กรม สบส.แจงนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม มีผลดีต่อประเทศ พร้อมจัดทำมาตรการป้องกันการขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพ

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แจงนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย โดยสอดคล้องกับนโยบายสำคัญช่วยผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมศึกษาผลกระทบ และวางมาตรการรับมืออย่างใกล้ชิดต่อไป
          จากกรณี ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อมวลชนว่านโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม อาจจะส่งผลกระทบกับระบบบริการสุขภาพไทย ทำให้ค่ารักษาพยาบาลและยาของโรงพยาบาลเอกชนมีราคาแพงขึ้นต่อเนื่อง เพราะผู้ที่เข้ามารักษาตามแผนดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลให้อัตราค่ารักษาพยาบาลและค่ายาในประเทศหรือที่รักษาคนไทยก็ปรับตัวแพงตามไปด้วย อีกทั้ง ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพ เพราะโรงพยาบาลที่รักษาต่างชาติก็จะให้ค่าตอบแทนที่สูง นั้น
          วันนี้ (ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติโรงพยาบาลเอกชน กรกฎาคม โรงพยาบาลเอกชน56โรงพยาบาลเอกชน) นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับคุณภาพ มาตรฐานการรักษาพยาบาล และบริการทางการแพทย์ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสภาวิชาชีพ โดยมีการควบคุม กำกับ ตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.โรงพยาบาลเอกชน54ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ทั้งด้านสถานที่ บุคลากร ยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงความปลอดภัย กับผู้รับบริการทุกคนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ส่วนอัตราค่ารักษาพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขได้นำข้อร้องเรียนจากประชาชนมาปรับรูปแบบการเรียกเก็บค่าบริการจากเดิมที่มีการแยกเก็บเป็นรายการให้เป็นไปในลักษณะการเหมาจ่าย โดยสถานพยาบาลต้องแจ้งอัตราค่าบริการให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจทุกครั้ง และต้องไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมยกเว้นกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนซึ่งต้องแจ้งรายละเอียดให้ผู้รับบริการรับทราบก่อนทุกครั้ง ซึ่งสถานพยาบาลเอกชนก็ถือเป็นหนึ่งในสถานบริการสุขภาพที่ดูแลสุขภาพประชาชนคนไทยใน นักท่องเที่ยว กองทุนหลัก ทั้งกลุ่มข้าราชการไทยและครอบครัว จากกองทุน กรมบัญชีกลาง กลุ่มประชาชนที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (นักท่องเที่ยวกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บาทรักษาทุกโรค) จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกลุ่มประชาชนที่มีสิทธิประกันสังคม จากกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม รวมทั้ง นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (UCEP)
          นายแพทย์ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า การที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับบริการรักษาพยาบาล หรือบริการ ทางการแพทย์ที่ประเทศไทยตามนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม (Medical Tourism) นับเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศโดยรัฐสามารถนำรายได้ดังกล่าวมาพัฒนาประเทศ อีกทั้ง เป็นการสร้างอาชีพ และกระจายรายได้สู่ประชาชน แต่ก็อาจจะมีผู้ที่เป็นกังวลว่าการที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลไทยอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อกลไกการตลาดทำให้อัตราค่ารักษาพยาบาลมีราคราสูงขึ้นนั้น ตนขอชี้แจงในประเด็นที่สังคมเกิดความกังวลทั้ง โรงพยาบาลเอกชน ประเด็น ดังนี้ ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ.ตนขอชี้แจงว่า นโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม จะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด ด้วยสถานพยาบาลภาครัฐมีกรอบในการควบคุมอัตราค่าบริการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว ส่วนสถานพยาบาลเอกชนก็มีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ควบคุม กำกับ อัตราค่าบริการให้เหมาะสมและเป็นธรรม โดยมีกระทรวงสาธารณสุขร่วมพิจารณา จึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีการขึ้นอัตราค่ารักษาพยาบาล และโรงพยาบาลเอกชน.ในส่วนที่มีความกังวลว่าจะเกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรสุขภาพในภาครัฐ ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมามีการเคลื่อนย้ายบุคลากรจากภาครัฐไปภาคเอกชนบางส่วน กระทรวงสาธารณสุขจึง โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจึงได้มีการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.โรงพยาบาลเอกชน54ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ให้สถานพยาบาลเอกชนสามารถจัดการศึกษา อบรม วิจัยในสถานพยาบาลของตนเองได้เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และในการแก้กฎหมายดังกล่าวยังเพิ่มการส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนจึงช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้
          ทั้งนี้ ประเทศไทยของเราได้มีนโยบายพัฒนาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ในทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ)ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) โรงพยาบาลเอกชน)ศูนย์กลางบริการสุขภาพ (Medical Service Hub) นักท่องเที่ยว)ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub) และ4) ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) ที่ได้ขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.โรงพยาบาลเอกชน547 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากบริการทางการแพทย์ และการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ เกิดการกระจายรายได้สู่ประชาชน อีกทั้งช่วยส่งเสริม พัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ของประเทศให้มีมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สังเกตได้จากการที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานสถานพยาบาลระดับสากล (Joint Commission International ;JCI) มากที่สุดในทวีปเอเชีย สร้างความไว้วางใจ และยอมรับต่อบริการทางการแพทย์ของไทยในสายตาชาวโลก โดยนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม เองก็เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหา หรือผลกระทบที่แต่ละฝ่ายมีความกังวลว่าจะเกิดในอนาคต กรม สบส.จะให้ความสำคัญกับการศึกษาผลกระทบและวางมาตรการรับมือจากนโยบายเมคัล ทัวรริสซึมอย่างใกล้ชิดต่อไป

กรม สบส.แจงนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม มีผลดีต่อประเทศ พร้อมจัดทำมาตรการป้องกันการขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพ

ข่าวกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ+ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติวันนี้

กรม สบส.แจงนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม มีผลดีต่อประเทศ พร้อมจัดทำมาตรการป้องกันการขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพ

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แจงนโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย โดยสอดคล้องกับนโยบายสำคัญช่วยผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมศึกษาผลกระทบ และวางมาตรการรับมืออย่างใกล้ชิดต่อไป จากกรณี ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อมวลชนว่านโยบายเมดิคัล ทัวรริสซึม อาจจะส่งผลกระทบกับระบบบริการสุขภาพไทย ทำให้ค่ารักษาพยาบาลและยาของโรงพยาบาลเอกชนมีราคาแพงขึ้นต่อเนื่อง เพราะผู้ที่เข้ามารักษาตามแผนดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลให้อัตราค่ารักษาพยาบาล

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) เร่งทบ... กรม สบส.เร่งเครื่องยุทธศาสตร์เมดิคัลฮับ ปรับกลยุทธ์ดันบริการสุขภาพและการท่องเที่ยวสู่ตลาดโลก — กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) เร่งทบทวนยุทธศาสตร์การพ...

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุ... กรม สบส.จัดประชุมทบทวนยุทธศาสตร์ การประพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางนานาชาติ — ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงส...

สบส. พัฒนาสปาและนวดไทยสู่มาตรฐานระดับโลก

นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่าจากการที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือเมดิคัล ฮับ (Medical Hub) ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อรองรับการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นพัฒนามาตรฐานให้...

ดร.สาโรช ออกบูธงาน Thailand Medical Hub Expo 2012

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. – 2 ก.ย. 55 ที่ผ่านมา บริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดร.สาโรช จำกัด นำโดย คุณทิพวรรณ ปานเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักงานการตลาด พร้อมทีมงาน ได้ร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์สินค้า ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในงาน “...

ยิ่งลักษณ์ ชูนวดไทยสู่สายตาโลก สร้างสถิติ นวดไทยมากที่สุดในโลก Guinness World Records ในงาน Thailand Medical Hub Expo 2012

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนประเทศไทย รับมอบประกาศนียบัตร นวดไทยมากที่สุดในโลก บันทึกลง Guinness World Records จากนายโรเบิร์ต มอลลี่ (Mr. Robert Molly)...

ประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ นวดไทยมากที่สุดในโลก Guinness World Records ในงาน Thailand Medical Hub Expo 2012

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้สร้างสถิติใหม่ นวดไทยจำนวนมากที่สุดในโลก จำนวน 641 คู่ โดยนวดพร้อมกันเป็นระยะเวลานานถึง 12 นาที บันทึกลง Guinness...

ภาพข่าว: กระทรวงสาธารณสุข ชวนเที่ยวงาน Thailand Medical Hub Expo 2012

กระทรวงสาธารณสุข ชวนเที่ยวงาน Thailand Medical Hub Expo 2012 ชมงานแสดงสินค้า นิทรรศการและบริการเพื่อคนรักสุขภาพ พร้อมบริการตรวจสุขภาพ ฟรี อบรมความรู้ ฟรี สาระบันเทิงต่างๆ มากมาย ฟรี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ...