ลอรีอัล กรุ๊ป เผยวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อความยั่งยืน “L’OREAL FOR THE FUTURE” ตั้งเป้าหมายกับพันธสัญญาล่าสุดสำหรับปี ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม มุ่งยกระดับเร่งการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานโดยคำนึงถึงขีดจำกัดความปลอดภัยของโลกเป็นที่ตั้ง เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ตอกย้ำพันธสัญญาของบริษัทด้านความยั่งยืนและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม พร้อมริเริ่มการแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการตรวจสอบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
นายฌอง-พอล แอกง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “การพลิกโฉมการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของลอรีอัลกำลังก้าวเข้าศักราชใหม่ ปัญหาหลายอย่างที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ณ ปัจจุบันนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การเร่งยกระดับการทำงานบริษัทฯ เพื่อร่วมช่วยรักษาโลกให้ปลอดภัยเพื่อมนุษยชาติจึงเป็นภารกิจสำคัญ ทั้งนี้ ลอรีอัล จะดำเนินงานทั้งในส่วนธุรกิจของเราเอง และส่วนการช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในภาพรวม เราทราบดีว่าปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งกำลังคืบคลานเข้ามา บริษัทฯ จึงต้องยึดมั่นในเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงขีดจำกัดความปลอดภัยของโลกเป็นที่ตั้งอย่างเคร่งครัด”
การปฎิรูปธุรกิจของลอรีอัลเพื่อไม่ละเมิด “ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก” (planetary boundaries)
"ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก" นั้นมีข้อจำกัด หากถูกละเมิดจะเป็นอันตรายต่อสภาวะความเหมาะสมของโลกสำหรับการอยู่อาศัยและพัฒนาการของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเห็นพ้องอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ในช่วงทศวรรษต่อๆ จากนี้เราจำต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นลำดับต้นๆ เพื่อมนุษยชาติ ลอรีอัลจึงได้ตั้งเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลกดังกล่าวให้สำเร็จ
ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้กำหนดเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2030 เพื่อรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดย กำหนดเป้าหมายบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative) พร้อมยกระดับแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอีกสามประการ ได้แก่ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน โดยลอรีอัลจะไม่เพียงมุ่งลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงเท่านั้น แต่ยังต้องการลดผลกระทบของกิจกรรมทั้งหมดทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเออร์และผู้บริโภคของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจนั้นคำนึงถึงโลกที่มีทรัพยากรอยู่อย่างจำกัด และเป็นธรรมต่อชุมชนที่บริษัทฯ ทำงานด้วย
นางอเล็กซานดรา พัลต์ รองประธานบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความรับผิดชอบขององค์กร ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ลอรีอัลได้เปลี่ยนแปลงอย่างมากและนำความยั่งยืนมาเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ ด้วยพันธสัญญาใหม่นี้ บริษัทฯ ได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้ง ที่ไม่เพียงแต่มุ่งลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำงานของให้มากยิ่งขึ้น แต่ยังสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีข้อมูลในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมความงาม ลอรีอัลเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของเราเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างสังคมเพื่อการอยู่ร่วมกันและยั่งยืนต่อไป”
เป้าหมายสำคัญที่ลอรีอัลได้กำหนดบนพื้นฐานการทำงานภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก ได้แก่
สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น
ลอรีอัลคำนึงว่า การสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนตลอดระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่รวมถึงคู่ค้า ผู้ผลิต และผู้บริโภค เป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของบริษัทในการดำเนินงาน
ลอรีอัลได้พัฒนาการแสดงข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น โดยการแสดงข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมดังกล่าวมีคะแนนระดับ A ถึง E โดย “A” หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ “มีความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนมากที่สุด” ในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถตรวจสอบได้บนหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ โดยระดับคะแนนดังกล่าวได้การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และรับรองข้อมูลโดย บูโร เวอริทัส เซอร์ทิฟิเคชั่น (Bureau Veritas Certification) หน่วยงานด้านการตรวจสอบอิสระระดับโลก โดยแบรนด์แรกที่จะมีการแสดงข้อมูลนี้ คือผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมของแบรนด์การ์นิเย่ ซึ่งนับเป็นแบรนด์ความงามอันดับสามของโลก และเป็นผู้นำในตลาดที่ประเทศฝรั่งเศส โดยการแสดงข้อมูลนี้จะทยอยขยายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่น รวมถึงแบรนด์อื่นๆ และทุกหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ของลอรีอัลต่อไป
ช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนระดับโลกด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยการสนับสนุนเงินทุน
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ลอรีอัลได้ประกาศแผนการช่วยเหลือปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเร่งด่วนด้วยการจัดสรรงบประมาณ 150 ล้านยูโร (ประมาณ 5.2 พันล้านบาท) โดยงบประมาณดังกล่าวจะถูกนำไปใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ดังนี้
การดำเนินงานด้านความยั่งยืนในประเทศไทย
ลอรีอัล ประเทศไทย มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงานตามแนวทางบริษัทแม่ เพื่อช่วยบรรลุเป้าหมายภาพรวมที่กำหนดไว้ทั้งในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ในด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อปี 2017 ลอรีอัล ประเทศไทย ได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวของลอรีอัลแห่งแรกในเอเชีย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน LEED?ระดับ Silver โดยศูนย์กระจายสินค้าได้ลดการใช้พลังงานและน้ำ พัฒนาระบบขนส่ง ริเริ่มโครงการรีไซเคิล และดำเนินการพัฒนาศูนย์ฯ ให้เป็นมิตรและลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ด้านการช่วยเหลือและพัฒนาสังคม ลอรีอัล ประเทศไทย ได้ดำเนินการโครงการที่แข็งแกร่งในการช่วยเหลือผู้คนในชุมชนที่ด้อยโอกาสให้มีโอกาสได้รับการจ้างงานผ่าน โครงการจัดหาจัดจ้างเพื่อผู้ขาดโอกาสทางสังคม (Solidarity Sourcing) และ โครงการสอนทักษะอาชีพเสริมสวยแก่ผู้ด้วยโอกาส (Beauty For a Better Life) นอกจากนั้น ลอรีอัล กรุ๊ป ยังได้จัดซื้อน้ำมันรำข้าวหอมมะลิที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวหนังจากเกษตรกรในประเทศไทย โดยทำงานร่วมกับ 4 สหกรณ์ในภาคอีสานที่เกษตรกรรายย่อยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรม สนับสนุนขีดความสามารถของคนในชุมชน และพัฒนาระบบวนเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบที่ช่วยสร้างสมดุลคาร์บอนอีกด้วย โดยจากทุกโครงการที่กล่าวมา มีผู้ได้รับผลการช่วยเหลือในประเทศไทยราว 1,200 คน
นอกจากนี้ในส่วนผู้บริโภคในไทย จะได้มีโอกาสในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ของลอรีอัลที่นำมาจัดจำหน่ายในประเทศไทย ล้วนได้รับการพัฒนาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านส่วนผสมทางชีวภาพ บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิลหรือวัสดุชีวภาพ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ของผู้บริโภคได้
นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โลกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญและเดินหน้าแก้ไขอย่างเร่งด่วน เราจะมุ่งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนชุมชน ส่งเสริมความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมกับระบบนิเวศการดำเนินธุรกิจของเราในประเทศไทย และแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญอยู่ได้ เรามุ่งเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทั้งในอุตสาหกรรมความงามและอุตสาหกรรมอื่นๆ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคและทุกภาคส่วน ให้ร่วมกันเดินหน้าปกป้องโลกใบนี้”
รศ.ดร. สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “'ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก เป็นการประเมินถึงศักยภาพของโลกในการรับมือกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีกิจกรรมมากมายที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และกำลังจะก้าวข้ามขีดจำกัดความปลอดภัยมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อมนุษย์ สิ่งสำคัญคือขีดจำกัดความปลอดภัยดังกล่าวนั้นมีขอบเขตและต้องได้รับการแก้ไขร่วมกัน ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ผู้ผลิต รวมทั้งผู้บริโภคเอง ต้องร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนภายในปี 2030 เพื่อความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนของทุกคนและโลกใบนี้”
เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของลอรีอัล: คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์
ลอรีอัลตระหนักถึงการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว ในฐานะบริษัทที่มีอุตสาหกรรมการผลิต ลอรีอัลได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมโดยการให้ความสำคัญและดำเนินการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าเป็นลำดับแรก โดยการเปลี่ยนแปลงช่วงแรกได้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้วยผลการดำเนินงานดังนี้
ในปี 2013 ลอรีอัลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงาม เปิดตัววิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนระดับโลกปี 2020 “แบ่งปันความงามให้ทุกสรรพสิ่ง” หรือ “Sharing Beauty With All” โดยมีแกนหลักของวิสัยทัศน์คือนวัตกรรม SPOT (เครื่องมือประเมินเพื่อพัฒนาความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์) ในการประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของผลิตภัณฑ์ในทุกแบรนด์ โดยการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ถูกควบรวมเข้ากับกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ ตั้งแต่เริ่มต้นคิดค้นผลิตภัณฑ์
นายประสิทธิ์ เกิดโต รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (รษก.ผอ.อ.อ.ป.) เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับ "องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป." หน่วยงานในสังกัด ทส. ที่มี "ผลการประเมินคุณธรรม ประจำปี 2567" ระดับ "องค์กรพัฒนาคุณธรรม" ตามโครงการส่งเสริมชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรม โดยมี นายถนอมศักดิ์ เฉียบแหลม รองผู้อำนวยการ
กรมอนามัย สุ่มตรวจคุณภาพน้ำประปาพื้นที่แม่อาย เชียงใหม่ ไม่พบการปนเปื้อนสารหนู และตะกั่วเกินมาตรฐาน
—
จากกรณีลำน้ำกกมีสีขุ่น และได้เก็บตัวอย่างน้ำผิวดินจา...
กลุ่มสยามกลการ รับประกาศนียบัตร 'Climate Action Leaders Recognition' บนเวที UN ประเทศไทย ตอกย้ำดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนระดับสากล
—
เมื่อเร็วๆ นี้ ...
DMT สุดปลื้ม คว้าเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อมครบทุกพื้นที่สำนักงานด่าน
—
นางอโนมา อุฤทธิ์ รองก...
UMI ได้รับใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) จาก โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก
—
บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหา...
กปภ. ผนึกกำลัง สอศ. อบรมช่างประปาฟรี สร้างอาชีพให้ประชาชน
—
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดพิธีเปิดโครงการฝึ...
"SAPPE" รับประกาศนียบัตร 'Climate Action Leaders' เวทีผู้นำด้านความยั่งยืน ยึดมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน พร้อมสนับสนุน Diversity & Equality
—
นางสาวปิยจิ...
บางจากฯ คว้ารางวัลระดับสากล "Climate Action Leader" บริษัทพลังงานหนึ่งเดียวของไทย สะท้อนบทบาทผู้นำสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
—
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 นางกลอยต...
ก้าวอีกขั้น นีโอ คอร์ปอเรท ผนึก ม.วลัยลักษณ์ ผลักดันงานวิจัยสู่ตลาด ปั้นสินค้า FMCG ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย
—
บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO โดย ...