อย่างไรก็ดีสาเหตุส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจะตรวจไม่พบสาเหตุ จาก 2 ปัจจัยใหญ่ คือ
1. กรรมพันธุ์ พบว่าผู้ที่มีบิดาและมารดาเป็นความดันโลหิตสูงมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงได้มากกว่าผู้ที่บิดา มารดาไม่เป็น ยิ่งกว่านั้นผู้ที่มีทั้งบิดาและมารดาเป็นความดันโลหิตสูงจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมากที่สุด ผู้สูงอายุก็มีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงเมื่ออายุมากขึ้นๆ
2. สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยที่แก้ไขได้ เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน การรับประทานอาหารเค็ม การดื่มสุราและสูบบุหรี่ ภาวะเครียด เป็นต้น
สำหรับความดันโลหิตสูงที่มีสาเหตุพบได้น้อยกว่าร้อยละ 10 ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้แม้จะพบเป็นจำนวนน้อย แต่ก็มีความสำคัญ เพราะบางโรคอาจรักษาให้หายขาดได้ ทั้งนี้สาเหตุที่พบได้บ่อยคือโรคไต หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงไตตีบ ยาบางชนิด อาทิ ยาคุมกำเนิด และหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจตีบและเนื้องอกของต่อมหมวกไต เป็นต้น
อาการของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง แบ่งออกดังนี้
ผลแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูง หากเป็นอยู่นานและไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดการทำลายของอวัยวะสำคัญต่างๆ ในร่างกายได้ อาทิ หัวใจ , สมอง , ไต , หลอดเลือด และตา เพราะความดันโลหิตสูงและเป็นอยู่นานจะทำให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้นและรูเล็กลงทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ลดลง ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะเหล่านี้ไม่ปกติ ระยะเวลาที่เป็นความดันโลหิตสูงจนเกิดผลร้ายขึ้นอยู่กับระดับความดันโลหิต เช่น ระดับอ่อนและปานกลาง จะใช้เวลามากกว่า 10 ปี ระดับรุนแรงจะใช้เวลาสั้นกว่านี้ หรือความดันโลหิตชนิดร้ายแรงจะใช้เวลาแค่เป็นเดือน เป็นต้น
นอกจากการวัดความดันโลหิตแล้ว ต้องดูปัจจัยเสี่ยงอื่นหรือโรคอื่นควบคู่ อาจพบสาเหตุของความดันโลหิตสูง มีการประเมินปัญหาที่เกิดต่ออวัยวะต่างๆ จากความดันโลหิตสูง
เป้าหมาย : ความดันโลหิต - < 140/90
โอกาสเป็นเบาหวาน - < 130/80
มีปัญหาไต - < 120/80
บทความโดย : นายแพทย์ศาสตรา จารุรัตนานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอายุแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit