บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.5สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น% และ 3.9สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น% ต่อปี ฟากทริสเรทติ้งจัดอันดับความน่าเชื่อถือบริษัท "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" เริ่มเปิดจองซื้อ 3สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ส.ค.-สถาบันการเงิน ก.ย.64 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ เสนอขายหุ้นกู้ผ่าน 5 สถาบันการเงินชั้นนำ เดินหน้าระดมทุนต่อยอดธุรกิจ มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล
นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด แบ่งเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
สำหรับหุ้นกู้ STARK เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน 2564 แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ผู้ออกหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 อยู่ที่ระดับ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงตำแหน่งผู้นำของบริษัทในธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าในทวีปเอเชีย ทั้งนี้จะเสนอขายหุ้นกู้ผ่าน 5 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่
สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินหรือบริษัทในกลุ่ม รวมถึงใช้ชำระคืนตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่ม และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่าการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลมามากกว่า 50 ปี มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับโลก ทำให้เป็นที่ยอมรับทั้งในภูมิภาคและทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ ประกอบกับในปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้นักลงทุนต้องการลงทุนในหุ้นกู้เพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และถือว่าเป็นผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก
โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ วางแผนงานและกลยุทธ์ที่จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลขึ้นสู่ระดับ Top Ten ของโลก จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 14 สะท้อนให้เห็นว่า STARK เป็นหนึ่งในผู้ผลิตสายไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK กล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทฯ คือการลงทุนเข้าซื้อกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งตลอดในช่วงปี 2562-2563 โดยหลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 แล้ว บริษัทฯ ได้เดินหน้าเข้าซื้อกิจการเพื่อต่อยอดการเติบโต ส่งผลทำให้สินทรัพย์ของบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเพิ่มขึ้นเป็น 2.73 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 จากเดิมอยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2562 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าและยังเดินหน้าเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจ
นอกจากนี้ การซื้อกิจการของบริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้าในประเทศเวียดนามยัง ช่วยเสริมให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯมีความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ โดยช่วยขยายขนาดของธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งยังช่วยเพิ่มความหลากหลายด้านโรงงานผลิตและฐานการตลาดอีกด้วย ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของอุปสงค์ด้านสายไฟฟ้าในประเทศเวียดนามนั้น มีทิศทางที่ดี หลังจากที่ได้ประเมินความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 10-11% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงงานผลิตสายไฟฟ้าในประเทศไทยและประเทศเวียดนามโดยมีกำลังการผลิตรวมกันสำหรับสายไฟฟ้าชนิดตัวนำทองแดงมากกว่า 130,000 เมตริกตัน และสำหรับสายไฟฟ้าชนิดตัวนำอลูมิเนียมมากกว่า 100,000 เมตริกตัน ซึ่งทำให้สามารถผลิตสายไฟฟ้าที่มีความหลากหลายที่สุดในบรรดาผู้ผลิตสายไฟฟ้าในประเทศไทย ตั้งแต่สายไฟฟ้าเปลือย สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ ไปจนถึงสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ และบริษัทฯ ถือเป็นผู้ผลิตในประเทศเพียงรายเดียวที่สามารถผลิตสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษซึ่งมีแรงดันมากกว่า 230 กิโลโวลต์ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ STARK ในการซื้อกิจการจึงไม่ใช่แค่ผู้ผลิตสายไฟฟ้าในต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าอีกด้วย
บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) โชว์งบ 9 เดือน โตแกร่ง ฟันรายได้ 21,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% กำไรแตะ 2,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากรับรู้ยอดขายโครงการภาครัฐและเอกชนมากขึ้น ประกอบกับการปรับสัดส่วนการขายมุ่งเน้นกลุ่มสินค้า High Margin ฟากผู้บริหาร "ประกรณ์ เมฆจำเริญ" ระบุมั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30,000 ล้านบาท ทำนิวไฮต่อเนื่อง พร้อมสร้าง New S-curve ใหม่ นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า
STARK แกร่ง! โชว์ผลงาน Q2/65 รายได้โต 39.6% รับรู้ยอดขายโครงการใหญ่ทะลัก-ผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงหนุน มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30,000 ลบ.ทำนิวไฮต่อเนื่อง
—
บมจ.สตาร์ค ...
STARK เฮ! ติดโผดัชนี MSCI Small Cap
—
ขอปรบมือรัวๆให้กับ CEO "ประกรณ์ เมฆจำเริญ" บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น(STARK) หลังจากผลงานในไตรมาส 1/2565 สุดปัง!ทำราย...
STARK ฟอร์มสวย! กำไร Q1/65 พุ่ง 31.9% รับรู้ผลสำเร็จลงทุนเวียดนาม - เน้นงานมาร์จิ้นสูง ยันเป้ารายได้ปีนี้แตะ 30,000 ลบ. นิวไฮต่อเนื่อง
—
บมจ. สตาร์ค คอร์เ...
STARK จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 65 ผ่าน E-AGM
—
คุณชนินทร์ เย็นสุดใจ (กลาง) ประธานกรรมการ และคุณประกรณ์ เมฆจำเริญ (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บ...
STARK เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ชูดอกเบี้ย 2.90 - 4.20% ขายนักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ เริ่มจองซื้อ 9-11 พ.ค.นี้
—
บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK เตรี...
STARK ประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้ครั้งแรก มูลค่ากว่า 2,241 ล้านบาท ผู้ลงทุนสถาบัน-รายใหญ่แห่จองซื้อล้น มั่นใจพื้นฐานธุรกิจแกร่ง
—
บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเ...
STARK จัดประชุมนักวิเคราะห์ผ่านระบบออนไลน์
—
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (ซ้าย) ประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายประกรณ์ เมฆจำเริญ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...