แจ้งเกิดนวัตกรสาธิตจุฬาฯ คว้า 6 เหรียญทอง และ 3 เหรียญเงิน จากงานประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บทพิสูจน์ทิศทางการพัฒนาคนแห่งอนาคต
เด็กเป็นนวัตกรโดยธรรมชาติ หากได้รับการปลูกฝังอุปนิสัยและส่งเสริมความคิดเชิงนวัตกรรม พวกเขาจะเปล่งศักยภาพสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกได้ ดังที่นักเรียนระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำให้ประเทศไทยภาคภูมิใจมาแล้วจากการคว้ารางวัล 6 เหรียญทอง และ 3 เหรียญเงิน จากงานประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ E-NNOVATE 2021 International Innovation Show ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ ที่จะแข่งแบบออนไลน์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ชิ้นงานแห่งความสำเร็จที่ทำให้หลายคนต้องทึ่ง อาทิ ปากกาต่อต้านโรคระบาด ระบบห้องน้ำอัจฉริยะ ระเบิดความสนุกสำหรับชีวิตวิถีใหม่ ชุดหมอนลดการนอนกรนเพื่อปรับสมดุลให้การนอนหลับมีคุณภาพและปลอดภัยที่สุด ชุดอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกายในผู้ป่วยติดเตียง ชุดฝึกสมองและกระตุ้นพัฒนากล้ามเนื้อมือสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและเด็กออทิสติก ฯลฯ (ดูเพิ่มเติมที่ https://www.chula.ac.th/news/48422/)
กว่า 7 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถมศึกษา นักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้นำเสนอนวัตกรรมเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลกหลายประเทศและได้รับรางวัลกลับมาทุกปี โดยเฉพาะปีนี้นับเป็นปีที่ส่งผลงานของนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันมากที่สุด ทั้งๆ ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์
"แต่ปัญหานี่เองคือโอกาส นักเรียนมีเวลาในการบ่มความคิดและพัฒนานวัตกรรมซึ่งหลายชิ้นก็ตอบโจทย์ความท้าทายของโลกในปัจจุบัน" อาจารย์จีระศักดิ์ จิตร โรจนรักษ์ ประธานศูนย์นวัตกรรมแห่งโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายประถมศึกษา ผู้เป็นลมใต้ปีกนวัตกรรุ่นเยาว์ทั้งหลายเผยเคล็ดลับการสร้างนวัตกรที่ครูและผู้ปกครองสามารถนำไปใช้ดูแลเด็กๆ และนักเรียนของตนเองได้
โรงเรียนสาธิตแห่งศตวรรษที่ 21
อาจารย์จีระศักดิ์เล่าถึงที่มาของการตั้งศูนย์นวัตกรรมขึ้นในโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ว่า "เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นความรู้และทักษะใหม่ๆ หรือวิชาชีพที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งส่งเสริมทัศนะเชิงบวกต่อโลกและชีวิต ความคิดอ่านก้าวหน้าที่มองหาทางออกเป็นนิสัยและความเป็นไปได้อยู่เสมอ"
หัวใจสำคัญของการปั้นนวัตกรคือความเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเรียนและครู และตระหนักถึงความต่างระหว่างนักเรียนแต่ละคน โดยศูนย์ฯ มีหน้าที่เสริมส่งความฝันของนักเรียนให้เป็นรูปธรรม ซึ่งรางวัลครั้งนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าศูนย์ฯ และโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ มาถูกทางแล้ว
"นวัตกรรมที่ได้รับรางวัลเป็นผลจากการปฏิรูปวิธีการเรียนรู้ โดยครูจะปล่อยให้นักเรียนเป็นคนเริ่ม 'คิด' กำหนดโจทย์เอง ครูเพียงคอย 'ร่วมมือ'ฟังการ 'แก้' โจทย์และแนะนักเรียนหาวิธีแก้โจทย์เองตามแต่จินตนาการของแต่ละคนซึ่งครูจะย้ำเสมอให้นักเรียนค้นหาวิธีการแก้โจทย์มากกว่าหนึ่งวิธีเสมอ ที่เหลือคือการ 'สร้าง'ชุดความรู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะต้องสำรวจ รวบรวมข้อมูลที่มีเดิมมาวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกับวิธีที่ตัวเองพบโดยระวังการละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่น" อาจารย์จีระศักดิ์ กล่าวถึงกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จ
กระบวนการเรียนรู้ในห้องเรียนใหม่จะเป็นไปตามขั้นตอน "คิด-ร่วมมือ-แก้-สร้าง" โดยพ่อแม่ผู้ปกครองและครูบาอาจารย์คอยทำหน้าที่สนับสนุนทรัพยากรแวดล้อม เช่น การประสานองค์กรเครือข่ายที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกับนวัตกรรมที่นักเรียนกำลังศึกษา ดังที่ศูนย์ฯ เคยประสานไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมของนักเรียน
3 เทคนิคปั้นนวัตกรแห่งศตวรรษที่ 21
เตรียมขยายผล ให้คำปรึกษาฟรี
จากความสำเร็จที่เกิดขึ้น ศูนย์นวัตกรรมพร้อมขยายแนวคิดและเพิ่มเพื่อนร่วมทางในการพัฒนาคนคุณภาพเพื่ออนาคตของชาติ
"ศูนย์ได้เตรียมให้ความช่วยเหลือแก่โรงเรียนที่สนใจปฏิรูปการเรียนรู้ตามแนวทางเดียวกัน ผู้สนใจติดต่อมายังศูนย์นวัตกรรมโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ได้ เรายินดีให้คำปรึกษาหรือประสานความช่วยเหลืออื่นๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ" อ.จีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อศูนย์นวัตกรรมโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่
FaceBook : Satit Chula Innovation Hub หรือโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม โทรศัพท์ : 0-22182746, 08-4639-6363 (อ.จีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์)
Facebook: https://web.facebook.com/SatitChula
E-mail : [email protected]
Line@ : SATITCHULAELEM
Youtube Channel : SATITCHULAELEM
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit