บล. ซีมิโก้ เผยผลประกอบการปี 61

27 Feb 2019
ZMICO เตรียมรุกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมปรับกลยุทธ์ธุรกิจหลักทรัพย์และการลงทุน เดินหน้าพลิกกลับมาสร้างกำไร หลังขาดทุนในปี 2561

นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) (ZMICO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานรวมสำหรับปี 2561 เป็นขาดทุนสุทธิ 195.83 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในปีก่อน ซึ่งมีผลกำไร 9.87 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเป็นผลมาจากขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการปรับมูลค่าตามราคาตลาด (Mark to market) ของหลักทรัพย์จดทะเบียนแห่งหนึ่งที่อยู่ในพอร์ตเงินลงทุนของบริษัทฯ ตามผลประกอบการและความ ผันผวนของตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร ที่บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวประกอบธุรกิจอยู่ อย่างไรก็ดีมูลค่าตลาดของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าวยังคงสูงกว่าต้นทุนในการได้มาของบริษัทฯ

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯ ลงทุนผ่านบริษัทร่วม บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด (KT ZMICO) ก็มีผลประกอบการขาดทุนเป็นปีแรกในปี 2561 นี้ แม้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าก็ตาม แต่การแข่งขันกันอย่างดุเดือดของธุรกิจหลักทรัพย์โดยเฉพาะการลดอัตราค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ต่ำเพื่อดึงดูดลูกค้า อีกทั้งการลดลงของสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ส่งผลให้อัตราค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยและรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ของทั้งอุตสาหกรรมปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้เคที ซีมิโก้ ยังสามารถคงสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่สูงอยู่ แต่บริษัทได้รับผลกระทบจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่ลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษในปีที่เกิดจากการปรับโครงสร้างองค์กรและการเพิ่มประมาณการภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงานหลังออกจากงานเพื่อรองรับกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม และสำหรับส่วนแบ่งการตลาดปัจจุบันของเคที ซีมิโก้ อยู่ที่ร้อยละ 2.07

แม้ผลประกอบการของบริษัทฯ จะแย่ลงในปี 2561 บริษัทฯ ได้มีการริเริ่ม ปรับเปลี่ยน และดำเนินการในหลาย ๆ ด้าน เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงในการประกอบธุรกิจต่อไปของบริษัทฯ โดยหลักได้แก่การจัดตั้งบริษัทย่อย เอสอี ดิจิทัล จำกัด เพื่อลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนและมีอัตราการเติบโตสูงมากในต่างประเทศ อีกทั้งสอดคล้องและเป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักทรัพย์ปัจจุบันของบริษัทฯ โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบก.ล.ต.เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี Block Chain และ Smart Contract มาช่วยในการระดมทุนและควบคุมให้เป็นไปตามเงื่อนไขของการลงทุน เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ของบริษัทนั้น ๆ ที่มีอยู่แล้ว (Securitized Token) ในการนี้ บริษัทฯ ได้พันธมิตรที่เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี Block Chain และสินทรัพย์ดิจิทัลจากสหรัฐอเมริกา มาช่วยสนับสนุนด้านระบบงาน และเครือข่ายธุรกิจของบริษัทฯ อีกด้วย

ในส่วนของธุรกิจจัดการลงทุน ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อินโนเทค จำกัด บริษัทฯ มีทีมผู้บริหารใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุน เข้ามาปรับโครงสร้างองค์กร วางระบบการทำงานและการควบคุมใหม่ทั้งหมด เพื่อกลับมาประกอบธุรกิจจัดการลงทุนในกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล โดยเน้นกองทุนที่มีความแตกต่าง (Unconventional Fund) และใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการและวิเคราะห์การลงทุนอย่างเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 นี้

"สำหรับธุรกิจอื่น ๆ บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ในการลงทุน โดยหลีกเลี่ยงและลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เพิ่มระดับการติดตามดูแลผลประกอบการของเงินลงทุนและบริษัทที่เข้าไปลงทุนอย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตการลงทุน บริษัทฯ โดยเฟ้นหาการลงทุนใหม่ ๆ ที่เชื่อว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มกลับมาให้แก่ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ และมุ่งเน้นถึงผลประกอบการที่ดีในระยะยาว และการส่งเสริมกัน (Synergy) ของแต่ละธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ยกระดับประสิทธิภาพระบบการควบคุมและกำกับดูแล การตรวจสอบภายใน การบริหารความเสี่ยงในการปฎิบัติงาน และการรายงานทางการเงิน ของบริษัทในเครือทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกธุรกิจของบริษัทฯ ดำเนินไปด้วยความระมัดระวัง เป็นไปตามหลักการควบคุมภายในที่ดีและกฎเกณฑ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด" นายชัยภัทร กล่าวเพิ่ม

ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ ได้พัฒนา WealthMe โมบายแอปพลิเคชัน ด้วยแนวคิด "เปิดบัญชีหุ้นที่ไหนก็ได้ อนุมัติไวใน 30 นาที" เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่สนใจการลงทุน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบไร้เอกสารได้ด้วยตนเองผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในวัยทำงาน และขยายฐานลูกค้าบริษัทให้เกิน 100,000 รายในปี 2562 ทั้งนี้เคที ซีมิโก้ ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบสนองความต้องการในการลงทุนและสร้างความมั่งคั่งทางการเงินให้กับลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ และลูกค้าของธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ร่วมลงทุนในเคที ซีมิโก้ ร่วมกับบริษัทฯ ต่อไป

"นอกจากแผนการขยายธุรกิจ การปรับกลยุทธ์ในการลงทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพของการควบคุมและกำกับดูแลของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2562 นี้ บริษัทฯ คาดว่าภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมจะเป็นไปในทิศทางบวก ภายหลังความชัดเจนจากการเลือกตั้ง ทั้งในส่วนของภาคการลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศ และการเติบโตในภาคอุปโภคบริโภคของประชาชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมผลประกอบการของบริษัทฯ ทั้งในธุรกิจหลักทรัพย์โดย เคที ซีมิโก้ ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ของบริษัทฯ และธุรกิจการลงทุนอื่น ๆ ให้สดใสในปี 2562 นี้" นายชัยภัทร กล่าวเพิ่ม