สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง พร้อมเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล

          นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้รับการประเมินความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐระดับกรม ประจำปี กระทรวงการคลัง56ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข สูงกว่าค่าเฉลี่ยของหน่วยงานระดับกรมทั้งหมด โดยมีคะแนนโดดเด่นในมิติ โครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และรองลงมาคือมิติศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาครัฐด้านดิจิทัล
          การสำรวจความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐจัดทำโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA โดยในปี พ.ศ. กระทรวงการคลัง56ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ได้เลือกสำรวจหน่วยงานภาครัฐระดับกรม กระทรวงการคลัง87 หน่วยงาน การประเมินครอบคลุม 6 มิติได้แก่ มิติที่ ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข แนวนโยบายและหลักปฏิบัติ มิติที่ กระทรวงการคลัง ศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาครัฐด้านดิจิทัล มิติที่ รัฐบาลดิจิทัล บริการภาครัฐ มิติที่ 4 การบริหารจัดการรูปแบบดิจิทัล มิติที่ 5 โครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และมิติที่ 6 เทคโนโลยีอัจฉริยะและการนำไปใช้
          รายงานสำรวจความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี กระทรวงการคลัง56ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ของ DGA ระบุว่า "สบน. มีคะแนนรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหน่วยงานระดับกรมทั้งหมด โดยมิติที่โดดเด่นที่สุดคือมิติที่ 5 โครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และรองลงมาคือมิติที่ กระทรวงการคลัง ศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาครัฐด้านดิจิทัล"
          ผอ.สบน. กล่าวเพิ่มเติมว่า สบน. เล็งเห็นความสำคัญในการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่รูปแบบดิจิทัล หรือ Digital Transformation เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี นโยบายรัฐบาล และเพื่อให้การดำเนินภารกิจของ สบน. ทั้งในด้านการระดมทุนเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการพัฒนาตลาดตราสารหนี้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด เพื่อให้ประเทศไทยมีฐานะการคลังที่เข้มแข็งและการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
          ในปี พ.ศ. กระทรวงการคลัง56กระทรวงการคลัง สบน. อยู่ระหว่างศึกษาการนำ Smart Technology มาใช้ในการทำงาน อาทิ การพัฒนาฐานข้อมูลหนี้สาธารณะในรูปแบบ Big Data เพื่อการทำงานในรูปแบบ Data Driven และการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรออมทรัพย์ ให้สอดรับกับการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) และส่งเสริมการออมของประชาชนอย่างทั่วถึง เป็นต้น