NCAP ปักธงรายได้โตไม่น้อยกว่า 15% - ส่งสัญญาณ Q1/64 ผลงานฉลุย

นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (NCAP) หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 2564 ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนรายได้รวมอยู่ที่ 1,141.40 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ การขยายฐานลูกค้าทั้งจากตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่เป็นพันธมิตรในปัจจุบัน เพิ่มตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายใหม่ และขยายไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของจำนวนสัญญาใหม่อย่างรัดกุมและมีคุณภาพ ด้วยแผนการรุกตลาดโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน ทั้งการนำระบบ Mobile Application ระบบ Credit Scoring และพัฒนา ERP อำนวยความสะดวกในการทำงาน รองรับการขยายสินเชื่อให้มีความรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมจุดเด่นในการติดตามและทวงถามหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และคาดต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้และกำไรในปีนี้ให้มีการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ NCAP ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ คิดเป็นราว 99% ของพอร์ตลูกหนี้รวม เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจรถจักรยานยนต์มือสอง และสินค้าอื่นที่มีโอกาสทางการตลาด โดย ณ สิ้นปี 2563 NCAP มีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 3,814 ล้านบาท มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศรวม 24 สาขา อีกทั้ง มีดีลเลอร์ตัวแทนจำหน่ายรถเป็นพันธมิตรของบริษัทฯ ในพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 600 ราย ซึ่งบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำในพื้นที่ภาคใต้ ในปีนี้ไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติม แต่เน้นขยายพื้นที่ใหม่ ๆ จาก 43 จังหวัด ในปี 2563 เป็น 62 จังหวัดในปี 2564 เพื่อรองรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในปีนี้

"ในปีนี้ เราพร้อมขยายผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจหลักในการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ครอบคลุมรถจักรยานยนต์ขนาดรถเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่คาดจะมีการเติบโตขึ้นจากปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อผู้ผลิตรถจักรยานยนต์หลายรายต้องหยุดผลิต และเกิดอุปสงค์ส่วนเกินในตลาด ในปีนี้สถานการณ์ผ่อนคลายในทางที่ดีขึ้น แม้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะมีโควิดระลอกใหม่ แต่ก็ไม่กระทบธุรกิจ และ NCAP มีความพร้อมในการขยายตลาดด้วยพอร์ตที่มีคุณภาพ เห็นได้จาก NPL ของบริษัทฯ อยู่ในระดับต่ำมาก หรือเพียงไม่ถึง 2% อีกทั้ง การมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น และมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ COM7 ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และ SYNEX ผู้นำทางด้านสินค้าและเทคโนโลยี เข้ามาสนับสนุนโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต" นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย

• ข่าวสมชัย ลิมป์พัฒนสิน
• ข่าวบริหารจัดการ
• ข่าวมอเตอร์ไซค์
• ข่าวส่งสัญญาณ
• ข่าวเทคโนโลยี