ในโครงการ Citizen of Love นี้ สยามพิวรรธน์ได้สนับสนุนและให้โอกาสกับผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ และผู้ด้อยโอกาส ได้มาใช้พื้นที่ในโครงการของสยามพิวรรธน์และบริษัทในเครือ เพื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลิตขึ้นมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและวางจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ด้วยการเปิดโซน "Made By Beautiful People" ซึ่งได้จัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งของ ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) ชั้น 4 และ ชั้น 5 ไอคอนสยาม และ ร้าน ODS (Objects of Desire Store) ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ให้เป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างโอกาส และสร้างอาชีพที่ก่อให้เกิดรายได้ โดยสยามพิวรรธน์ทำการบริหารจัดการขายสินค้าและทำการตลาดอย่างครบวงจร ให้แก่ 7 องค์กรนำร่อง ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมอาชีพคนพิการ, มูลนิธิแสงสว่างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่, โครงการอรุโณทัยเพื่อคนพิเศษ, มูลนิธิออทิสติกไทย, มูลนิธิ ณ กิตติคุณ และมูลนิธิสิกขาเอเชีย โดยมุ่งหวังให้เป็นสถานที่ที่สร้างกำลังใจ ที่จะแสดงผลงาน เผยแพร่ความสามารถ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ให้เป็นที่ประจักษ์และยกย่องทั้งในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยี่ยมชม
นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า "กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เป็นองค์กรที่สร้างสรรค์โครงการระดับโลก ที่ยึดมั่นในการทำให้ธุรกิจของเราสร้างคุณค่าและเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเรา โดยมีการดูแลผ่าน 3 มิติ คือ ด้านผู้คน ด้านชุมชนและสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เราจึงใช้สถานที่ของเราเป็นหลักที่จะมอบความสุข และโอกาสให้แก่ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ รวมถึงกลุ่มคนผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ และผู้ด้อยโอกาส ด้วยหลัก 3 ประการ กล่าวคือ
1) ในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก เราเป็นผู้นำเรื่องการทำอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ในอาคารอย่างครบวงจรเป็นคนแรก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการและผู้ทุพพลภาพรวมถึงผู้สูงอายุและคนทั้งมวลให้เข้าถึงอย่างเท่าเทียม ซึ่งที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ มีการลงทุนออกแบบก่อสร้างอาคาร และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่ใช้งานที่ได้มาตรฐานอารยสถาปัตย์สากล ไม่ว่าจะเป็น การทำทางเข้า-ออกอาคารที่เชื่อมโยงกับทางเดินและทางลาดรอบอาคารและเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ การติดตั้งนวัตกรรมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคารในพื้นที่วันสยาม (OneSiam) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็นทุกประเภทสามารถสัญจรไปมาเชื่อมต่อระหว่าง 3 ศูนย์การค้า อันได้แก่ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอนได้อย่างง่ายดาย อาทิ ลิฟต์ขนาดกว้างใหญ่สำหรับรถเข็นทุกประเภท การติดป้ายสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายแสดงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ทุพพลภาพที่ได้มาตรฐานบริการทุกชั้น และที่จอดรถพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ทุพพลภาพ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรพลังสยามทำการปรับปรุงทางเชื่อมแยกปทุมวัน ให้เป็น skywalk ด้วยแนวคิดการออกแบบอารยสถาปัตย์ เพื่อให้ผู้คนสามารถสัญจรบนทางเชื่อมได้อย่างสะดวกและทั่วถึงตลอดสี่แยก นอกจากนี้การออกแบบตัวอาคารของไอคอนสยามทั้งอาคารก็ยังใช้แนวคิด "อารยสถาปัตย์" และการออกแบบท่าเรือไอคอนสยามซึ่งจัดให้มีทางลาดขึ้นลงของผู้พิการและผู้ทุพพลภาพโดยเฉพาะแยกจากผู้โดยสารอื่นและเป็นมิตรกับคนทั้งมวล จนเรียกได้ว่าเป็นโครงการตัวอย่างระดับโลกของการออกแบบที่เป็นสากลและรองรับคนทุกกลุ่มในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน
2) การใช้สถานที่เพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และก่อให้เกิดรายได้ โดยเราได้มีการจัดสรรพื้นที่ในทุกโครงการของสยามพิวรรธน์และบริษัทในเครือ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลพิเศษได้แสดงความสามารถ หรือนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลิตขึ้นมาวางจำหน่ายได้อย่างเท่าเทียมคนทั่วไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการต่อยอด สร้างรายได้ และให้พวกเขารู้สึกมีความภาคภูมิใจในความสามารถของตน อาทิ การจัดสรรพื้นที่ถาวร Made by Beautiful People ณ ไอคอนคราฟต์ ที่ไอคอนสยาม และ ร้าน ODS (Objects of Desire Store) ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ และการจัดงานกิจกรรมเปิดบูธจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของผู้พิการ เป็นต้น นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์มีการจ้างงานนักกีฬาเฟสปิกเกมส์ (FESPIC GAMES) มาเป็นพนักงานประจำตามนโยบายขององค์กร
3) การมอบประสบการณ์ให้กับผู้ด้อยโอกาส ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ดีภายในโครงการของเรา ด้วยความที่เราเป็นสถานที่ที่มอบความสุข ความสนุก ความเพลิดเพลิน ความตื่นตาตื่นใจ จุดพลังแห่งแรงบันดาลใจ มีแหล่งการเรียนรู้พร้อมสร้างจินตนาการ และนำเสนอความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครให้กับทุกคนที่มาเยือน โดยเราได้มีการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาเสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียน และสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อพัฒนาความคิด ความรู้ให้แก่น้องๆอยู่เสมอ อาทิ นำเด็กกำพร้าจากภาคใต้ เรียนรู้ชีวิตสัตว์ใต้ท้องทะเล ณ SeaLife Bangkok Ocean World นำเด็กพิการจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ สร้างจินตนาการ เปิดโลกทัศน์เรียนรู้หลากหลายอาชีพแบบผู้ใหญ่ในเมืองเสมือนจริง ณ คิดส์ซาเนีย (Kidzania) พร้อมสัมผัสความตื่นตาตื่นใจไปกับสยามพารากอน รวมทั้งการจัดแคมเปญเพื่อให้ลูกค้าร่วมกับสยามดิสคัฟเวอรี่ มอบของขวัญปีใหม่ให้กับเด็กผู้ด้อยโอกาส โดยเราเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่ทำเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15 ปี
"Made By Beautiful People" คือเวทีแห่งความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบของเหล่าผู้มีความสามารถในการออกแบบและผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ หรือผู้ด้อยโอกาส ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับการจำหน่ายสินค้าจากเหล่าดีไซน์เนอร์และศิลปินไทย เพื่อสร้างความเท่าเทียม ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ
โซน "Made By Beautiful People" ได้นำผลิตภัณฑ์มาวางจำหน่าย ถึง 2 locations คือที่ ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) ณ ไอคอนสยาม และ ร้าน ODS (Objects of Desire Store) สยามดิสคัฟเวอรี่ นำร่องด้วยแบรนด์ผลิตภัณฑ์จาก 7 องค์กร ได้แก่
ศูนย์ส่งเสริมอาชีพคนพิการ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัด กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีความมุ่งมั่นส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ มีรายได้ สามารถเลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืน นำผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยฝีมือจากคนพิการ 100% นำเอกลักษณ์ลายผ้าขาวม้า มาตัดเย็บและเกิดเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด
มูลนิธิแสงสว่างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (Light for the Disabilities Foundation)ผลิตภัณฑ์โดยผู้พิการทางสมองและปัญญา ตุ๊กตาจากผ้าขนหนูโดยผู้พิการ เพื่อส่งเสริมอาชีพคนพิการด้วยการว่าจ้างให้มีรายได้ และยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาคนพิการมาร่วมทำผลิตภัณฑ์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยการพึ่งพาตนเองได้มากที่สุด
โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ผลงานการทอผ้าโดยนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ภายใต้แบรนด์ Thitipawin แบรนด์กระเป๋าที่ตัดเย็บจากผ้าทอซาโอริ โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524 รายได้จากการจำหน่ายสินค้านำไปใช้เพื่อการศึกษาของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินต่อไป
โครงการอรุโณทัยเพื่อบุคคลพิเศษ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ Heartist โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาจากการบำบัดของบุคคลพิเศษ สร้างสรรค์กระเป๋าผ้าเพื่อสังคมที่มีเพียงใบเดียวในโลกทำมาจากผ้าผืนทอมือจากเด็กพิเศษ ชื่อแบรนด์เป็นการรวมคำระหว่างคำว่า "heart" + "artist" หมายถึง ความเชื่อว่าแค่มีใจ ทุกคนบนโลกเป็นศิลปินได้ แบรนด์นี้ก่อตั้งโดย วริศรุตา ไม้สังข์ หญิงสาวอายุเพียง 25 ปี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานอาสาสมัคร ทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มาจากการบำบัดของบุคคลพิเศษ
มูลนิธิออทิสติกไทย Art Story by Autistic Thai คือองค์กรสาธารณประโยชน์ ดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และบุคคลออทิสติก เป็นธุรกิจเพื่อสังคมของกลุ่มเด็กพิเศษและบุคคลออทิสติกที่ร่วมกันรังสรรค์พรสวรรค์ และจินตนาการผ่านภาพวาดลายเส้น ผลงานศิลปะที่มีชิ้นเดียวในโลก สู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ โดยการสนับสนุนของศูนย์ฝึกอาชีพออทิสติกไทย ภายใต้มูลนิธิออทิสติกไทย ที่มุ่งมั่นส่งเสริมคุณค่าและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กพิเศษอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
มูลนิธิ ณ กิตติคุณ ร่วมกับ Cheevit Water น้ำดื่มชีวิต เปิดโอกาสให้เด็กที่มีพรสวรรค์และความสามารถพิเศษ ได้แสดงออกผ่านการออกแบบฉลากผลิตภัณฑ์ขวดน้ำดื่มบรรจุขวด ในโครงการ Cheevit Water Series II by Gifted or Talented Child Ryukin – ปริญญา – Nattee โดยทุกการซื้อน้ำดื่มชีวิต 1 ขวด จะร่วมสมทบทุน 1 บาท เมื่อมอบให้มูลนิธิ ณ กิตติคุณ เพื่อนำไปสร้างโอกาสการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ ในกลุ่มอาการออทิสติก ดาวน์ซินโดรม สมองพิการ ต่อไป
มูลนิธิสิกขาเอเชีย ชาวบ้านในชุมชนคลองเตย และดีไซเนอร์จิตอาสาชาวญี่ปุ่น ชื่อ ฟูจิตะ ร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ FEEMUE (ฝีมือ) แบรนด์ฝีมือ โดยแบรนด์นี้เกิดขึ้นมาจากวิถีของคนในสังคมชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดตัดเย็บโดยกลุ่มสตรีที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายคือการเปลี่ยนภาพลักษณ์เชิงลบของชุมชนคลองเตยด้วยพลังแห่งการออกแบบ นอกจากนี้ FEEMUE (ฝีมือ) ยังได้รับรางวัล Good Design Award 2017 แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ร่วมอุดหนุนสินค้าและส่งเสริมงานฝีมือและความสามารถของเหล่าคนพิเศษในโซน Made By Beautiful People ให้เกิดพลังใจและเกิดรายได้ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้มีอาชีพที่ยั่งยืนด้วยความภาคภูมิใจ ได้แล้ววันนี้ที่ "ไอคอนคราฟต์" จุดหมายปลายทางแห่งงานคราฟต์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชั้น 4 และ 5 ไอคอนสยาม และ ร้าน ODS (Objects of Desire Store) ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่
วันนี้ สยามพิวรรธน์ในฐานะ 'ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์' (Creative Economy) ยังคงยึดมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) ด้วยการร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) และ การสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Value) เพื่อสร้างความเท่าเทียมและสร้างประโยชน์ร่วมกันให้เกิดขึ้นในสังคมทุกระดับ ยกระดับคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถของคนไทย เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ
เกี่ยวกับ "ICONCRAFT"
ไอคอนคราฟต์เป็นพื้นที่นำเสนอคุณค่าความเป็นไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ผ่านงานนวัตศิลป์และงานคราฟต์แบบร่วมสมัย เพื่อเชิดชูช่างฝีมือไทยและผู้มีความสามารถในการออกแบบทุกคน ให้มีโอกาสมีพื้นที่เพื่อแสดงความสามารถและเพิ่มคุณค่าในผลงานตนเอง ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการนำงานคราฟต์ต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจในอนาคต โดยให้ไอคอนคราฟต์เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนและพบปะกันระหว่างผู้ประกอบการ และช่างฝีมือ นักออกแบบจากหลากหลายแขนงวิชากว่า 300 ราย ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ รวมถึงยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ชื่นชอบในงานคราฟต์ให้อยากมาเยือนประเทศไทยอีกด้วยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02 495 7080 หรือ FB ICONCRAFT THAILAND
เกี่ยวกับ ร้าน ODS (Objects of Desire Store)
ODS (Objects of Desire Store) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 620 ตารางเมตร ที่ชั้น 3 โซนครีเอทีฟ แล็บ สยามดิสคัพเวอรี่ โดยรวบรวมสินค้าแบรนด์ไทยกว่า 130 แบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน โดยสินค้าแต่ละชิ้นมีความโดดเด่นในด้านการดีไซน์ที่การันตีด้วยรางวัลต่างๆ จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) รวมถึงสินค้าจากโครงการ DEMark, Talent Thai และอื่นๆ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02 658 1000 ต่อ 4021
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit