SMT ตั้งเป้าปี 62 เทิร์นอะราวด์วางยอดขายโต 40% จ่อล้างขาดทุนสะสมหมดทั้งจำนวน

           SMT มั่นใจแนวโน้มผลประกอบการปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56พร้อมพงศ์ ไชยกุล เทิร์นอะราวด์ ฟื้นตัวชัดเจน หลังผลประกอบการปี 6กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ พลิกมีกำไร 7กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์.94 ล้านบาท เตรียมประกาศล้างขาดทุนสะสม พร้อมเร่งสร้างรายได้จากลูกค้าใหม่ที่มีเข้ามาต่อเนื่อง เน้นลดต้นทุนเพื่อเพิ่มกำไร ชูกลยุทธ์ผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ โดยวางเป้าหมายยอดขาย พร้อมพงศ์ ไชยกุล,4สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ล้านบาท หรือเติบโต 4สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์%
          นายพร้อมพงศ์ ไชยกุล กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ด้านซัพพลายเชน บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT กล่าวถึง แนวโน้มผลประกอบการในปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56พร้อมพงศ์ ไชยกุล คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา หลังจากผลประกอบการปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สามารถกลับมามีกำไรสุทธิ 7กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์.94 ล้านบาท จากปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทฯมีผลขาดทุนสุทธิ 546.95 ล้านบาท เนื่องจากการตั้งสำรอง บริษัทตั้งเป้าหมายของยอดขายไว้ปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56พร้อมพงศ์ ไชยกุล ที่ พร้อมพงศ์ ไชยกุล,4สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ล้านบาท หรือเติบโต 4สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์% เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าใหม่จากต่างประเทศประมาณ 7-8 ราย คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนในปีนี้ได้ทั้งหมด
          โดยแผนปียังเน้นกลยุทธ์ผลิตสินค้าที่มาร์จิ้นสูงเป็นหลัก เน้นการกระจายตัวยอดขายของแต่ละธุรกิจและกระจายลูกค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง สำหรับไฮไลท์ปีนี้กลุ่มสินค้า Optics , Box Build , Advance Packaging ยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วน IC Packaging นั้นอุตสาหกรรมมีการอ่อนตัวลงแต่ก็จะรักษาระดับรายได้ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา
          "บริษัทจะเพิ่มยอดขายทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าใหม่ New Products อีกทั้งฝ่ายพัฒนาธุรกิจได้เร่งหาลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายตามคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาปีนี้ในส่วนของลูกค้า Optics คาดว่ายอดขายจะโตมากกว่า 8สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์% ส่วนลูกค้า Box Build คาดว่ายอดขายจะโต กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์% และ IC Packaging จะรักษาระดับรายได้ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทพยามเร่งปรับตัวในการลดต้นทุนในการผลิตเพื่อให้ได้อัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเลือกที่จะผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง มาผลิตสินค้าประเภท high value added เช่น IC Packaging, Wafer dicing, Advance Pakaging และ Optics '' นายพร้อมพงศ์กล่าว
          ส่วนการลงทุนในปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56พร้อมพงศ์ ไชยกุล นี้ เบื้องต้นบริษัทวางเงินไว้ที่ประมาณ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ล้านบาท รองรับการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรให้สามารถรองรับเทคโนโลยีการผลิตรูปแบบใหม่ๆ ของลูกค้าได้อย่างเต็มความสามารถมากขึ้น
          นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ พร้อมพงศ์ ไชยกุล9 เมษายน พร้อมพงศ์ ไชยกุล56พร้อมพงศ์ ไชยกุล นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 79,3สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์,สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ บาท และส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 5กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์4,6สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์8,864 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท ณ วันที่ 3กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ธันวาคม พร้อมพงศ์ ไชยกุล56กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ จำนวน 593,9สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์8,864 บาท หลังจากผลงานในปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ถือเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์อย่างเต็มตัว สามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ 7กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์.94 ล้านบาท เพื่อเปิดทางให้มีการจ่ายเงินปันผลได้เมื่อบริษัทมีกำไร
          สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในงวดปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ มีกำไรสุทธิ 7กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์.94 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี พร้อมพงศ์ ไชยกุล56สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ที่ขาดทุนสุทธิ 546.95 ล้านบาทเนื่องจากการตั้งสำรอง มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการจำนวน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์,765.66 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.75% ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯที่เน้นผลิตสินค้าที่มาร์จิ้นสูงเป็นหลัก โดยมีกำไรขั้นต้นจำนวน 3พร้อมพงศ์ ไชยกุล9.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น พร้อมพงศ์ ไชยกุล57.69 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 356.47% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการบริหารต้นทุนการผลิตของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้น