ดอกกล้วยไม้สีเหลืองทอง และพันธุ์ดอกไม้เขตร้อนชื้น ถูกนำมาสร้างสรรค์ให้มีลักษณะเส้นสายโปรยปรายลงมา เสมือนช่วงเวลาศุภมงคลที่เหล่าเทวดานางฟ้าจะโปรย ดอกมณฑารพ ลงมาจากสรวงสวรรค์ เฉกเช่นเดียวกับความสุข ความเบิกบานใจของพสกนิกรชาวไทย ที่แซ่ซ้องอวยชัยเนื่องในวาระมงคลครั้งนี้
พวงดอกไม้เครื่องแขวน ซึ่งถูกเรียงร้อยขึ้นจากดอกไม้นานาพรรณกว่า ๑๐ ชนิด อันมีความหมายมงคล และ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ประกอบไปด้วย ดอกรัก ดอกกุหลาบ ดอกแกลดิโอลัส ดอกลิลลี่ ดอกทิวลิป ดอกเยียบีร่า ดอกไอริส ดอกคาเนชั่น ดอกทานตะวัน และ ดอกเบญจมาศ ชูช่อเป็นพวงดอกไม้เครื่องแขวนที่ทอดตัวยาวถึง ๑๐ เมตร หากยืนอยู่ใต้เครื่องแขวนอันวิจิตรนี้แล้วมองย้อนขึ้นไปจะเห็นพวงดอกไม้เรียงร้อยเป็นภาพของดอกรวงผึ้ง เปรียบเสมือนเหล่าพสกนิกรชาวไทยผู้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐
"ดอกรวงผึ้ง" พันธุ์ไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ด้วยดอกรวงผึ้งมีสีเหลืองเรืองรอง ตรงกับสีประจำวันจันทร์ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพ และจะผลิดอกในช่วงวันพระราชสมภพพอดี โดยทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปในที่ต่างๆ จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทวยราษฎร์ "ดอกรวงผึ้ง" จึงเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ รายล้อมด้วยมวลดอกไม้สีเหลืองนานาพันธุ์ เปรียบดั่งปวงชนชาวไทยที่มีพระองค์เป็นศูนย์รวมจิตใจนั่นเอง
ปิดท้ายด้วย โซนน้ำพุเคลื่อนไหว ประกอบเพลง "สดุดีจอมราชา" เพลงเทิดพระเกียรติสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสมหามงคลดังกล่าว
พร้อมกันนี้ในระหว่างวันที่ ๓-๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ อาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ก็ได้ร่วมเฉลิมฉลองโดยการ จัดแสดง แสง สี ฉายเลเซอร์ (Laser and Lighting Show) บนอาคาร ภายใต้แนวคิด "เหล่าทวยเทพ เทวดา นางฟ้า และปวงชนประชาราษฎร์ ทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมสรรเสริญ อำนวยอวยพร และแสดงความจงรักภักดี แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ซึ่งการแสดงจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐ น. – ๒๒.๐๐ น. เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรร่วมกับเหล่าพสกนิกรทั้งแผ่นดิน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit