SSP ปักหมุดปี 64 สร้างผลงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จ่อ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ขนาด 20 MW ในไตรมาส 3/64 และโครงการพลังงานลมขนาด 48 MW ในเวียดนาม COD ในไตรมาส 4/64 ดันกำลังการผลิตไฟฟ้าทะลุ 200 MW วางเป้าภายใน 5 ปี ทะยานแตะ 400 MW รายได้-กำไรกระฉูด บอร์ดจัดหนัก! แจกโบนัส 3 เด้ง ปันผลเป็นหุ้น-เงินสด-วอร์แรนต์
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศตามแผน โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 3/64 และโครงการพลังงานลมขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม จะเริ่ม COD ในไตรมาส 4/64 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นเป็น 200 เมกะวัตต์ ผลักดันรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 17 เมกะวัตต์ ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566 โดยบริษัทฯวางเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานนิวไฮต่อเนื่อง
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2563 มีรายได้รวม 1,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 452 ล้านบาท หรือ 30.5% เทียบปี 2562 มีรายได้รวม 1,481.0 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209 ล้านบาท หรือ 37.5% เทียบปี 2562 มีกำไรสุทธิ 557 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 1,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.2% สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานในปี 2563 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ได้รับปัจจัยหนุนจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯรับรู้รายได้จากโครงการเดิม และโครงการใหม่ Yamaga ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในมือที่เพิ่มเป็น 143 เมกะวัตต์ เทียบกับปี 2562 อยู่ที่ 114 เมกะวัตต์
อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2563 เป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 และแจกวอร์แรนต์ (SSP-W1) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 8 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 12.00 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564 และ (SSP-W2) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 3ปี 11เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 18-24 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564