ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ายอดโอน ยอดขายยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก มาจากทั้งโครงการเปิดใหม่และโครงการเดิม ซึ่งบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 37,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปี 62 จนถึงปี 64"
ในส่วนของการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) นั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ อยู่ในแผนพัฒนาทั้งหมด 5 โครงการ โดย 4 โครงการอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คือ SOMERSET RAMA 9, LYF SUKHUMVIT 8, ASCOTT EMBASSY SATHORN, ASCOTT THONGLOR BANGKOK และอีก 1โครงการ คือ SOMERSET PATTAYA จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 โดยโครงการ SOMERSET RAMA 9 และ LYF SUKHUMVIT 8 นั้นคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดดำเนินการ และรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ประจำในปี 2565 กว่า 1,800 ล้านบาท
"อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดอสังหายังคงมีอยู่ ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ โดยบริษัทฯรับทราบและคอยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมปรับแผนธุรกิจหากมีความจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพในระยะยาวของบริษัท ทั้งนี้แผนธุรกิจทั้งหมดของบริษัทนั้น ยังคงสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำการเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมทั้งยังคงรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ที่ 1 เท่า เป็นเป้าหมายระยะยาว และเราต้องมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะไม่เพิ่มความเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว" ดร. ชัยยุทธ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับไตรมาส 2 บริษัทได้เปิดตัว โครงการ ไอดีโอ คิว พหลฯ-สะพานควาย เป็นโครงการไฮไลท์ที่ร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงที่สุดที่บริษัทเคยพัฒนา โดยสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 39% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคอนโดติดรถไฟฟ้านั้น ตลาดยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคก็ยังพร้อมที่จะซื้อสินค้าหากสินค้านั้นสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยและราคาสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ และเปิดตัวโครงการยูนิโอ ทาวน์ ประชาอุทิศ 76 ซึ่งเป็นโครงการแนวราบอีกด้วย