ผู้ประกอบธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 มีมติอนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียน การออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ตามที่คณะกรรมการเสนอ สะท้อนความเชื่อมั่นตามแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ และการเติบโตในอนาคต
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 400,705,844 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในราคา 1.06 บาทต่อหุ้น อัตราส่วนการจองซื้อ 1.2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ โดยหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะเสนอขายควบคู่กับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (J-W1) โดยวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ และได้รับสิทธิจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record Date) วันที่ 3 พฤษภาคม 2562 วันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2562 โดยบริษัทฯ จะได้รับเงินเพิ่มทุนในครั้งนี้ (ในกรณีที่มีการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิที่จัดสรร) ประมาณ 424.75 ล้านบาท กรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม บริษัทจะเสนอขายหุ้นที่เหลือดังกล่าวให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งประสงค์ที่จะจองซื้อ โดยจะเสนอขายตามราคาตลาดในช่วงที่เสนอขาย ซึ่งจะไม่ได้รับสิทธิในการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ J-W1
สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (J-W1 ) จำนวนไม่เกิน 200,352,922 หน่วย จะจัดสรรให้แก่ผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนโดยไม่คิดมูลค่า กำหนดอัตราใช้สิทธิที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิที่ 2 บาท คาดจะสามารถออกใบสำคัญแสดงสิทธิภายในดือนมิถุนายน 2562 โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยทางการที่เกี่ยวข้อง และมีอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ พร้อมทั้ง กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรกของ J-W1 วันที่ 30 กันยายน 2562 โดยบริษัทฯ จะได้รับเงินจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้ประมาณ 400 ล้านบาท หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญครบถ้วน
การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการเติบโต และเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ เงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและออก J-W1 จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และบริษัทย่อย ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม รวมถึง ใช้สำหรับการลงทุนขยายธุรกิจการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ The Jas Amata Nakorn มูลค่าโครงการกว่า 411.530 ล้านบาท แบ่งเป็นสิทธิการเช่าช่วงที่ดินระยะเวลา 25 ปี มูลค่า 211.53 ล้านบาท การก่อสร้างและออกแบบโครงการมูลค่า 200 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จภายในต้นปี 2563
โดยบริษัทฯ มั่นใจว่า The Jas Amata Nakorn เป็นโครงการที่มีศักยภาพการเติบโตสูง หวังเจาะกลุ่มลูกค้าย่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน มีประชากรหนาแน่น รวมทั้ง อยู่ในแหล่งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC ZONE) มีกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ และคาดว่าจะได้รับการตอบรับ จากก่อนหน้านี้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าชุมชนมาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ The Jas Wanghin , The Jas Ramintra และ Jas Urban Srinakarin
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit