หนึ่งเดียวที่มาพร้อมกับแอนติไวรัส BitDefender ช่วยปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Attack) แบบเรียลไทม์ มั่นใจพร้อมเจาะตลาดกลุ่มธุรกิจ, เอสเอ็มอี ขนาดกลาง-ใหญ่, กลุ่มบริษัทออฟฟิศ และสถานประกอบการต่างๆ ชูความสะดวก เรียบง่าย ไม่กินพื้นที่มากเกินไป ลดความซ้ำซ้อน สามารถใช้ทำงานได้หลายแบบในเครื่องเดียว และคุ้มค่าต่อการใช้งาน เสริมทีมบริการหลังการขาย On Site Service ให้บริการถึงที่ทำงาน พร้อมตั้งเป้าขึ้นสู่ตำแหน่งที่ 3 ตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร
นางสาวสุธิดา แจ่มฤกษ์แจ้ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โคนิก้า มินอลต้า บิสสิเนส โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการจัดการงานพิมพ์และข้อมูลองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต และการแบ่งปันข้อมูลผ่านโซลูชั่น และเพื่อการบริการงานพิมพ์ที่หลากหลายทั้งในระดับสำนักงาน และผู้ประกอบการ ทั้งยังเป็นผู้ให้บริการจัดจำหน่ายเครื่องมัลติฟังก์ชัน (Office Multifunction) ที่ได้รับรางวัลในเรื่องของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงแท่นพิมพ์ดิจิตอล (Production Printing) แท่นพิมพ์ดิจิตอลอุตสาหกรรม (Industrial Printing) และวัสดุสิ้นเปลืองที่เกี่ยวข้อง โคนิก้า มินอลต้า ยังเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการจัดการเอกสารภายในองค์กร ซึ่งให้บริการด้านซอฟต์แวร์โซลูชั่นต่างๆ (Software Solution) ที่ช่วยบริหารจัดการงานเอกสาร อีกด้วย
และในปี 2562 นี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันรุ่นใหม่ล่าสุด Konica Minolta "bizhub i-Series" ภายใต้คอนเซ็ปต์ Rethink it เปลี่ยนบทบาทของเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ให้กลายเป็นศูนย์กลางของสถานที่ทำงาน เชื่อมต่อผู้คน สถานที่ และอุปกรณ์ทุกชนิดเป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่อนาคตจากแนวคิดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Rethink Security นวัตกรรมใหม่เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด หนึ่งเดียวที่มาพร้อมกับแอนติไวรัส BitDefender ทำงานสแกนไวรัสรวมไปถึงข้อมูลที่รับเข้าและส่งออกทั้งหมดแบบเรียลไทม์ ทั้งยังตั้งค่าการใช้งานได้ตามต้องการ สามารถตั้งเวลาสแกนข้อมูลล่วงหน้า ช่วยปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Attack) พร้อมผสานกับการทำงานของ bizhub SECURE ที่จะดูแลปกป้องรวมถึงสำรองข้อมูลในหน่วยความจำ มั่นใจได้ว่าทุกข้อมูลจะปลอดภัยสูงสุด ช่วยยกระดับการทำงานพาธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงไม่มีสะดุด
Rethink Simplicity แนวคิดที่ต่อยอดการออกแบบอันเรียบง่าย มาสู่รูปแบบการใช้งานที่สะดวกปลอดภัย ใช้งานง่าย ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว สไตล์สมาร์ทโฟน ปรับเอียงได้ถึง 90 องศา ไฟแจ้งเตือนสถานะงานแบบ LED ดีไซน์โค้งมนทันสมัย มอบการใช้งานที่สะดวกสบายแก่ผู้ใช้ทุกคน ทั้งยังปรับแต่งแอปพลิเคชันการใช้งานได้หลากหลาย จากบริการ Konica Minolta MarketPlace สามารถตั้งฟังก์ชันที่ใช้งานเป็นประจำให้ถูกแสดงเป็นอันดับแรก ช่วยตัดทอนเวลาที่ยุ่งยากเปล่าประโยชน์ ยกระดับการทำงานให้ดีขึ้นและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ, Rethink Productivity แนวคิดขยายขีดความสามารถของงานพิมพ์ จากระบบ Dispatcher Suite Solution ช่วยเพิ่มผลผลิตในระดับสูงสุด พร้อมกำจัดงานที่ซ้ำซ้อน ลดต้นทุนและการทำสำเนาลง และลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยฟังก์ชันการทำงานล่วงหน้า รวมไปถึงขั้นตอนการตรวจสอบและการกระจายเอกสารที่ตั้งค่าได้ตามต้องการ ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ยกระดับคอนเซ็ปต์ Rethink it สู่ศูนย์กลางควบคุมกระบวนการงานพิมพ์ขององค์กร i-series เป็นนวัตกรรมเครื่องถ่ายเอกสารเพียงแบรนด์เดียว ที่มีหน่วยประมวลผลกลาง CPU Quad Core 1.6GHz, หน่วยความจำมาตรฐาน (RAM) 8 GB และยังมี Storage device 256 GB ที่เป็นแบบ SSD ช่วยให้ตอบสนองต่อการทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังเป็นเครื่อง MFP รุ่นแรกที่มาพร้อมกับ BitDefender ซึ่งเป็น ซอฟต์แวร์แอนติไวรัสระดับโลก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังไม่มีคู่แข่งรายไหนที่ทำได้ในสินค้าระดับเดียวกัน
"bizhub i-SERIES" มีขั้นตอนการทำงานที่รวดเร็วและง่ายขึ้นโดยมอบความสามารถในการทำงานและสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพสูง พร้อมรองรับการทำงานที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์การจัดการงานพิมพ์หรืองานสแกนได้ทันทีจากพาแนลเครื่อง สมัยใหม่รวมถึงอุปกรณ์ITS ในรูปแบบ (on-premise / cloud) ได้ตลอดเวลา และสร้างความมั่นคง พร้อมความปลอดภัยทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก BitDefender ที่การออกแบบร่วมสมัยมีส่วนต่อประสานกับผู้ใช้สมาร์ทโฟน ผ่าน Application Konica Mobile Print และยังรองรับการยืนยันตัวตน การสั่งพิมพ์ รวมถึงการรับงานสแกนจากอุปกรณ์ที่มี NFC ได้อย่างรวดเร็วทันที
นางสาวสุธิดา กล่าวต่ออีกว่า " I " ของ bizhub i-Series มาจากคำศัพท์ทางการตลาดของ i-Generation (หรือที่เรียกว่า Generation Z ซึ่งหมายถึงยุคที่บุคคลเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการทำงานและการดำรงชีวิต) ซึ่งในปัจจุบันคน Gen Z ได้เริ่มเข้าสู่สังคมในการทำงานมากขึ้น ซึ่งจะมีปัจจัยในการเลือกองค์กร หรือสำนักงานที่มีความเป็นดิจิตอลที่ทันสมัย ซึ่ง โคนิก้า มินอลต้า ใช้" I " เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า i-Series นั้นสามารถประยุกต์ใช้กับสำนักงานยุคใหม่ที่ทันสมัย และตรงกับความต้องการรวมถึงความรู้สึกของผู้ใช้ในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ "โคนิก้า มินอลต้า" จะเป็นกลุ่มบริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทย โดย บริษัทฯ กำลังดำเนินการตามกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตทั้งในกลุ่มธุรกิจสำนักงาน และกลุ่มธุรกิจสิ่งพิมพ์ระดับมืออาชีพ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มผลกำไรโดยการเพิ่มยอดขายและการปฏิรูปโครงสร้างต้นทุน ซึ่ง "i-Series" Konica Minolta ต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่"ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" และเราต้องการเป็นหุ้นส่วนกับคุณโดยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจของคุณไปด้วยกัน
"ปัจจุบันเครื่องมัลติฟังก์ชันมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา เทรนด์การใช้เครื่องมัลติฟังก์ชันนั้นจะเพิ่มขึ้นกับกลุ่มธุรกิจ, SME ขนาดกลาง-ใหญ่, กลุ่มบริษัทออฟฟิศ, สถานประกอบการต่างๆ เพราะสะดวก เรียบง่าย ไม่กินพื้นที่มากเกินไป ลดความซ้ำซ้อน สามารถใช้ทำงานได้หลายแบบในเครื่องเดียว และด้านความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันนั้นก็คือความคุ้มค่าในการใช้งาน และบริการหลังการขาย เมื่อเกิดปัญหาต้องมี On Site Service ให้บริการถึงออฟฟิศ หรือที่ทำงาน อีกทั้งธุรกิจในปัจจุบันเริ่มตระหนักถึงความปลอดภัยในการพิมพ์มากขึ้น ผู้ให้บริการเครื่องมัลติฟังก์ชันจำเป็นที่จะต้องหาโซลูชั่นต่างๆสำหรับป้องกันภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นด้วย รวมทั้ง click charge rate ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อ ยิ่งถ้าทำ click charge rate ในราคาที่คุ้มค่า ผู้บริโภคยิ่งมีการตัดสินใจซื้อที่สูงขึ้นตามลำดับ" นางสาวสุธิดา กล่าวสรุปในตอนท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องมัลติฟังก์ชัน Konica Minolta "bizhub i-Series สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 02-029-7000 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.konicaminolta.co.th และ Facebook : konicaminoltabth
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit