พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) กล่าวว่า การประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ทาง สกศ. ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานและรายงานต่อ ก.พ.ป. เป็นระยะหรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดย สกศ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.พ.ป. เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดบริการ ดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัยใน 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รวมถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกันขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญาสมตามมาตรฐานที่เหมาะสมโดยเร็ว และมีความสอดคล้องกับมาตรฐานเด็กปฐมวัยระดับอาเซียนต่อไป
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทาง สกศ. ได้จัดพิมพ์ร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ และคู่มือมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติสู่การปฏิบัติ เพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้ปฏิบัติสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ในส่วนของการกำกับติดตามมาตรฐานดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562 ได้มีการเตรียมแผนการดำเนินงาน ทั้งการติดตามจากหน่วยงานต้นสังกัดในส่วนกลางและระดับภูมิภาค การจัดประชุมติดตามความก้าวหน้า รวมถึงการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งในฐานะประธาน ก.พ.ป. หวังให้มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติฉบับนี้เป็นมาตรฐานกลางให้ทุกหน่วยงานได้นำไปใช้เป็นแนวทางและเป็นหลักประเมินการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน สามารถลดความเหลื่อมuล้ำ และยกระดับการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ และคู่มือดังกล่าวแจกจ่ายแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม. 2 มกราคม 2562 เห็นชอบร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ตามที่ ศธ. เสนอ ซึ่งสอดคล้องอย่างยิ่งกับนโยบายของรัฐบาลและ ศธ. ซึ่งให้ความสำคัญการดูแลเด็ก ส่งเสริมเด็กและพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อส่งต่อให้เข้าสู่ระบบการศึกษาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นมาตรฐานกลาง ของประเทศใช้กับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกแห่ง และยังเป็นมาตรฐานการประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพ มุ่งเน้น การดูแล พัฒนา และจัดการศึกษาให้เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัยเป็นรายบุคคล
ด้าน ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการดูแลพัฒนาและจัดการศึกษา และการดำเนินงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัดที่ดูแลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยกำหนดมาตรฐาน 3 ด้าน คือ 1.ด้านการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 2.ด้านครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแลและจัดประสบการณ์ การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และ 3.ด้านคุณภาพของเด็กปฐมวัย แบ่งเป็นเด็กแรกเกิด - อายุ 2 ปี และเด็กอายุ 3 - 6 ปี หรือช่วงก่อนเข้าศึกษาระดับ ป.1 ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเด็กและควรได้รับ การดูแลอย่างใกล้ชิดและมีความต่อเนื่องสอดคล้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) และสามารถนำไปใช้ประเมินการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในทุกสังกัด ประมาณกว่า 53,335 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดบริการและความต่อเนื่องของการพัฒนาเด็กปฐมวัย
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit