ด้วยความที่คนไทยเล่นหวยกันหนักมากเช่นนี้ และเป็นอย่างนี้มาเกือบโดยตลอด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จึงได้จัดทำโครงการ "๙ สู่ชีวิตพอเพียง" ขึ้น หลังวาระการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยด้วยการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เพื่อถวายเป็นปฏิบัติบูชาต่อพระองค์
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ผู้รับผิดชอบโครงการเล่าว่า "คนไทยติดพันติดพันกับการพนันอย่างมาก โดยเฉพาะหวย ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากชวนให้คนไทยแตะเบรก ลดการซื้อหวยรวมทั้งการพนันอื่น ๆ ให้น้อยลง โดยชวนกันทำความดีถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราบอกว่า "๙ สู่ชีวิตพอเพียง" เป็นโครงการรณรงค์ส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อถวายเป็นปฏิบัติบูชาต่อพระองค์ "
โครงการนี้ดำเนินการร่วมกัน 9 จังหวัดในภูมิภาค ประกอบด้วย ลำปาง น่าน พะเยา เลย กาฬสินธุ์ สุรินทร์ อุบลราชธานี สระบุรี และพัทลุง บวกกับอีก 1 คือ กรุงเทพมหานคร โดยทำในพื้นที่ชุมชนทั้งสิ้น 50 ชุมชน กิจกรรมสำคัญ คือ การชวนกันปฏิบัติใน 5 เรื่อง ได้แก่ หลีกเลี่ยงอบายมุข-สุขกับบัญชีครัวเรือน-เตือนตนให้เป็นนักผลิต-หมั่นเก็บออมอยู่เป็นนิจ-ติดอาวุธความคิดเป็นประจำ กว่า 1 ปีของการดำเนินโครงการพบว่าเกิดผลลัพธ์ที่มหัศจรรย์ ผู้เข้าร่วมโครงการประกาศเลิกเล่นการพนันด้วยความสมัครใจเพื่อถวายแด่ในหลวง
นางอำนวย น้อยตรีมูล ชาวชุมชน ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.เลย หนึ่งในผู้ประกาศเลิกเล่นการพนันถวายแด่ในหลวง เล่าว่า"สมัยยังอยู่ที่บ้านเดิม บ่อนพนันอยู่ที่ไหนรู้จักหมด ไปตลาดก็ฝากตะกร้าเขากลับมา สามีก็ถามว่ามีแต่ตะกร้าแล้วคนไปไหน ก็ได้คำตอบว่า "เห็นซ้อนจักรยานไปเล่นพนันแล้ว" ตอนกลางคืน ออกไปเก็บผักบุ้งเก็บหอยมาขาย ได้มา 100 บาท จะเหลือไปให้สามีแค่คืนละ 20 บาท ที่เหลือเก็บไว้ไปเล่นพนันสามีก็เริ่มสงสัย เลยเพิ่มให้เขาเป็น 50บาท เก็บไว้ 50 บาท"
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของอำนวยคือ "ตั้งแต่ที่มีโครงการ ๙ สู่ชีวิตพอเพียงของพ่อหลวง ก็มาคิดได้ว่า "เราไม่มีความพอเพียงเลย พ่อบอกให้เราพอเพียง บอกเราว่าพอเพียงคืออะไร ก็มานั่งคิดว่าทำไมป่านนี้เรายังไม่รู้จักพอ ก็ตัดสินใจว่า เงินที่เราจะเอาไปเล่น ให้เอาไปใส่กระบอกไม้ไผ่แทน เราจะไม่เล่นแล้ว พอกระบอกไม้ไผ่มันเต็ม เอามาผ่าออก ได้เงินไปฝาก 30,000 บาท ภูมิใจมากๆ เลย เอาเงินมากองให้ลูกให้สามีดู เขาถามว่าเธอไปเอาเงินมาจากไหน เราก็เลยบอกว่าเงินอันนี้แหละที่เราว่าจะเอาไปเล่นพนัน แต่ว่าเราเอามายัดใส่กระบอกไม้ไผ่ไว้"
"ถึงวันนี้หยุดมาได้2 ปีแล้วค่ะ มันไม่ธรรมดานะคะ เมื่อก่อนเคยกินเหล้ากับเพื่อน ทั้งกินทั้งเล่น เมาจนสามีไม่ให้เข้าบ้านก็มี แต่ตอนนี้ภูมิใจที่ได้เงินไปฝากก้อนหนึ่ง ได้ปฏิญาณตนว่า ลูกหลานให้ดูยายไปตัวอย่างว่าเคยทำไม่ดีไว้ แต่ตอนนี้ก็เก็บเงิน ไม่ไปเล่น เก็บไปเก็บมามีเงินเป็นแสนแล้วนะคะ จนสามีบอกว่าได้ภรรยาใหม่กลับคืนมาแล้ว ถ้ามีคนมาชวนเล่นพนันอีก เราจะบอกว่าเราไม่เล่นแล้ว เพราะว่าเราเห็นเงินที่เราได้ เราเก็บเองแล้ว อยากขอบคุณในหลวงท่านมาก ๆ ที่ได้ให้ความคิดความอ่านว่าเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร เมื่อก่อนไม่เข้าใจ แต่พอได้ทำแล้วถึงรู้จัก ถึงเข้าใจ"
นายสมาน ศรีสวัสดิ์ ชาวชุมชนบ้านสันโค้ง ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยการพนันมาอย่างหนัก "ผมเป็นคนที่ติดการพนันงอมแงมแบบถอนตัวไม่ขึ้นเลย ติดมาประมาณ 20 ปี" ถึงจะแต่งงานมีครอบครัว สมานก็ยังเล่นการพนัน แม่บ้านก็จะคอยเตือนอยู่ตลอดว่าการพนันมันไม่ดี สมานก็เก็บมาคิดตลอดมา ครั้นพอมีลูก ช่วงไหนที่เขาไปเล่นการพนันต่างบ้านต่างจังหวัด ลูกก็จะร้องหา เมื่อกลับมาแม่บ้านก็จะบอกให้รู้ว่า "ลูกร้องไห้หาทั้งคืนพ่อไปไหน?" ทำให้สมานน้ำตาไหล และคิดว่าการพนันทำให้ครอบครัวล้มเหลว การมีโอกาสได้เข้าร่วมงานอบรมหรือประชุมต่าง ๆ ทำให้สมานเกิดแรงบันดาลใจ
"เวลาไปอบรมที่ไหนเมื่อพบเห็นรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผมก็จะคิดตลอดว่า เราจะขอทำดี และลงชื่อลงนามไว้ในทุกที่ ๆไปประชุม"
สมานคิดกลับตัวกลับใจ เพราะเห็นครอบครัว เห็นหลายๆคนที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง จากการพบว่าการพนันเป็นสิ่งที่ทำลายครอบครัว เขาจึงหันมาทำความดี
"ผมได้เห็นคนหลาย ๆ คนที่เคยติดการพนันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ และผมได้แม่บ้านที่มีความอดทนมาก ทั้ง ๆที่ผมก็ไม่ใช่คนดี เป็นคนที่ติดการพนัน และสำมะเลเทเมาเป็นขี้เหล้า ถึงขั้นที่มัดตัวเองติดเสาไว้"
"การติดการพนันมันเหมือนกับเราติดยาเสพติด ตื่นเช้ามาก็คิดแต่จะเล่นการพนันอย่างเดียว คิดว่าวันนี้จะต้องเอาชนะคนนี้ ๆ วางแผนอยู่ตลอด ตอนกลางคืนก็จะคิดว่า พรุ่งนี้จะทำแบบไหนถึงจะชนะคนอื่น จนผมเปลี่ยนมาตั้งบ่อนอยู่เป็นสิบ ๆ ปีโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เห็นตำรวจเป็นเรื่องเล่น วิ่งไปวิ่งมาก็ไม่เคยกลัวเลย"
"นี่คือประสบการณ์แท้ๆจากชีวิตจริงของครอบครัวผม จากบุคคลที่ยากจนมาก แต่ขยับตัวขึ้นมาพอเพียง ได้เข้าอบรมบ่อย ได้รับความรู้ต่าง ๆจากวิทยากร ตัวผมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้วยังสามารถเปลี่ยนแปลงคนในหมู่บ้านได้ด้วย ผมกล้าพูดเลยว่าถ้าใครได้เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้ จะทำให้ท่านเปลี่ยนแปลงความคิด ผมชวนเพื่อนหลายคนเข้าสู่กระบวนการของ "๙ สู่ชีวิตพอเพียง" พอเจอกับประสบการณ์จริงของคนที่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเองมา มันจะซึมซับเข้าสู่ความคิด และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้"
นางพินิจ ฉุนแสนดี ชาวชุมชนบ้านจรูกแขวะ ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีชีวิตชาวนาที่เต็มไปด้วยหนี้สิน เธอได้เห็นในโทรทัศน์เรื่องของการใช้ชีวิตพอเพียง ตามรอยเท้าของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 โดยการทำเกษตรผสมผสาน ใช้ชีวิตพอเพียง รู้จักประหยัดอดออม ทำให้เธออยากทดลองทำตาม เธอเริ่มจากการลดต้นทุนการทำนา ใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักแทนปุ๋ยเคมี ใช้สมุนไพรแทนยาฆ่าแมลง ใช้วิธีถอนหญ้าแทนการใช้ยาฆ่าหญ้า และจดบันทึกค่าใช้จ่ายในการทำนา เมื่อคำนวณต้นทุนและกำไร พินิจพบว่าเธอเริ่มมีกำไรจากการทำนาและคิดว่ามาถูกทางแล้ว จึงตัดสินใจทำนาด้วยวิธีนี้มาอย่างต่อเนื่องและเริ่มศึกษาหาวิธีการที่จะประหยัดต้นทุนให้ได้มากที่สุด โดยการทำนาอินทรีย์ คือคำตอบที่เธอค้นพบ เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มาก และขายได้ราคามากกว่ากันเป็นเท่าตัว ด้วยการทำเกษตรผสมผสาน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นๆ จนสามารถใช้หนี้ได้
เมื่อโครงการ ๙ สู่ชีวิตพอเพียง มาดำเนินการในตำบลโคกยาง พินิจจึงขอเข้าร่วมเรียนรู้ด้วย เพราะศรัทธาต่อแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และอยากทำดีเพื่อทดแทนบุญคุณท่าน เธอมาเรียนรู้ทุกกิจกรรม ได้ความรู้เรื่องความพอเพียงชัดเจนขึ้น และเริ่มทำบัญชีครัวเรือน โดยทำตารางแบบง่ายๆ จดบันทึกและหยอดกระปุกทุกวัน เธอมีความสุขมากในการทำบัญชีครัวเรือนและเห็นตัวเลขเงินออมที่มากขึ้นกว่าค่าใช้จ่ายทุกวัน
ทุกครั้งที่มาร่วมกิจกรรม พินิจจะนำบัญชีครัวเรือนที่ตนทำพร้อมกับกระปุกออมสินมาด้วยทุกครั้ง ทำให้ผู้เข้าร่วมคนอื่นอยากทำเหมือนที่เธอทำ เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการของตำบลโคกยาง เกิดการออมแข่งกันและทำบัญชีครัวเรือนมาอวดกัน จนทำให้บ้านโคกยางเกิดข้อสรุปร่วมกันว่าจะตั้ง "สหกรณ์เพื่อการผลิต" จากเงินออมที่เหลือจากการใช้จ่ายในครัวเรือน
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า "จากความสำเร็จของโครงการในปีที่ผ่านมา ปีนี้ สสส. ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จึงจะดำเนินโครงการนี้ต่อโดยให้ชื่อว่า "๙ ต่อไปสู่ชีวิพอเพียง" เพื่อสานต่อพระราชปณิธานในการส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่9 โดยปีนี้เราจะเน้นการชวนกัน เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม สนับสนุนปฏิบัติการชุมชนด้วย 3 เครื่องมือทรงงานที่อยู่ข้างพระวรกายของในหลวง คือ "แผนที่-กล้องถ่ายรูป-และวิทยุสื่อสาร" โดยทุกชุมชนจะลงสำรวจแผนที่เดินดินและเชิญชวนชาวชุมชนเข้าร่วมโครงการ แล้วทำการบันทึกปริมาณการเล่นหวยของครัวเรือนที่เข้าร่วม เปรียบเทียบก่อน-หลังการเข้าร่วมโครงการ และนำเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นมาสื่อสารต่อในชุมชนและสังคมวงกว้าง"
เพราะการพนันทุกรูปแบบล้วนขัดแย้งกับแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเรื่องไม่มีเหตุผล ทำให้ไม่รู้จักประมาณตนเอง และทำลายภูมิคุ้มกันของครัวเรือน หยุดพนันแล้วเปลี่ยนเงินเล่นพนันมาเป็นเงินออมกันดีกว่า
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit