STGT มั่นใจเติบโตแข็งแกร่งแม้มีวัคซีน COVID-19 พร้อมเตรียมเปิดตัวถุงมือยางธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้โปรตีน

บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้มีวัคซีนป้องกัน COVID-อุตสาหกรรม9 จากการใช้งานที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อรักษาสุขอนามัย เร่งเดินหน้าวิจัยพัฒนาสินค้านวัตกรรม 'ถุงมือยางธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้โปรตีน' ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังเพื่อขยายตลาดเซกเมนต์ใหม่ทดแทนการใช้ถุงมือไนไตรล์ เผยยังเดินเครื่องจักรเต็มที่และมีระยะเวลาส่งมอบสินค้า อุตสาหกรรม6-3ศรีตรังโกลฟส์ เดือน พร้อมเดินหน้าลงทุนขยายกำลังผลิตตามแผน

STGT มั่นใจเติบโตแข็งแกร่งแม้มีวัคซีน COVID-19 พร้อมเตรียมเปิดตัวถุงมือยางธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้โปรตีน

นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า มีความมั่นใจว่าบริษัทฯ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ในอนาคตจะมีการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมคาดการณ์ความต้องการใช้ถุงมือยางน่าจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาของการฉีดวัคซีน และในระยะยาวความต้องการใช้ถุงมือยังแข็งแกร่งและสดใสจากการเติบโตของความต้องการใช้ถุงมือในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างแพร่หลายไม่เฉพาะในทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นเพื่อสุขอนามัยที่ดีในยุค New Normal ที่คนทั่วโลกใส่ใจการรักษาความสะอาดยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน STGT ไม่ได้หยุดนิ่งในการหาโอกาสขยายตลาดและเพิ่มยอดขายสินค้า ล่าสุดได้ทุ่มงบเร่งวิจัยและพัฒนา (R&D) 'ถุงมือยางธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้โปรตีน' ซึ่งผลิตจากสูตรน้ำยางธรรมชาติและกระบวนการผลิตที่ผ่านการคิดค้นและทดลองจนสามารถป้องกันไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังได้ ซึ่งจะเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ที่สามารถสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเพื่อเจาะตลาดเซกเมนต์ใหม่ โดยมีเป้าหมายผลิตเพื่อจำหน่ายได้ในช่วงกลางปี 2564

คาดว่าสินค้าดังกล่าวจะเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมถุงมือยาง ให้เกิดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นทดแทนการใช้ถุงมือยางไนไตรล์ จากปัจจุบันที่ภาพรวมทั่วโลกมีความต้องการการใช้ถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ (ถุงมือยางสังเคราะห์) ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้ที่แพ้สารโปรตีนในน้ำยางธรรมชาติและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะใช้วัตถุดิบจากน้ำยางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีราคาถูกกว่าถุงมือยางไนไตรล์

กรรมการผู้จัดการใหญ่ STGT กล่าวต่อว่า แม้ในปัจจุบันมีความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตตามแผนงานที่วางไว้ โดยไม่มีการชะลอหรือปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนแต่อย่างใด และถึงปัจจุบันยังไม่มีลูกค้ารายใดยกเลิกหรือชะลอการรับสินค้า รวมถึงได้รับคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระยะเวลาการส่งมอบสินค้ายังคงอยู่ที่ 16 - 30 เดือน

"เรามั่นใจว่าถุงมือยางยังเป็นที่ต้องการจากทั่วโลก ปัจจุบัน STGT ยังเดินเครื่องจักรเต็มกำลังการผลิต และเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนงานเดิม ดังนั้น จากดีมานด์ที่มีอย่างต่อเนื่องจึงมั่นใจว่าราคาขายเฉลี่ยยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ" นางสาวจริญญา กล่าว

นางสาวธนวรรณ เสงี่ยมศักดิ์ ผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน STGT กล่าวว่า จากภาพรวมคำสั่งซื้อสินค้าที่แข็งแกร่งและราคาขายที่ปรับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนที่วางไว้ และมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 16,759.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนในปี 2564 บริษัทฯ วางเป้าหมายเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้มีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จ เชื่อว่าภาพรวมความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกยังมีอัตราเติบโตอย่างน้อย 12% ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ประกอบกับ STGT อยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิต โดยในปีหน้าจะมีโรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จอีก 4 แห่ง จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 35,900 ล้านชิ้นต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 32,600 ล้านชิ้นต่อปี

"ในปีหน้าบริษัทฯ จะเริ่มเดินเครื่องจักรโรงงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ใช้งบลงทุนรวมกว่า 9,900 ล้านบาท โดยในปี 2567 วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็นกว่า 82,550 ล้านชิ้น และในปี 2569 จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100,000 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5-6 ปีข้างหน้า" นางสาวธนวรรณ กล่าว


ข่าวจริญญา จิโรจน์กุล+ศรีตรังโกลฟส์วันนี้

STGT ผ่านการคัดเลือกเข้า 'หุ้นยั่งยืน' ปี 2564

ต้องปรบมือให้กับแม่ทัพหญิงคนสำคัญ 'จริญญา จิโรจน์กุล' กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT หลังนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปีที่ผ่านมา ก็สามารถนำองค์กรผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเข้าสู่ 'หุ้นยั่งยืน' ปี 2564 จากการประกาศล่าสุดของตลาดหลักทรัพย์ฯ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากบริษัทแม่ (STA) ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ สู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติที่เน้นการตอบโจทย์ Green Product

ไม่พลิกโผสำหรับ STGT หรือ บมจ.ศรีตรังโกลฟ... STGT เข้าคำนวณดัชนี SET 50 หนุนความสนใจจากนักลงทุน — ไม่พลิกโผสำหรับ STGT หรือ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) กลายเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ได้เข้าคำนวณดัชนี SE...

ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้น STGT หรือ บ... STGT กลับมาเปิดโรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว — ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้น STGT หรือ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หลังพบพนักงานโรงงานจังหวัด สุ...

เตรียมขึ้นแท่นเป็นหุ้นฮอตที่อยู่ในโฟกัสขอ... 'ศรีตรังโกลฟส์' โรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุนรายย่อยในสิงคโปร์ หลังนำหุ้นเข้าเทรดในตลาด SGX-ST — เตรียมขึ้นแท่นเป็นหุ้นฮอตที่อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนสิงคโปร์ หลั...