เวที ร้องต้องรอด นับเป็นหนึ่งรายการที่เปรียบเสมือนคลังเพลงลูกทุ่งแท้ของไทย หลายเพลงที่ผู้เข้าแข่งขันเลือกนำมาใช้ประกวดมักเป็นบทเพลงอมตะคุ้นหู แต่ก็มีอีกหลายเพลงที่เกือบจะเลือนหายไปตามกาลเวลาหากไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาบรรเลงบนเวทีแห่งนี้ ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ เสรี รุ่งสว่าง สุดยอดขุนพลเพลงหวานที่มาร่วมเป็นคอมเมนเตเตอร์รับเชิญออกปากอยากให้ช่วยกันอนุรักษ์เพลงลูกทุ่งให้คู่ไทยไปยาวนาน
"รู้ไหมทำไมลูกทุ่งแท้จึงเริ่มหาย? เพราะมันร้องยาก ผมคิดว่ารุ่นผมอาจจะเป็นลูกทุ่งแท้รุ่นสุดท้าย ซึ่งผมไม่อยากให้มันหายไป เคยได้ยินคนพูดว่าเพลงลูกทุ่งมันเชย แต่เท่าที่เห็นทุกวันนี้มีเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่งมากมาย มันสามารถสร้างเงินสร้างอาชีพให้คนได้ เพราะฉะนั้นร้องต้องรอดเป็นหนึ่งเวทีที่ดี อยากฝากให้ช่วยส่งเสริมเพลงลูกทุ่งเพื่อส่งต่อไปถึงคนรุ่นหลัง หากเราช่วยจรรโลงมันไว้ เพลงลูกทุ่งจะคงอยู่ไปอีกยาวนาน" เสรี กล่าว
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพิธีกรอย่าง เอ - วราวุธ เจนธนากุล ภูมิใจนำเสนอรายการนี้เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะได้ก้าวขึ้นมาแสดงความสามารถของตัวเอง และมีสิทธิ์คว้าเงินรางวัลกลับบ้านไปสานความฝันของพวกเขาได้ เช่นสัปดาห์นี้มี 2 ผู้ท้าชิงต่างวัย คนแรกเป็นหนุ่มใหญ่ใจวัยรุ่นอายุ 65 ปี จ้อย - กิตติชนม์ ผลเจริญ อีกฝั่งเป็นสาวนักสู้ที่ต้องดูแลแม่และน้อง นกหวีด - ช่อทิพย์ ทิพวรรณ์ ทั้งคู่ต่างได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต้องการเงินกลับไปต่อลมหายใจตนเองและครอบครัว แต่คนที่ได้คะแนนจาก AI มากกว่าเท่านั้นจึงจะรอดผ่านเข้าไปรอบชิงแชมป์ได้
โดย เสรี ได้พูดถึงการใช้ระบบ AI ในการตัดสินว่า "การใช้ระบบ AI ไม่ได้แปลว่าต้องร้องให้เสียงเหมือนนะ ระบบมันเป็นกราฟ ถ้าสามารถแกะคีย์และโน้ตได้ตรงกราฟของต้นแบบก็มีสิทธิ์ที่จะชนะ น้อง ๆ ควรฟังรายละเอียดต้นแบบเพลงที่เราจะนำมาประกวดให้ดี ถ้าผ่าน AI มาได้ก็มีสิทธิ์ชิงแชมป์ต่อ เชื่อว่าถ้าแกะต้นฉบับมาดีจะไม่พลาดแน่ แต่ไม่ใช่ว่าต้องเสียงเหมือน เช่นถ้าใช้เพลงของผมประกวดคุณเอารายละเอียดลีลาจากผมไปได้ แต่ขอให้ใช้เสียงของตัวเอง แค่แกะคำให้ได้เหมือนที่ผมร้องเท่านั้นเอง"
งานนี้ทั้งพิธีกรและเหล่าคอมเมนเตเตอร์ต่างเอาใจช่วยกันเต็มที่ ขนาดรุ่นเก๋าอย่าง เสรี ยังบอกรายการนี้มันลุ้นตลอดเวลาจริง ๆ หากใครไม่เชื่อมาพิสูจน์พร้อมกันในรายการ ร้องต้องรอด ออกอากาศวันจันทร์ที่ 23 - พุธที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit