“พ่อบรู๊ค-แม่กบ” เผยเทคนิคสื่อสารเชิงบวก เบื้องหลังความสดใสอารมณ์ดีของสองพี่น้อง “ณดา – ณดล”

28 Nov 2018
สัมพันธภาพภายในครอบครัวคือรากฐานสำคัญในการปลูกฝังพฤติกรรมที่เหมาะสมและการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจของลูกน้อย ครอบครัวที่สมาชิกทุกคนมีสัมพันธภาพพื้นฐานที่ดีต่อกันจะสร้างความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยทางจิตใจให้กับเด็ก เป็นความอบอุ่นที่ไม่มีที่ไหนทดแทนได้
“พ่อบรู๊ค-แม่กบ” เผยเทคนิคสื่อสารเชิงบวก เบื้องหลังความสดใสอารมณ์ดีของสองพี่น้อง “ณดา – ณดล”

นับเป็นอีกหนึ่งครอบครัวอบอุ่นที่ใครๆ ต่างเทใจให้ สำหรับครอบครัว "ปุณณกันต์" ที่ไม่ว่าพ่อบรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์ และ แม่กบ สุวนันท์ และจะยุ่งกับการทำงานมากเพียงใด ก็สามารถแบ่งเวลาให้ "น้องณดา - ณดล" ได้อย่างลงตัวเสมอ ล่าสุดภายในงาน "1 วันสร้างสุขให้ลูกเปลี่ยน ปี 2" ของโครงการรวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี (United for Healthier Kids) ซึ่งจัดโดยบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เพื่อปลูกฝังรากฐานพฤติกรรมและโภชนาการที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพดีของเยาวชนอายุ 3-5 ปี พ่อบรู๊คได้มาร่วมฟังข้อมูลที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมและจิตวิทยาเด็ก ที่ให้คำแนะนำเคล็ดลับการมีส่วนร่วม และสื่อสารเชิงบวกกับลูกๆ ที่จะช่วยเสริมสัมพันธภาพอันดีภายในครอบครัว

"พ่อแม่ทุกคนต่างก็อยากให้ลูกเชื่อฟังและทำตามที่เราบอก ผมกับคุณกบเองก็ได้ลองผิดลองถูกมามาก แต่หลังจากที่ได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมเด็ก ทำให้เรารู้ว่าการสื่อสารให้ลูกเข้าใจและร่วมมือกับเราไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลาและต้องมีเทคนิคทางจิตวิทยาเชิงบวกเข้าช่วย และสิ่งสำคัญที่สุดคือ "อยากให้ลูกเปลี่ยน พ่อแม่ต้องปรับก่อน"

คุณบรู๊คเล่าว่า "ผมและคุณกบจึงต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกๆ เห็น เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่ชอบเลียนแบบ ดังนั้นแบบอย่างที่ดีจากพ่อแม่จึงสำคัญมาก อยากให้ลูกเป็นอย่างไร พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเห็นก่อน เช่น ไม่อยากให้ลูกติดหน้าจอ พวกเราก็จะไม่จับหน้าจอให้ลูกเห็น และพยายามหากิจกรรมให้ลูกๆ ทำตลอด เช่น เล่นดนตรี ออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้พวกเขาหมกมุ่นกับเกมบนมือถือหรือดูทีวีมากเกินไป"

หลายๆ ครั้งที่พ่อแม่อยากปรับพฤติกรรมลูก แต่ไม่สำเร็จ และกลับกลายเป็นการสร้างความรู้สึกต่อต้านให้กับเด็กๆ แทน คุณบรู๊คมีทริคเล็กๆ แนะนำว่า "พ่อแม่หลายๆ ท่านอาจรู้สึกเหนื่อยกับงานมา จึงเผลอใช้อารมณ์กับลูกไปบ้าง อาจทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี กลายเป็นไม่อยากทำตามที่เราพูด ผมได้รับคำแนะนำมาว่าให้มองหาจุดดีในตัวลูก แล้วเราก็จะได้กำลังใจกลับมา ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผมรู้สึกโมโหลูกสาว ก็จะนึกถึงตอนที่ณดาดูแลเอาใจใส่น้อง ยอมยกของเล่นให้น้อง หรือเวลาที่ณดลดื้อ ก็จะนึกถึงตอนที่เขาเข้ามาอ้อน นอนตัก ยิ้มหวานให้ มันทำให้เราใจเย็นลง ฉุกคิดมากขึ้น และอุณหภูมิภายในบ้านก็จะเย็นลงอีกครั้ง"

ที่สำคัญ ถ้าลูกๆ เปลี่ยนมาแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม ต้องอย่าลืมชม ซึ่งคุณบรู๊คให้เทคนิคที่ได้เรียนรู้มาจากนักจิตวิทยาเด็กและคอนเฟิร์มแล้วว่าได้ผลจริงๆ "ในการสื่อสารกับลูกให้ได้ผลดี แม้แต่วีธีการชมก็ต้องมีเทคนิค พ่อแม่ต้องชมลูกอย่างจริงใจ โดยใช้ภาษาท่าทางประกอบ เช่น สบตา หอมแก้ม กอด ควรชมทันทีที่เห็นว่าเค้าทำดี และชมในสิ่งที่เค้าลงมือทำ (มากกว่าชมที่ผลลัพธ์ที่ออกมา) ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนณดาจะติดทีวี ไม่ยอมลุกไปอาบน้ำ แต่ถ้าวันไหนเราบอกแล้วเขาลุกไปอาบน้ำเองโดยไม่อิดออด ผมก็จะชมเค้าทันทีว่า 'ณดาเก่งจังเลย พอถึงเวลาก็ลุกไปอาบน้ำโดยที่พ่อไม่ต้องบอกเลย พ่อชื่นใจจัง' เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างกำลังใจให้ลูกมีแรงจูงใจปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นแล้ว"

นอกจากการชมแล้ว เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะต้องมีการตักเตือนเมื่อทำผิด ซึ่งพ่อบรู๊คทิ้งท้ายด้วยเทคนิคการตักเตือนลูกจากนักจิตวิทยาเด็กไว้ว่า "เมื่อลูกทำผิด ผมจะพยายามจัดการกับอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน และจะบอกลูกตรงๆ ว่า ทำอย่างนี้ไม่ดีนะและให้เหตุผล ผมจะไม่ใช้อารมณ์ในการตักเตือนเขา ไม่ประชด ไม่เปรียบเทียบ เพราะจะยิ่งทำให้ลูกต่อต้านมากขึ้น"

ด้วยการสื่อสารและเลี้ยงลูกเชิงบวกเช่นนี้นี่เอง ใครๆ จึงต่างหลงรักความน่ารักสดใสของพี่สาวและน้องชายแห่งบ้าน "ปุณณกันต์" มาร่วมเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) ร่วมกับครอบครัว "ปุณณกันต์" ได้ที่เพจ United for Healthier Kids TH บน Facebook หรือพิมพ์ Facebook.com/U4HKThailand หรือคลิก http://bit.ly/U4HKPageTR

ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids)

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผนึกกำลังกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) เมื่อ 14 มิ.ย. 2559 เพื่อจุดประกายพ่อแม่ และผู้มีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่วัย 3-12 ปีที่แข็งแรงโดยการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยสำคัญ ได้แก่ การกินอาหารให้หลากหลายเพิ่มผักผลไม้ เลือกดื่มน้ำเปล่า และขยันขยับเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น พร้อมสร้างสรรค์เครื่องมือ "มื้ออาหารของฮีโร่" (Hero Meal) ที่ช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่พึงประสงค์เหล่านี้ และให้เคล็ดลับส่งเสริมสุขภาพมากมาย เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน

สารถึงบรรณาธิการ

เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 191 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 328,000 คนต่างมีพันธสัญญาต่อเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่ บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

“พ่อบรู๊ค-แม่กบ” เผยเทคนิคสื่อสารเชิงบวก เบื้องหลังความสดใสอารมณ์ดีของสองพี่น้อง “ณดา – ณดล”
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit