นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำตัวแทนผู้ค้าหาบเร่แผงลอยทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ไปยื่นคำร้องที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ กทม. ระงับการยกเลิกจุดผ่อนผัน เปิดโอกาสให้ผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย ได้มีพื้นที่ค้าขายตามนโยบายรัฐบาลว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดระเบียบทางเท้า เพื่อคืนทางเท้าให้ประชาชน ได้แก่ การกวดขัน จัดระเบียบไม่ให้มีการตั้งวาง กองวัสดุสิ่งของบนทางเท้า กวดขันไม่ให้มีการจอดหรือขับขี่รถบนทางเท้า ประกอบกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ยกเลิกการให้ความเห็นชอบจุดผ่อนผันของหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบทางเท้า มุ่งเน้นจุดที่อยู่ในถนนสายหลัก สายรอง และในบริเวณสถานที่สำคัญ โดยก่อนทำการยกเลิกจุดผ่อนผัน จะจัดหาสถานที่รองรับผู้ค้า ซึ่งเป็นสถานที่ของทางราชการและสถานที่ของเอกชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจากจุดที่ยกเลิก รวมทั้งประสานกับเจ้าของสถานที่ให้คิดอัตราค่าเช่าแผงค้าในราคาที่เป็นธรรม จากนั้นจะเข้าฟื้นฟูบูรณะสภาพแวดล้อมพื้นที่ ปรับปรุงทางเท้า ผิวจราจร ปรับภูมิทัศน์ ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ จัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร ขณะเดียวกันได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะของหาบเร่-แผงลอย ขึ้นใหม่ แทนฉบับเดิม ซึ่งใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2548 ได้แก่ การพิจารณาพื้นที่ทำการค้าต้องคำนึงถึงความสะดวก ปลอดภัยของผู้ใช้ถนนและทางเท้า ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย การจัดผังแผงค้าในพื้นที่ทำการค้า รูปแบบ ลักษณะแผงค้า และสิ่งประกอบแผงค้า ต้องเป็นระเบียบ สวยงาม ไม่เป็นแผงถาวร มีการเว้นระยะห่างเป็นช่องทาง เข้าออกอาคาร สถานที่ กรณีมีเหตุฉุกเฉิน กำหนดคุณสมบัติของผู้ค้าและผู้ช่วยจำหน่ายสินค้า ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยและมีรายได้น้อย วิธีการคัดเลือกผู้ค้า กำหนดให้มีการแจ้งความประสงค์หากมีจำนวนมากกว่าแผงค้าให้ใช้วิธีจับสลาก เพื่อความสุจริต เป็นธรรม ข้อปฏิบัติในการขายหรือจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ทำการค้า ต้องปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัด และมีมาตรการควบคุม ลงโทษผู้ค้าที่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข รวมทั้งต้องคำนึงถึงสัดส่วนระหว่างประโยชน์ของการค้าขายบนทางเท้าเทียบกับความเสียหายและการขาดประโยชน์ในการใช้สอยที่จะเกิดกับสาธารณะ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของความคืบหน้าการจัดหาพื้นที่ทำการค้ารองรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ได้สำรวจสถานที่ รวมถึงทางเท้าที่มีความเหมาะสมในพื้นที่เขตต่าง ๆ เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่ทำการค้าหาบเร่-แผงลอย โดยสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย พบว่ามีบริเวณที่เหมาะสมเป็นพื้นที่รองรับผู้ค้า ได้แก่ ทางเท้าถนนพระรามที่ 2 ซอย 69 เขตบางขุนเทียน ทางเท้าในซอยอารีย์ 1 เขตพญาไท และบริเวณที่ว่างซอยอ่อนนุช 70 เขตประเวศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าหรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและมีความประสงค์จะให้กำหนดพื้นที่ทำการค้า สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ทั้ง 50 สำนักงานเขต เพื่อกำหนดจุดทำการค้า โดยเมื่อได้พื้นที่หรือสถานที่ที่เหมาะสม เป็นไปตามหลักเกณฑ์แล้ว สำนักงานเขตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit