กองทรัสต์ BOFFICE พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ 21 สิงหาคมนี้ หลังปิดการขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนและเข้าลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าโครงการภิรัช ทาวเวอร์ แอท ไบเทค เป็นที่เรียบร้อย รวมมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 3,300 ล้านบาท ชูขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์แตะหมื่นล้านบาท
นายอรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ’หรือ Bhiraj Office REIT (BOFFICE) พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ หลังจากได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค จากกลุ่มบริษัทภิรัชบุรีเป็นที่เรียบร้อย โดยโครงการดังกล่าวเป็นอาคารสำนักงานเกรด A ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Mixed-use ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (โครงการ BITEC Mixed-use Complex) ในย่านสุขุมวิท-บางนา โครงการเชื่อมต่อ BTS สถานีบางนา พื้นที่รวมประมาณ 70,741 ตารางเมตร (เป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิ 32,072 ตารางเมตร) เป็นระยะเวลา 30 ปีนับจากวันที่จดทะเบียนสิทธิการเช่าของกองทรัสต์เป็นที่เรียบร้อย โดยมีมูลค่าลงทุนในทรัพย์สินใหม่รวม 3,300 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งที่ 1 จำนวน 222,562,074 หน่วย ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 12.30 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 2,737 ล้านบาท และกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันการเงินอีกจำนวน 700 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับทรัพย์สินเดิมของกองทรัสต์ คือ โครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-use Commercial Complex ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) พื้นที่รวมประมาณ 94,853 ตารางเมตร (เป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิ 49,460 ตารางเมตร) ส่งผลให้ทรัพย์สินของ BOFFICE มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยมีพื้นที่ให้เช่าและพื้นที่ใช้สอยที่เข้าลงทุนรวมทั้งสิ้นเพิ่มขึ้นเป็น 165,594 ตารางเมตร (เป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิ 81,532 ตารางเมตร) และทรัพย์สินทั้ง 2 โครงการยังมีผลการดำเนินงานที่ดี โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 โครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ มีอัตราเช่าพื้นที่ 98.7% และโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค มีอัตราเช่าพื้นที่ 99.1%
ขณะที่ BOFFICE เป็นกองทรัสต์ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีมาโดยตลอด โดยปี 2562 จ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงานและส่วนลดทุนชำระแล้วแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์แล้วรวมทั้งสิ้นในอัตรารวม 0.7103 บาทต่อหน่วย ส่วนในปีนี้ได้จ่ายประโยชน์ตอบแทนแล้ว 6 เดือน ในอัตรารวม 0.3601 บาทต่อหน่วย
นายสาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า BOFFICE เป็นหนึ่งในกองทรัสต์คุณภาพที่เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทรัสต์ที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวจากเงินปันผล และยังช่วยสร้างสมดุลแก่พอร์ตการลงทุน โดยภายหลังหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายจากปริมาณหน่วยทรัสต์ใหม่ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจต่อการเข้าลงทุน ประกอบกับทรัพย์สินใหม่ที่เข้าลงทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น รวมถึงตั้งอยู่บนทำเลสุขุมวิท-บางนาติดแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่มีดีมานด์จากผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง
นางวราลักษณ์ พฤฒิวรมงคล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 ในช่วงที่ผ่านมามีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจและสามารถปิดการเสนอขายได้ตามเป้าหมาย โดยภายหลังหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 ของ BOFFICE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากทรัพย์สินเดิมของกองทรัสต์คือโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ และทรัพย์สินที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมคือโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค ล้วนเป็นโครงการออฟฟิศคุณภาพที่ตั้งอยู่ในทำเลดีติดแนวรถไฟฟ้า จึงเป็นที่ต้องการของผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด A สะท้อนจากผลการดำเนินงานของทรัพย์สินทั้ง 2 โครงการ
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit