PPPM ปรับโครงสร้างธุรกิจหันใช้ นโยบาย Supply Chain Outsourcing รายได้โตคงเดิม ค่าใช้จ่ายการผลิตลด หนุนงบสวย

31 Jul 2019
PPPM ปรับโครงสร้างธุรกิจ หันใช้ นโยบาย Supply Chain Outsourcing แทน กดค่าใช้จ่ายในการผลิตลด ขณะที่รายได้จากการขายคงเดิม 2,000 ล้านบาทต่อปี กดต้นทุนการเงินลด หนุนงบการเงินสวย โชว์แผนล้างหนี้หมดเกลี้ยง เหลือหนี้หุ้นกู้ 1,121 ล้านบาท เตรียมแต่งตั้งที่ปรึกษาเจรจาเจ้าหนี้ ขอยืดอายุหุ้นกู้ออกไปอีก 2 ปี
PPPM ปรับโครงสร้างธุรกิจหันใช้ นโยบาย Supply Chain Outsourcing รายได้โตคงเดิม ค่าใช้จ่ายการผลิตลด หนุนงบสวย

พลเอกเชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน ในระยะยาว

ในส่วนของการปรับโครงสร้างธุรกิจ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการรุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพราะมองว่าจะเป็นโอกาสในการขยายฐานรายได้ในรูปแบบ Recurring Income ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงถึงความสามารถในการสร้างรายได้ และผลประกอบการของบริษัทฯ ในระยะยาว

ขณะเดียวกันได้ปรับนโยบายการดำเนินธุรกิจในส่วนของการจำหน่ายอาหารสัตว์ มาใช้วิธีการจัดจ้างภายนอก (Supply Chain Outsourcing) ให้เป็นผู้ผลิต ทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง เหลือเพียงค่าใช้จ่ายจากการขายและการตลาดเท่านั้น ขณะที่ฐานรายได้ยังคงเดิมโดยมีรายได้จากธุรกิจขายอาหารสัตว์ 2,000 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการมีแนวโมที่ดีขึ้น

ปัจจุบันบริษัทฯ มีหนี้หุ้นกู้อีก จำนวน 1,121 ล้านบาท ครบกำหนดชำระงวดแรกในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นี้ โดยบริษัทฯ แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาในการจัดทำแผน และจัดให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 30 วันนับจากวันครบกำหนดชำระ เพื่อนำเสนอแผนการยืดระยะเวลาชำระหนี้หุ้นกู้ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยบริษัทฯ สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดได้ (Callable bond) ทางบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าผู้ถือหุ้นกู้จะมีมติรับหลักการตามที่บริษัทฯ เสนอ เนื่องจากในระหว่างนี้ ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ตามปกติ และผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Sweetener) อีกด้วย

พลเอกเชาวฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายการดำเนินการตามแผนนี้ เป็นการแก้ปัญหาที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด และ บริษัทฯ จะมีผลประกอบการ อัตราส่วนการเงินดีขึ้นทันที โดยไม่ต้องพึ่งการระดมเงินกู้ระยะสั้น ดอกเบี้ยสูงอีกต่อไป และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในระยะยาว