มูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับกลุ่มบริษัทดัชมิลล์ เดินหน้าสานต่อโครงการ "Fit Your Bone กระดูกแข็งแรง ใครๆ ก็ทำได้" ต่อเนื่องปีที่ 4 จัดงานเดิน-วิ่งการกุศล สร้างเสริมสุขภาพดี "Fit Your Bone Run For Healthy Bone 2018" เนื่องในวันสากลโรคกระดูกพรุน (World Osteoporosis Day) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึง "โรคกระดูกพรุน" ภัยเงียบใกล้ตัว และเตรียมความพร้อมประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ
พันเอก ศาสตราจารย์นายแพทย์ทวี ทรงพัฒนาศิลป์ ประธานมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า มูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับ กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ จัดงานเดิน-วิ่งการกุศล "Fit Your Bone Run for Healthy Bone 2018" เนื่องในวันสากลโรคกระดูกพรุน (World Osteoporosis Day) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนดจัดงานในวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2561 ณ บริเวณสะพานพระราม 8 (ฝั่งถนนอรุณอัมรินทร์) กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ให้คนไทยตระหนักถึง "โรคกระดูกพรุนภัยเงียบใกล้ตัว" และวิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน พร้อมส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมรณรงค์ให้หันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการดื่มนมและผลิตภัณฑ์นม รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสุขภาพกระดูกที่ดีในระยะยาว
ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่การเป็น "สังคมผู้สูงอายุ" (Ageing Society) ตั้งแต่ปี 2548 โดยมีประชากร อายุ 60 ปี ขึ้นไป ไม่ต่ากว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าภายในปี 2564 ประเทศไทยจะก้าวสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่ต่ากว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันคนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น จากข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากร มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี พ.ศ. 2558 พบว่า อายุขัยเฉลี่ยในผู้ชาย คือ 71.6 ปี และในผู้หญิง 78.4 ปี ทำให้มีโอกาสพบโรคเรื้อรังที่เกิดในผู้สูงอายุมากขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งโรคกระดูกพรุนและกระดูกหัก ซึ่งได้มีการสำรวจความชุกของโรคกระดูกพรุนพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้ "โรคกระดูกพรุน" ซึ่งเป็นภัยเงียบใกล้ตัว กลายเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับชาติ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน โดย "วันสากลโรคกระดูกพรุน" (World Osteoporosis Day) ตรงกับวันที่ 20 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับวันสากลโรคกระดูกพรุนและได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพกระดูกของตัวเองให้ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุน"
ปัจจุบัน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และได้บรรจุเรื่องกระดูกพรุนและกระดูกหัก ไว้เป็นปัญหาสำคัญในระดับประเทศ มีนโยบายเชิงรุกและการรักษาที่เป็นองค์รวม ในการป้องกันการเกิดกระดูกหัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกหักซ้ำ โดยจัดให้มีโครงการ "Fracture Liaison Service (FLS)" หรือ "Recapture Prevention" โดยมีหลักการ คือ ถ้าเกิดกระดูกหักขึ้นแล้ว ไม่ให้เกิดซ้ำอีก เป็นระบบการบริหารที่โดยอาศัยทรัพยากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ในแต่ละแห่ง เสริมทัพด้วยการมีผู้ประสาน ระหว่างสหสาขาวิชาชีพ รวมถึงตัวผู้ป่วยและญาติ ก่อเกิดรูปแบบการรักษาแบบเป็นทีมเวิร์ค ตั้งแต่การผ่าตัดรักษากระดูกสะโพกหักแบบผ่าตัดไวเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ไปจนถึงการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังจากที่อาการดีขึ้น และให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดกระดูกหักซ้ำ ซึ่งหากทำได้ตามโครงสร้างเหล่านี้ คาดว่าจะสามารถลดอัตราการเกิดภาวะกระดูกหักซ้ำซ้อนได้ร้อยละ 25-50 ต่อปี ซึ่งจะสามารถลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นจำนวนเงินซึ่งมากกว่ารายได้ต่อหัวของผลิตภัณฑ์ประชาชาติถึง 2 เท่า สรุปได้ว่า โครงการ Recapture Prevention ถือเป็นระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ที่ใช้การลงทุนน้อย แต่ให้ประสิทธิผลมาก ทั้งในแง่ผลลัพธ์ทางคลินิค และด้านเศรษฐศาสตร์
ทั้งนี้มูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเผยแพร่ความรู้ในการจัดตั้ง FLS ให้เป็นรูปธรรม ทั้งในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป รวมถึงโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ รวมถึงการจัดประชุมวิชาการเพื่อให้ความรู้แก่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีส่วนสำคัญในการดูแลผู้ป่วย เป็นประจำทุกปี ทั้งในกรุงเทพและในภูมิต่างๆ ทั่วประเทศไทย และได้ร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยแพทย์ เวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทย สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย และสมาคมรูมาติสซัมแห่งประเทศไทย จัดทำคู่มือแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน เพื่อเป็นแนวทางให้แพทย์ทั่วไปนำไปปรับใช้ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชน โดยทางมูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญ การดูแลตัวเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสเกิดกระดูกหัก และได้ร่วมกับกลุ่มบริษัทดัชมิลล์จัดงานเดิน-วิ่งการกุศล Fit Your Bone Run For Healthy Bone อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมสุขภาพประชาชนคนไทย
อย่างไรก็ดี การดูแลกระดูกที่ดีที่สุดไม่ใช่การรักษาแต่เป็นการป้องกันโรค เพราะ "โรคกระดูกพรุน" เป็นภาวะที่ความแข็งแกร่งของกระดูกลดลงร่วมกับการที่คุณภาพกระดูกลดลงด้วย ทำให้กระดูกมีความเปราะบาง เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักได้ง่ายขึ้น ซึ่งกระดูกส่วนที่มีโอกาสหักได้ง่ายจากภาวะกระดูกพรุน คือ กระดูกสันหลัง ข้อสะโพก ข้อมือ และกระดูกต้นแขนบริเวณหัวไหล่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างต่อเนื่องจนอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต จากสถิติพบว่าในจำนวนผู้หญิงไทยทุกๆ 3 คน และผู้ชายไทยทุกๆ 5 คน จะมีหนึ่งคนที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ ดังนั้นจึงต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคกระดุกพรุนด้วยการรับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีสูง เพื่อเป็นต้นทุนสำหรับการสร้างเนื้อกระดูก ร่วมกับการออกกำลังกายที่เหมาะสมและถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ และควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อกระดูก เช่น ลดหรือเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้กระดูกหักได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เช่น ควรหลีกเลี่ยงการเดินบนพื้นลื่นหรือมีของวางเกะกะ และต้องระวังตัวจากอุบัติเหตุที่อาจทำให้หกล้มได้ เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้กระดูกแข็งแรง คือ การดื่มนมเป็นประจำเพื่อสะสมแคลเซียมธรรมชาติ ช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือ ตั้งแต่วัยเด็กหรือในช่วงอายุ 30 ปี แต่ถ้าอายุเกิน 30 ปี ควรดื่มนมเพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียมวลกระดูก ทั้งนี้การเลือกดื่มนม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย เช่น ผู้สูงอายุ และคนที่เป็นโรคเบาหวานควรเลือกดื่มนมสดรสจืดนายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายของกลุ่มบริษัทดัชมิลล์ มุ่งเน้นการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี แข็งแรง และมี Healthy Lifestyle ซึ่งเป็นวิถีสุขภาพดี มีความสุข เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทฯ โดยมุ่งให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมรณรงค์ให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการดื่มนม รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสุขภาพดีและแข็งแรงในระยะยาว ภายใต้โครงการ Healthy Lifestyle โดยทางบริษัทฯ ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของภาคีเครือข่ายสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้ริเริ่มโครงการดีๆ จัดงานเดิน-วิ่งการกุศล สร้างเสริมสุขภาพดี Healthy Lifestyle Run 2018 by Dutch Mill ใน 5 สนาม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ มอบรายได้สมทบทุนบริจาคให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ รวมทั้งช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กระจายรายได้ในท้องถิ่น และยังได้ร่วมสนับสนุนงานวิ่งต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย สำหรับงานวิ่ง Fit Your Bone Run For Healthy Bone เป็นหนึ่งในงานวิ่งหลักที่กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ได้ร่วมกับมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ ริเริ่มโครงการ "Fit Your Bone กระดูกแข็งแรง ใครๆ ก็ทำได้" และเดินหน้าสานต่อจัดกิจกรรมต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยรายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ นับเป็นอีกหนึ่งงานวิ่งดีๆ มีประโยชน์ ที่นักวิ่งทุกคนไม่ควรพลาด ได้ทั้งสุขภาพดี และได้ร่วมสนับสนุนมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯสำหรับงานเดิน-วิ่งการกุศล "Fit Your Bone Run for Healthy Bone 2018" แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร เวลาปล่อยตัว 03.30 น. แบ่งการแข่งขันตามเพศ และช่วงอายุ เพศชาย อายุ 15-29 ปี / 30-39 ปี / 40-49 ปี / 50 ปี ขึ้นไป เพศหญิง อายุ 15-29 ปี / 30-39 ปี / 40-49 ปี / 50 ปี ขึ้นไป รับสมัคร 1,500 คน เวลา Cut Off 3.30 ชั่วโมง (Gun Time) นักวิ่งที่วิ่งผ่านทุกจุดเช็คพอยท์และวิ่งเข้าเส้นชัยภายในเวลาจะได้รับเสื้อฟินิชเชอร์ Fit Your Bone Limited Edition
2. มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร เวลาปล่อยตัว 04.30 น.แบ่งการแข่งขันตามเพศ และช่วงอายุ เพศชาย อายุไม่เกิน 15 ปี / 16-29 ปี / 30-39 ปี / 40-49 ปี / 50 ปี ขึ้นไป เพศหญิง อายุไม่เกิน 15 ปี / 16-29 ปี / 30-39 ปี / 40-49 ปี / 50 ปี ขึ้นไป รับสมัคร 3,000 คน เวลา Cut Off 2.30 ชั่วโมง พิเศษสำหรับนักวิ่งที่ทุกจุดเช็คพอยท์และวิ่งเข้าเส้นชัยภายในเวลา 2.00 ชั่วโมง (Gun Time) จะได้รับหมวก Fit Your Bone Limited Edition
3. เดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพ ฟันรัน ระยะทาง 5.0 กิโลเมตร เวลาปล่อยตัว เวลา 05.00 น. ไม่มีการแข่งขัน ไม่แบ่งเพศ และกลุ่มอายุ รับสมัคร 1,500 คน เวลา Cut Off 2.00 ชั่วโมง พิเศษสำหรับนักวิ่งที่วิ่งเข้าเส้นชัยภายในเวลา 1.30 ชั่วโมง (Gun Time) จะได้รับกระเป๋าใส่รองเท้ากีฬา Fit Your Bone Limited Edition
โดยนักวิ่งทุกท่าน ทุกประเภทการแข่งขัน จะได้รับเสื้อที่ระลึก และหลังเข้าเส้นชัยรับเหรียญที่ระลึก พร้อมหนังสือ Fit Your Bone นอกจากนี้ยังได้รับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ ทุนประกัน 100,000 บาท จาก Ocean Life ไทยสมุทรทั้งนี้รางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขัน รวมทั้งหมด 58 รางวัล ได้แก่ รางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Overall รวมทั้งหมด 4 รางวัล แบ่งเป็น ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร หญิงและชาย รวม 2 รางวัลพร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท และรางวัลดื่มนมดัชมิลล์ฟรี 1 ปี และระยะทาง 10.5 กิโลเมตร หญิงและชาย รวม 2 รางวัล พร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท และรางวัลดื่มนมดัชมิลล์ฟรี 1 ปี ถ้วยรางวัลเกียรติยศจากมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ พร้อมของที่ระลึกจากดัชมิลล์ สำหรับผู้ชนะเลิศอันดับ 1-3 ทุกประเภท ทุกกลุ่มอายุ และมีรางวัลพิเศษ สำหรับชมรมที่ส่งสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมมากที่สุด อันดับ 1-5 รับโล่ที่ระลึกจากมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ
นอกจากนี้ในวันงานยังมีกิจกรรมดี ๆ มากมายที่ให้สาระความรู้ดีๆ กับนักวิ่งและผู้สนใจ ได้แก่ คลินิคนักวิ่งให้คำปรึกษาแนะนำฟรี โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ พร้อมทั้งดื่มนมและผลิตภัณฑ์นมคุณภาพจากดัชมิลล์ฟรี ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ตรวจวัดมวลกระดูกฟรี และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดตามอัพเดตข่าวสารกิจกรรมได้ที่ เฟซบุ๊คแฟนเพจ Fit Your Bone หรือเว็บไซต์ www.fityourbone.com โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ -15 กันยายน 2561 หรือปิดรับสมัครเมื่อเต็มจำนวน กำหนดรับเสื้อและเบอร์วิ่งในวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2561 เวลา 10.00-18.00 น. ณ บูธ Fit Your Bone ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งถนนอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพฯสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์ @fityourbone หรือ มูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ โทร. 0-2241-7933 ในวันเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น. และศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคดัชมิลล์ โทร. 0-2881-2222 ในวันเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น.
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit