บีวายดี ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 โดยดำเนินธุรกิจด้านยานยนต์และไอที ทั้งในส่วนของยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบทั่วไปและยานยนต์พลังงานใหม่ บริษัทมีโรงงานผลิต 30 แห่งทั่วโลก และเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวที่ครอบครองทั้งเทคโนโลยียานยนต์และแบตเตอรี่พลังงานใหม่
การจัดเก็บข้อมูลกลายเป็นปัญหาของระบบ ERP
บีวายดีกำลังพัฒนาธุรกิจอย่างรวดเร็วและขยายกระบวนการดำเนินงานของบริษัท ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวพร้อมกันของข้อมูลจำนวนมหาศาลทั้งในส่วนของการขายสินค้า สต็อกอะไหล่ และบริการหลังการขาย โดยทั่วไปแล้ว บริษัทผู้ผลิตส่วนใหญ่จะมีปริมาณข้อมูลในระบบจัดการธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆสองปี ขณะที่ความต้องการระบบวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) ก็เพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ ส่งผลให้ความถี่ในการอ่านและเขียนไฟล์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น และผู้ใช้ต้องใช้เวลารอนานขึ้น
บีวายดีใช้ระบบ ERP ของบริษัทเอสเอพี (SAP) รองรับสามไลน์ผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ดี การที่บีวายดีพัฒนาบริการอย่างรวดเร็ว มีพนักงานเพิ่มขึ้น 100% และได้รับคำสั่งซื้อรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 10% ส่งผลให้ระบบทำงานหนักมากเกินไปจนไม่สามารถตอบสนองต่อ 185,000 IOPS (ปริมาณการอ่านและเขียนไฟล์ข้อมูลต่อหนึ่งวินาที) และบริการที่เกิดขึ้นพร้อมกันมากกว่า 60,000 รายการในช่วงพีค โดยครั้งหนึ่งระบบต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการสืบค้นข้อมูลงบการเงินประจำเดือน
หัวเว่ยนำเสนอโซลูชั่นครบวงจรครอบคลุมตั้งแต่เครือข่าย การประมวลผลบนคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ไปจนถึงระบบจัดเก็บข้อมูล และด้วยความไว้วางใจในความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของหัวเว่ย บีวายดีจึงดึงหัวเว่ยเข้ามาวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลของระบบ ERP รวมถึงการใช้งานซีพียู เครือข่าย และอัตราการตอบสนองของดิสก์ ซึ่งหัวเว่ยก็พบว่าเกิดปรากฏการณ์คอขวด (bottleneck) กับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของระบบ โดยระบบ ERP สร้างข้อมูลมากกว่า 200 GB ต่อเดือน และเครือข่ายต้องใช้เวลาแฝงมากถึง 50 มิลลิวินาทีในการอ่านและเขียนไฟล์ข้อมูล นั่นหมายความว่าระบบสามารถรองรับข้อมูลได้น้อยกว่าที่ต้องการมาก
การอัพเกรดระบบจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และระบบจัดเก็บข้อมูลทั่วไปอย่าง Hard Disk Drive (HDD) ไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ บีวายดีคาดการณ์ว่าบริการต่างๆของบริษัทจะเติบโตขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า ดังนั้นประสิทธิภาพของระบบ ERP ต้องดีกว่าเดิมอย่างน้อยสองเท่าโดยไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของระบบ นอกจากนี้ แผนกปฏิบัติการและบำรุงรักษาด้านไอทีของบริษัทยังต้องการให้การอัพเกรดเป็นไปอย่างราบรื่นโดยกระทบต่อบริการและการดำเนินงานน้อยที่สุด
Huawei OceanStor Dorado เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ ERP เป็นสองเท่า
เมื่อพิจารณาจากความต้องการดังกล่าวและผลการวิเคราะห์เครือข่ายของบีวายดีแล้ว หัวเว่ยจึงได้สร้างระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช OceanStor Dorado สำหรับบีวายดี โดยระบบจัดเก็บข้อมูล HDD ได้ถูกแทนที่ด้วยระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลชเพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียนไฟล์ข้อมูล ทำให้ระบบ ERP และ Business Warehouse (BW) มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างของเครือข่าย ฐานข้อมูล โฮสต์ ซอฟต์แวร์ ERP รวมถึงการปฏิบัติการและบำรุงรักษาเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้การอัพเกรดระบบกระทบต่อการให้บริการ หัวเว่ยได้ทำสำเนาข้อมูลโดยใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการข้อมูล โดยข้อมูลได้ถูกย้ายมายังระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช Huawei OceanStor Dorado โดยไม่กระทบต่อบริการ ERP แต่บีวายดียังคงเก็บระบบพัฒนาและทดสอบ รวมถึง Sandbox ไว้บนระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมตามคำแนะนำของหัวเว่ย เพื่อปกป้องการลงทุนของบริษัทให้ปลอดภัย
นับตั้งแต่ติดตั้งระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช Huawei OceanStor Dorado บนระบบ ERP ของบีวายดี ประสิทธิภาพของระบบก็เพิ่มขึ้นถึง 500% และเวลาแฝงก็ลดลงเหลือไม่ถึง 1 มิลลิวินาที ขณะที่ระบบ BW ก็ใช้เวลาในการจำแนกข้อมูลน้อยลงถึง 66% นอกจากนี้ การรายงานข้อมูลการจัดการวัสดุ การวางแผนการผลิต การขาย และการกระจายสินค้า รวมถึงการควบคุมต้นทุนและการเงิน ยังทำงานเร็วขึ้นกว่าเดิมมากกว่าสองเท่า โดยการสืบค้นข้อมูล Material voucher สามารถทำได้ในเวลาเพียง 4 นาที จากเดิมที่ต้องใช้มากถึง 14 นาที
ในการมอบศักยภาพและประสิทธิภาพอย่างที่บีวายดีต้องการนั้น ระบบจัดเก็บข้อมูล HDD จำเป็นต้องได้รับการปรับแต่งด้วยเทคโนโลยี RAID 10, อินเทอร์เฟซ Serial Attached Small Computer System Interface รวมถึงดิสก์ Solid-State Drive (SSD) และต้องใช้พื้นที่ตู้ระบบจัดเก็บข้อมูลสูงถึง 40U แต่ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช Huawei OceanStor Dorado ต้องการแค่เทคโนโลยี RAID 6 และการปรับแต่ง SSD เท่านั้น ทั้งยังใช้พื้นที่ตู้ระบบจัดเก็บข้อมูลเพียง 20U และใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยกว่า 50% ขณะเดียวกันก็ประหยัดต้นทุนแรงงานในการปฏิบัติการและบำรุงรักษา ค่าไฟ และค่าระบายความร้อนระบบได้อย่างมหาศาล โดยตลอดสามปีจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะลดลงถึง 70%
หลังจากที่ระบบ ERP บนเครือข่ายของบีวายดีใช้ Huawei OceanStor Dorado อย่างต่อเนื่องมานานกว่า 6 เดือน ประสิทธิภาพการบริการก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ต้นทุนการบำรุงรักษาก็ลดลงอย่างมาก บีวายดีพึงพอใจมากกับการปรับโครงสร้างระบบไอทีในครั้งนี้
คุณฉิว หยาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของบีวายดี กล่าวว่า "นับตั้งแต่นำมาใช้งานกับระบบบริการหลักของบีวายดี ซึ่งรวมถึงระบบลูกค้าสัมพันธ์ องค์กรสัมพันธ์ และตัวแทนจำหน่าย รวมถึงระบบคลังสินค้าและระบบบริหารธุรกิจอัจฉริยะ Huawei OceanStor Dorado ก็แสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ระบบบริการต่างๆของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 5 เท่า"
คุณหวัง หงป๋อ ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลของบีวายดี กล่าวว่า "หลังจากแทนที่ระบบจัดเก็บข้อมูล HDD ด้วยระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช Huawei OceanStor Dorado ระบบ ERP BW ของเราก็ทำงานเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า เฉพาะในเดือนแรก เราพบว่าการจำแนก-ส่ง-โหลดข้อมูลไม่ติดขัดเลย ขณะที่ระบบเก่าจะต้องเกิดการติดขัดอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกๆสองวัน ด้านเวลาในการจำแนกข้อมูลก็ลดลงจาก 4.5 ชั่วโมง เหลือเพียง 1.5 ชั่วโมง ทำให้ผลิตรายงานได้มากขึ้นอย่างมาก และช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทียิ่งขึ้น"
การปรับโครงสร้างระบบ ERP ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และบีวายดีได้เลือกใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช Dorado อีกครั้งในการอัพเกรดระบบจัดการเอกสารและระบบจัดการคลังสินค้า ซึ่งประสิทธิภาพและเสถียรภาพอันยอดเยี่ยมได้สร้างความประทับใจให้กับบีวายดีเช่นเคย นอกจากนี้ บีวายดีกับหัวเว่ยยังมีแผนสร้างความร่วมมือด้านการผลิตอัจฉริยะภายใต้ยุทธศาสตร์ "Made in China 2025" ด้วย
กรุณาอ่าน http://e.huawei.com/topic/leading-new-ict-en/byd-auto-case.html?ic_medium=hwdc&ic_source=ebg_banner_EEBGHQ175137L&source=ebghmbanner
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit