คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล งานวิศวกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม (ESR) นำทีมจิตอาสาพัฒนาระบบไฟฟ้าปั๊มน้ำอัตโนมัติให้กับวัดมหาสวัสดิ์นาคพุฒาราม ภายใต้โครงการ วิศวะมหิดลรวมพลจิตอาสาพัฒนาระบบไฟฟ้าปั๊มน้ำบาดาลอัตโนมัติ เพื่อวัดประหยัดพลังงาน นำโดย ผศ.ดร.กฤษฎา อัศวสกุลเกียรติ รองคณบดีฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือและกิจกรรมเพื่อสังคม และ ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ส่งมอบระบบไฟฟ้าปั๊มน้ำอัตโนมัติแก่ พระมหาวิจิตร กัลยาณจิตโจ เจ้าอาวาส ณ วัดมหาสวัสดิ์พุฒาราม อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
ผศ.ดร.กฤษฎา อัศวสกุลเกียรติ รองคณบดีฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โครงการจิตอาสาครั้งนี้เพื่อสร้างต้นแบบระบบไฟฟ้าปั๊มน้ำอัตโนมัติ สำหรับวัดประหยัดพลังงาน โดยใช้วิศวกรรมสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพแก่วัดซึ่งเป็นศูนย์รวมของชุมชนในการปฏิบัติและเผยแพร่ธรรมะ นำความสุขสงบร่มเย็นสู่สังคม และสืบสานพระพุทธศาสนา ทำให้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าให้กับทางวัด จากการตรวจวิเคราะห์ของทีม ESR วิศวะมหิดล พบว่าทางวัดมหาสวัสดิ์ฯ ใช้เครื่องปั๊มน้ำบ่อบาดาลที่มีระบบไฟฟ้ากำลังสูงทำการปั๊มน้ำขึ้นไปยังแท็งค์เก็บน้ำด้านบน เพื่อที่จะปล่อยน้ำให้มีแรงดันลงมาใช้ภายในวัด ปั๊มน้ำนี้มีกระแสไฟฟ้าที่มากเกินจำเป็นและกินกระแสไฟฟ้าสูง ประกอบกับปั๊มทำงานตลอดเวลา ทำให้มีค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าสูงมาก ทีมงานจิตอาสาวิศวะมหิดล จึงได้ดำเนินการติดตั้ง ไทม์เมอร์ นาฬิกาตั้งเวลา (Timer Switch) ซึ่งช่วยให้วัดมหาสวัสดิ์ฯลดค่าใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้
ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ประโยชน์ของระบบไทม์เมอร์ นาฬิกาตั้งเวลา (Timer Switch) นี้ คือ สามารถตั้งเวลา เปิด - ปิด ตามการใช้งานจริงได้ โดยจะต่อไทม์เมอร์เข้ากับระบบไฟของปั๊มน้ำ ให้ตั้งเวลาเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 06.00 - 07.00 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 - 19.00 น. เพื่อให้การทำงานของปั๊มลดเวลาการทำงานลง จะช่วยประหยัดกระแสไฟฟ้าได้ ลดความสิ้นเปลืองพลังงาน นอกจากนี้ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และทีมงาน ยังถ่ายทอดความรู้เรื่อง ระบบการทำงานชุดควบคุมมอเตอร์ปั๊มน้ำด้วยระบบ Timer ความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าเบื้องต้นแก่พระภิกษุ สามเณร บุคลากรจิตอาสาและผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนในชุมชนสังคมต่อไป