แพทย์รามาฯ แนะแก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

          แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรืออยู่ในสภาวะเป็นโรคอ้วน เผยการรักษาผู้เป็นโรคอ้วนที่เข้ารับการผ่าตัดในปัจจุบันประสบความสำเร็จสูงถึงร้อยละ 59.3 โดยคนไทยมีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนเพิ่มสูงมากขึ้นเป็นอันดับ ภาวะน้ำหนักเกิน ของอาเซียน และมีภาวะเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เพิ่มสูงขึ้น
          ผศ.นพ.ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุและเวชบำบัดวิกฤตทางศัลยกรรม โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า เรื่องของปัญหาภาวะน้ำหนักเกินของคนไทย จนทำให้เป็นโรคอ้วน เป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable Diseases : NCDs) อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี โรคซึมเศร้า ภาวะหายใจลำบากและหยุดหายใจขณะหลับและโรคข้อเข่าเสื่อม เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยคนอ้วนหรือผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้มากกว่าปกติ ภาวะน้ำหนักเกิน-3 เท่า นอกจากนี้ภาวะโรคอ้วนในประเทศไทย มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต จากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายพบคนไทยอายุ โรงพยาบาลรามาธิบดี5 ปีขึ้นไปหรือมากกว่า โรงพยาบาลรามาธิบดี ใน 3 อยู่ในภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับในช่วง ภาวะน้ำหนักเกิน ทศวรรษที่ผ่านมา และหากเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคอาเซียนพบว่าคนไทยอ้วนสูงสุดเป็นอันดับ ภาวะน้ำหนักเกิน จากทั้งหมด โรงพยาบาลรามาธิบดีปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ ประเทศอาเซียน รองจากประเทศมาเลเซียเท่านั้น โดยมีคนไทยอ้วนถึงร้อยละ 8.5 (ประมาณ 5.6 ล้านคน) และพบว่าคนไทยร้อยละ ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์.9 เข้าเกณฑ์เป็นโรคอ้วนที่พึงได้รับการผ่าตัด (ประมาณ 6.7 แสนคน)
          หลักการในการรักษาโรคอ้วนในปัจจุบัน คือการลดน้ำหนัก ซึ่งประกอบด้วยกระบวนการหลัก 3 ข้อหลัก ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี. การควบคุมการกินอาหารและเครื่องดื่ม ภาวะน้ำหนักเกิน. การออกกำลังกาย 3. การติดตามผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการศึกษาในประเทศอิสราเอลพบว่าสำหรับผู้เป็นโรคอ้วน (ดัชนีมวลกาย: body mass index; BMI ตั้งแต่ 4ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ กิโลกรัมต่อตารางเมตร) แล้วโอกาสที่จะลดน้ำหนักสำเร็จได้ด้วยกระบวนการเหล่านี้ คือประมาณร้อยละ 7.5 และโอกาสไม่ประสบความสำเร็จสูงถึงร้อยละ 9ภาวะน้ำหนักเกิน.5 เทียบกับผู้เป็นโรคอ้วนที่เข้ารับการผ่าตัดที่ประสบความสำเร็จสูงถึงร้อยละ 59.3 คือโอกาสสำเร็จมากกว่ากันถึง 7.9 เท่า
          จากความสำเร็จในเรื่องน้ำหนักที่ลดลง ด้วยวิธีการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน ยังทำให้มีเรื่องของความสำเร็จในการควบคุมและรักษาโรคร่วมที่เกิดจากโรคอ้วน โดยเฉพาะ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหยุดหายใจขณะหลับ และภาวะระดับไขมันในเลือดสูง ซึ่งผู้เข้ารับการผ่าตัดจะสามารถควบคุมโรคร่วมดังกล่าวได้มากกว่าผู้ที่ไม่ผ่าตัดถึงเกือบ 5 เท่า ที่สำคัญที่สุดคือชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ทั้งนี้จากการศึกษาในประเทศสวีเดนพบว่าผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอายุเฉลี่ยที่ยืนยาวกว่าผู้ไม่ผ่าตัดถึง 8 ปี ดังนั้นการผ่าตัดรักษาโรคอ้วนจึงเป็นวิธีรักษาโรคอ้วนอย่างได้ผลมานานกว่า 6ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ ปีแล้ว
          ในปัจจุบันนวัตกรรมด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านกล้อง (laparoscopic surgery) จะทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดฟื้นตัวได้เร็ว เจ็บน้อยกว่า แผลผ่าตัดเล็กกว่า แต่ต้องทำภายใต้กระบวนการดูแลที่เป็นระบบโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีทีมแพทย์ นักกำหนดอาหารและโภชนาการ พยาบาลและสาขาวิชาชีพที่พร้อม การรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนด้วยวิธีการผ่าตัดนั้นคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ดำเนินการรักษาด้วยการผ่าตัดรักษาโรคอ้วนมานานกว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ ปี มีผู้เข้ารับการผ่าตัดไปแล้วกว่า ภาวะน้ำหนักเกินปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ กว่าราย โดยทีมแพทย์และระบบการดูแลที่เน้นความปลอดภัยของผู้เข้ารับการผ่าตัดเป็นหลัก และยังเป็นแหล่งสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้แก่สังคม ประชาชนที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือผู้ที่ประสบปัญหาโรคอ้วน สามารถศึกษาหาข้อมูลจากช่องทางเฟสบุ๊ค "คลินิกรักษาโรคอ้วนครบวงจร"
แพทย์รามาฯ แนะแก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
 
แพทย์รามาฯ แนะแก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
แพทย์รามาฯ แนะแก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
 
แพทย์รามาฯ แนะแก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
 
 
 
 

ข่าวปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์+โรงพยาบาลรามาธิบดีวันนี้

"สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์" ร่วมเวทีเสวนาสถานการณ์แผ่นดินไหว สร้างความมั่นใจทีมแพทย์ ตอกย้ำบทบาทผู้นำที่ปรึกษางานก่อสร้างครบวงจร

นายไพรัช เล้าประเสริฐ (ที่ 2 จากขวา) รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ร่วมเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ "สถานการณ์แผ่นดินไหวและแนวทางการจัดการกับสถานการณ์" จัดโดย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดย STI ได้ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ผ่านการบรรยายในหัวข้อ "ความปลอดภัยของอาคารหลังแผ่นดินไหว และผลสำรวจความมั่นคงแข็งแรงของอาคารโรงพยาบาล" เสริมความมั่นใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติภารกิจท่ามกลางวิกฤต ซึ่งการ

ไม่ใช่แค่ฝัน! สาธารณสุขจับมือสถาบันแพทย์ช... จับตาไทย! ลุยพัฒนา ATMPs-สเต็มเซลล์ พลิกโฉมการแพทย์ เพิ่มโอกาสรักษาโรคร้ายแรง — ไม่ใช่แค่ฝัน! สาธารณสุขจับมือสถาบันแพทย์ชั้นนำ เร่งเครื่องพัฒนา ATMPs-สเต็...

โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ร่วมกับ โรงเรียนพยาบ... รพ.ไทยนครินทร์ ร่วมกับ รร.พยาบาลรามาธิบดีฯ จัดการประชุมวิชาการ — โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ร่วมกับ โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดก...

โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ร่วมกับโรงเรียนพยาบา... รพ.ไทยนครินทร์ ร่วมกับ รร.พยาบาลรามาธิบดีฯ ขอเชิญเข้าร่วมการประชุมวิชาการ — โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ร่วมกับโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลราม...

เปิดมุมมองการบริหารของหัวเรือใหญ่แห่ง มูล... มูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดวิสัยทัศน์ปี 2568 ต่อยอดพันธกิจแห่ง "การให้" สู่ "การให้ที่ยั่งยืน" — เปิดมุมมองการบริหารของหัวเรือใหญ่แห่ง มูลนิธิรามาธิบดี ในพระบร...

แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี สร้างความเชื่อมั่... แพทย์รามาฯ แนะแก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง — แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรืออยู...

โดย ผศ.นพ.ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ หัวหน้าส... แก้วิกฤตคนไทยอ้วนด้วยการผ่าตัด…ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง — โดย ผศ.นพ.ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุและเวชบำบัดวิกฤตทางศัลยกร...