งจุดเด่นของ STT GDC Thailand อยู่ที่ทำเลยุทธศาสตร์ และความสามารถในการปรับขยายธุรกิจที่สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม และเมื่อพิจารณาจากมาตรฐานการรับรองที่เป็นเลิศในอุตสาหกรรมนี้แล้ว ยิ่งทำให้คุณค่าของแบรนด์ STT GDC Thailand แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนได้รับการยอมรับให้เป็นผู้ให้บริการที่น่าจับตามองที่สุด (Company to Watch) ในระบบนิเวศน์การให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์" นายนิชฌาล โครานา ผู้อำนวยการอาวุโสแห่ง ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าว

นายศุภรัฒศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "การได้รับการยอมรับในฐานะ 'Company to Watch' สะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย และความมุ่งมั่นของ STT GDC Thailand ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาด ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจที่ต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดไฮเปอร์สเกล ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ผลิตสื่อและคอนเทนต์ต่างชาตินั้น ต่างก็มองหาผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถตอบโจทย์แผนการขยายธุรกิจของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันต้องมั่นใจถึงความเชี่ยวชาญในมาตรฐานการออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานดาต้าเซ็นเตอร์ ดังนั้น การได้รับการยอมรับจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ในครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพในบริการดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา และบทบาทที่เรามีในการช่วยยกระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย"

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน คาดการณ์ว่า ตลาดการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 23.5% ต่อปี โดยปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้มาจากผู้ให้บริการคลาวด์และผู้ผลิตสื่อและคอนเทนต์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งความต้องการด้านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคผลักดันให้เกิดความต้องการในการจัดเก็บข้อมูล และการประมวลผลเป็นอันมาก

HTML::image(