สทนช.เปิดเวทีแจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” ครั้งสุดท้าย เร่งสรุปข้อกังวลของทุกภาคส่วนริมโขง เสนอ สปป.ลาว

          สทนช. ลงพื้นที่จังหวัดเลย เปิดเวทีให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง เป็นครั้งที่ 3 เร่งรวบรวมข้อกังวลด้านผลกระทบของทุกภาคส่วนในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง กำหนดเป็นท่าทีของไทย สะท้อนผ่านกลไก PNPCA ไปยัง สปป.ลาว
          วันนี้ (25 ก.พ. 63) ณ ศาลาประชาคม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดเวทีให้ข้อมูล โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตามระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้าและข้อตกลง ครั้งที่ 3 (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement, PNPCA) โดยมี นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานพิธีเปิด และนายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวให้การต้อนรับ โดยมี ดร.จันสะแหวง บุนยง อธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงาน สปป.ลาว ร่วมให้ข้อมูลโครงการฯ พร้อมด้วยผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและพื้นที่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดเลย และจังหวัดเชียงราย ได้แก่ คณะกรรมการเครือข่ายภาคประชาสังคมลุ่มน้ำโขง กลุ่มผู้ใช้น้ำ ด้านเกษตรกรรม และด้านประมง ตลอดจนสถาบันการศึกษา
          นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบางนับเป็นโครงการลำดับที่ 5 ที่ สปป.ลาว มีแผนจะก่อสร้างบนแม่น้ำโขงสายประธาน ต่อจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี โครงการไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮง โครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากแบงและโครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากลาย ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวเป็นประเด็นที่ภาคประชาชนและประชาสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำโขงของไทยทั้ง 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ เลย และเชียงราย ซึ่งประเทศไทยเป็น หลวงพระบาง ใน 4 ประเทศ สมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC) ที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง คือ ราชอาณาจักรกัมพูชา สปป.ลาว ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้รัฐบาล 4 ประเทศ ได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 โดยมีข้อตกลงที่จะใช้น้ำของระบบลุ่มน้ำโขงอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรม หากมีการนำน้ำจากแม่น้ำโขงมาใช้ภายในลุ่มน้ำหรือผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ จะต้องดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement, หรือ PNPCA) ซึ่งเป็นกระบวนการที่กรอบระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน 
          ดังนั้น สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย (Thai National Mekong Committee: TNMC) ทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานภายใต้กรอบความร่วมมือ MRC ได้กำหนดจัดเวทีให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป. ลาว ภายในประเทศ จำนวน 3 ครั้ง ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง โดยครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้แทนภาคประชาชนพื้นที่ริมแม่น้ำโขงจากจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ และนครพนม ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและในพื้นที่ ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม รวม หลวงพระบาง75 คน และครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้แทนภาคประชาชนพื้นที่ริมแม่น้ำโขงจากจังหวัดมุกดาหาร อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและในพื้นที่ ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม รวม หลวงพระบาง55 คน และครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จังหวัดเลย โดยเชิญผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้แทนภาคประชาชนพื้นที่ริมแม่น้ำโขงจากจังหวัดเลยและเชียงราย กลุ่มผู้ใช้น้ำแม่น้ำโขงเพื่อการเกษตรและประมง ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและในพื้นที่ และภาคประชาสังคม รวมกว่า 8สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คน โดยหลังจากนี้ สทนช. จะเร่งสรุปประเด็นข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบสะสมและข้ามพรมแดนของโครงการฯ ต่อพื้นที่ท้ายน้ำของคนในท้องถิ่น อาทิ ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม รวมถึงผลกระทบระบบนิเวศลำน้ำโขง ที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ นำไปสู่การกำหนดเป็นท่าทีของประเทศไทย เพื่อเสนอต่อ สปป.ลาว พิจารณา ผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ตามลำดับ นอกจากนี้ สทนช. จะได้ติดตามและร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Action Plan) ของโครงการร่วมกับ 4 ประเทศ เพื่อให้การพัฒนาเขื่อนหลวงพระบางเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำให้น้อยที่สุด อันก่อให้เกิดความร่วมมือในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมรองรับการพัฒนาโครงการฯ ต่อไป
          สำหรับการจัดเวทีให้ข้อมูลตามกลไก PNPCA มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง และได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ส่งผ่านไปยัง สปป.ลาว ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่จะได้รับทราบข้อมูลองค์ประกอบและการพัฒนาโครงการ รวมถึงเสนอความคิดเห็นต่อข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการเปิดเวทีวันนี้จะมีการให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว โดยสาระสำคัญจะเน้นชี้แจงความเป็นมาและข้อมูลของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง ระเบียบปฏิบัติ PNPCA สรุปประเด็นข้อคิดเห็นต่อรายงานทบทวนทางด้านเทคนิคของโครงการฯ รวมทั้งรายงานผลการจัดเวทีให้ข้อมูลทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลอดจนรับฟังข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน และส่งให้ สปป.ลาวได้รับทราบผ่านกลไกPNPCA
สทนช.เปิดเวทีแจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” ครั้งสุดท้าย เร่งสรุปข้อกังวลของทุกภาคส่วนริมโขง เสนอ สปป.ลาว
 
สทนช.เปิดเวทีแจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” ครั้งสุดท้าย เร่งสรุปข้อกังวลของทุกภาคส่วนริมโขง เสนอ สปป.ลาว
สทนช.เปิดเวทีแจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” ครั้งสุดท้าย เร่งสรุปข้อกังวลของทุกภาคส่วนริมโขง เสนอ สปป.ลาว
 
สทนช.เปิดเวทีแจงข้อมูลการสร้าง“เขื่อนหลวงพระบาง” ครั้งสุดท้าย เร่งสรุปข้อกังวลของทุกภาคส่วนริมโขง เสนอ สปป.ลาว
 
 
 

ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. ระดมผู้เชี่ยวชาญรุดตรวจสอบอาคารที่ทำการใหม่ ยืนยันแข็งแรง ปลอดภัย

สทนช. ลงพื้นที่ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สทนช. หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ยืนยัน ยังแข็งแรง ปลอดภัย เผยการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบรอยร้าว ไม่มีความเสียหาย เร่งประสานผู้มีใบอนุญาตตรวจสอบอาคารอย่างละเอียด ขีดเส้นแล้วเสร็จภายใน 15 วัน ยืนยันการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามกฎหมาย นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะโฆษก สทนช. และประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ (อาคาร สทนช.) เปิด

กทม. แนะวิธีใช้น้ำประปาช่วงน้ำทะเลหนุนสูง - น้ำเค็มรุกล้ำ ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ

นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำช่วงวันที่ 30 พ.ย. 10 ธ.ค. 67...

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระ... กทม. พร้อมเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง-น้ำเค็มรุกล้ำ ป้องกันชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ-จุดฟันหลอ — นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าว...

นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนัก... กทม. เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเหนือ เร่งเสริมความสูงแนวคันกั้นน้ำ — นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการติดตามเฝ้าระวั...

ดร.อาภากร สุปัญญา รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์แ... วว. จับมือ สสน. /สทนช. จัด Work shop พัฒนาผลผลิตเกษตรเพิ่มมูลค่าจากน้ำของชุมชน ครั้งที่ 3 — ดร.อาภากร สุปัญญา รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และจัดการนวัตกรรม สถาบ...

สทนช.ลุยภาคเหนือ ติดตามพื้นที่เสี่ยงขาดแค... สทนช.ติดตามพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ จ.กำแพงเพชร — สทนช.ลุยภาคเหนือ ติดตามพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำและผลการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ อ.คลองลาน และ อ...

กอนช. ถกเข้มแผนบริหารจัดการน้ำปี 67 เพื่อ... กอนช. ถกเข้มแผนบริหารจัดการน้ำปี 67 เตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งเชิงรุก — กอนช. ถกเข้มแผนบริหารจัดการน้ำปี 67 เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งแบบเชิงรุก คาดครึ...

ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ สถาบั... วว. ร่วมหารือ สทนช. เพื่อขับเคลื่อน วทน. ส่งเสริมสนับสนุนพี่น้องประชาชน — ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศ...