เรื่องย่อ: สาปกระสือ

          เรื่องย่อละคร "สาปกระสือ"
          บทประพันธ์และบทโทรทัศน์ โดย อาณาจินต์
          นลิน หญิงสาวที่ทำงานอยู่กรมศิลปากรและ พนิช แฟนของนลินนำเงินไปเล่นการพนันจนเป็นหนี้ก้อนใหญ่ จึงหลอกใช้นลินขโมยวัตถุโบราณไปขาย เธอได้รับการติดต่อจาก ชลันตี มาตามนลินกลับไปรับมรดกที่บ้านเกิดของแม่ ซึ่งยายเพียรกำลังป่วยหนัก นลินเข้าไปหายายเพียรตอนเช้าแต่พบว่ายายเพียรเสียชีวิตแล้ว นลินฝันประหลาดถึงหญิงคนหนึ่งที่กำลังร่ายรำอยู่ในสถานที่ลึกลับ และเริ่มรู้สึกตึงๆ รอบคอตลอดเวลา พฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยนไป ชอบใช้ชีวิตกลางคืนมากกว่ากลางวัน ตาสู้แสงไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือเริ่มมีข่าวลือประหลาดๆ เกิดขึ้นว่ามีคนเห็นดวงไฟลอยวนไปมารอบๆบริเวณที่นลินอาศัยอยู่ พอรุ่งเช้าก็จะพบคราบเลือดตามราวแขวนเสื้อหรือสถานที่ต่างๆ บ้างก็มีสัตว์ล้มตายในลักษณะที่ไส้หรือเครื่องในหายไป ตฤณฤทธิ์ นักวิจัยหนุ่ม ผู้สนใจเกี่ยวกับกระสือ ลงพื้นที่เพื่อวิจัย และได้มาหาข้อมูลที่ทำงานของนลิน พบว่านลินมีอาการแปลกประหลาดบางอย่างที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขากำลังวิจัย แต่ไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวข้องกับมัน
          นลิน รู้ตัวว่ากลายเป็นทายาทกระสือไปแล้ว จนคืนหนึ่งนลินในร่างกระสือเกี่ยวถูกหนามพุทราที่ชาวบ้านปลูกไว้ ชาวบ้านพากันถืออาวุธออกมาจะทำร้าย แต่ตฤณฤทธิ์เห็นเข้าจึงรีบเข้าไปช่วยนลินไว้ได้ ตฤณฤทธิ์ตกใจมากในตอนแรกเมื่อรู้ว่าเธอคือกระสือจริงๆ แต่ต่อมาเขากลับเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก ทำให้นลินเริ่มไว้ใจตฤณฤทธิ์และเปิดใจเล่าเรื่องต่างๆ ให้เขาฟังบุรัณย์หาทางพิสูจน์ว่านลินเป็นกระสือแอบเอากล้องไปซ่อนไว้ในบ้าน และพบว่ามีคนในบ้านนี้ที่ถอดหัวกับไส้ออกได้จริง ๆ จึงเอาคลิปนี้ไปออกข่าวทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โต นลินถูกตามล่าตัวจากคนในหมู่บ้าน ตฤณฤทธิ์จึงพานลินเข้าไปหาหลวงปู่คำ ซึ่งธุดงค์อยู่กลางป่า เพื่อหาวิธีที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากคำสาปนี้ได้ วิธีแรกคือต้องบำเพ็ญเพียรตลอดชีวิต แต่หลวงปู่เลี่ยงที่จะไม่พูดถึงวิธีที่สองที่นลินบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่านั้น ปัณรีก็สร้างเรื่องให้ชาวบ้านเข้าใจนลินผิดว่าที่หนีไปนั้นเป็นเพราะนลินได้ขโมยวัตถุโบราณที่พลเพิ่มเก็บไว้ไป แต่เพราะปัณรีเคยผูกกรรมร่วมกับนลินมาก่อนใน ปัณรีจึงได้กลายเป็นกระสือไปโดยไม่รู้ตัว และเริ่มมีชาวบ้านตายอย่างแปลกประหลาด ตฤณฤทธิ์คิดว่าเป็นฝีมือนลิน นลินปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือเธอ แต่ตฤณฤทธิ์ไม่เชื่อ ทั้งสองจึงทะเลาะกันใหญ่โต นลินตัดสินใจออกเป็นกระสืออีกครั้งเพื่อสืบหาความจริง จนเจอปัณรีที่กำลังกินไส้ชายคนหนึ่งที่ถูกฆ่า ขณะที่ชาวบ้านและพวกพลเพิ่มตามมาเจอก็คิดว่านลินเป็นคนฆ่าชายคนนั้น แต่นลินหนีไปได้เสียก่อน และได้พบกับชลันตีจึงเล่าว่าที่นลินต้องอยู่ในสภาพนี้เพราะตระกูลของเธอถูกสาป เพราะกรรมที่นลินก่อขึ้นเองจากการขโมยสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งในอดีต อาณาจักรเมืองโบราณ นลินคือสาวิตราณี ที่เป็นนางรำและนางสนมของเจ้าเมือง ซึ่งโปรดปรานเธอมาก แต่เธอมีคนรักอยู่แล้วคือสิงหล องครักษ์ที่รับใช้ใกล้ชิด รุจิเทวี ริษยาสาวิตราณีจึงนำเรื่องนี้ไปฟ้องเจ้าเมือง สาวิตราณีไหวตัวทัน จึงขโมยสมบัติของเจ้าเมืองเพื่อเป็นทุน เจ้าเมืองตามจับได้ สาวิตราณีกลับถูกนำมาลงโทษประหารชีวิตอย่างทรมานต่อหน้าสิงหล พรากมณ์ทำพิธีเผาร่างสาวิตราณีด้วยไฟอาคม ไหม้จนเหลือหัวกับไส้ อีกทั้งวิญญาณยังถูกพราหมณ์ที่ทำพิธีสาปแช่ง โดยแกะสลักภาพของสาวิตราณีเป็นปีศาจที่มีแต่หัวกับไส้อยู่บนแท่นหินนั้น พร้อมกับสลักคำสาปเพื่อจองจำให้ลูกหลานหรือคนที่ผูกเวรผูกกรรมกับสาวิตราณีต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานเช่นนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ 
          ตฤณฤทธิ์และนลินตัดสินใจเดินทางไปที่ปราสาทโบราณเพื่อแก้คำ แต่จะแก้ไขได้สำเร็จหรือไม่ คำสาปที่รอการหลุดพ้นจะจบอย่างไร ติดตามชมได้ทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา บทประพันธ์8.35 น. ทางช่อง 8 (เริ่มตอนแรก อังคาร กรมศิลปากร5 กย.6บทประพันธ์) 
          สอบถามรายละเอียด สราญญา (เจี๊ยบ) เรื่องย่อละคร8บทประพันธ์-7เรื่องย่อละครกรมศิลปากร4399 / ธัญดนัย (ทันนี่) เรื่องย่อละคร89-เรื่องย่อละครกรมศิลปากร8345บทประพันธ์

          คาแร็คเตอร์ตัวละคร "สาปกระสือ"
          ตฤณฤทธิ์ (สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์ )
          นักวิจัยด้านโบราณคดีที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณ คิดว่าเรื่องผีสาง งมงาย ไม่เชื่อในเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่บางครั้งเชื่อมั่นในตนเองจนไม่ฟังผู้อื่น สนใจเรื่องแผ่นจารึกอักษรโบราณ และรูปอมนุษย์ประหลาด ที่มีแต่หัวกับไส้ เป็นคนมุ่งมั่น จริงจังกับสิ่งที่กำลังศึกษา จึงลงพื้นที่ไปศึกษาเรื่องกระสือทุกที่หากมีเบาะแส
          นลิน (น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์)
          ข้าราชการฯกรมศิลป์ ดูแลเกี่ยวกับข้าวของที่จัดแสดงของกรมฯ ชอบเรื่องศิลปะ วัฒนธรรมโบราณ เชื่อในเรื่องศาสตร์ลี้ลับโบราณ และชอบศึกษา อ่อนหวาน โลกสวย แต่เด็ดเดี่ยว เพราะอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้สึกเหงา และโหยหาความรัก เมื่อมีคนที่รักตน จึงเชื่อหมดใจ ยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งทรยศต่อหน้าที่ตนเอง โดยไม่รู้เลยว่ามันทำให้คำสาปที่ติดตัวเธอมาสำแดงผล นลินกลายเป็น "กระสือ" ผีร้ายที่เธอไม่อยากเป็น 
          พลเพิ่ม (ตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์)
          นักการเมืองท้องถิ่น มีอิทธิพลและเงินทองล้นมือ แต่ใช้อำนาจค้าขายของโบราณในทางมิชอบ โหดเหี้ยม ไม่กลัวกฎหมาย ไม่ยอมลงให้ใครนอกจาก ปัณรี น้องสาวเพียงคนเดียว คิดเรื่องผลประโยชน์มาก่อนความถูกต้อง นอกจากจะเป็นนักสะสมของโบราณเพื่อขาย พลเพิ่มยังเชื่อเรื่องลึกลับ เครื่องราง ของขลัง แคล้วคลาดคงกระพัน ถึงขนาดเลี้ยงหมอผีไว้กับตัว อดีตชาติคือเจ้าเมืองโบราณที่ผูกเวรกรรมกับตฤณฤทธิ์และนลินมา
          ปัณรี (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) 
          น้องสาวพลเพิ่ม คอยช่วยงานเรื่องธุรกิจที่พี่ชายทำบังหน้า และงานผิดกฏหมายที่พี่ชายทำ เป็นสาวสวย ปากหวาน พูดจาเก่ง มีความมั่นใจ ไม่กลัวใคร เพราะมีพลเพิ่มหนุนหลัง ถูกพี่ชายตามใจจนเคยตัว แต่ไม่ใช่พวกวี้ดว้าย จะต่อรอง หรือหาสารพัดวิธีมากดดันฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองอยากได้ หลงรักตฤณฤทธิ์มาก ความอยากเอาชนะที่มีเป็นทุนเดิม ทำให้ปัณรีไม่เลือกวิธีที่จะทำให้ได้หัวใจของตฤณฤทธิ์มา 
          พณิช (นน-ชานนท์ ทิพกนก)
          แฟนของนลิน เป็นข้าราชการทำงานที่เดียวกับเธอ หน้าตาดี เจ้าชู้ เอาใจเก่ง แต่ติดหรู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ที่มาทำงานราชการ เพราะไม่รู้จะไปทำอะไร หวังแต่เก็บกินสวัสดิการและบำเหน็จบำนาญที่ตัวเองจะได้ จนกลายเป็นข้าราชการเช้าชามเย็นชาม พณิชเริ่มหาเงินทางลัดด้วยการเล่นพนัน เห็นนลินดูเงียบๆไม่มีพิษสง เลยหลอกให้รักและให้ขโมยของในกรมมาขาย เพื่อเอาเงินมาให้เขา ทั้งที่ความจริงเขาแอบคบกับอชินี ข้าราชการในกรมฯ อีกคนอยู่
          บุรัณย์ (บอส-พุทธิพงษ์ คล้ำจีนภาณุวงศ์)
          เพื่อนของตฤณฤทธิ์ นักข่าวสายอาชญากรรม นิสัยช่างจ้อ ชอบสอดรู้สอดเห็น เติบโตในเส้นทางนักข่าวได้ เพราะเป็นนักข่าวสายลุย บุกน้ำลุยไฟได้ทุกที่ไม่เคยกลัว แต่มักจะตาย เพราะปากตัวเอง เพื่อการทำข่าวแล้ว ไม่สนว่าจะได้ข่าวมาจากไหน ขอแค่เป็นกระแสให้คนพูดถึงได้ก็พอ ถนัดเรื่องอาชญากรรมและข่าวชาวบ้านเป็นพิเศษ
          มธุรส (มีน-อัจจิมา โกสุมา)
          เพื่อนร่วมทีมวิจัยกับตฤณฤทธิ์ ภายนอกดูเรียบร้อยบอบบาง แต่จริงๆแล้วมีความเป็นผู้นำ เด็ดเดี่ยวไม่แพ้ผู้ชาย คอยช่วยเหลือดูแลตฤณฤทธิ์ด้วยความหวังดี เพราะลึกๆแล้วแอบชอบตฤณฤทธิ์มาตลอด
          อชินี (อมยิ้ม-จุฬาลักษณ์ จุฬานนท์)
          เพื่อนร่วมงานของนลินที่กรมศิลป์ แต่แอบคบหาดูใจกับพณิชลับหลัง พยายามจับผิดนลินทุกอย่างเพื่อเปิดเผยความจริงให้ได้
          ฉัตรฉาย (มินต์-ลลิตา ไพศาล)
          สก๊อยใจแตก ลูกสาวคุณนายโฉมศรี แอบชอบตฤณฤทธิ์เลยเกลียดนลิน
          กำนันสิน (เวนย์ ฟอลโคเนอร์)
          กำนันในหมู่บ้าน ร่วมมือกับโฉมศรีสร้างเรื่อง ยุยงให้ชาวบ้านเชื่อว่านลินเป็นกระสือ
          ยายเพียร (ต่อง-สาวิตรี สามิภักดิ์)
          หญิงชราลึกลับ ลักษณะภายนอกเป็นยายแก่ใจดี ยิ้มแย้ม เป็นมิตร อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงสองคนกับคนใช้เท่านั้น เป็นคนมีน้ำใจ จึงทำให้ชาวบ้านนับถือในความดี แต่ความแปลกประหลาดของยายเพียรอีกเช่นกัน ที่ทำให้ชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งสงสัยว่ายายเพียรไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้ว่าความจริงแล้วยายเพียรคือ "ผีกระสือ" จริงหรือไม่
ชลันตี (ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล)
          ทนายความหญิงประจำตระกูลของยายเพียร ท่าทางลึกลับ สุขุม มักแต่งตัวนุ่งผ้าถุงไทยแท้ แต่มีความน่าเกรงขาม เข้มงวด เด็ดขาด เพราะแท้จริงแล้วเธอเป็นน้องสาวของยายเพียร เธอจึงกลายเป็นที่ปรึกษาและเตือนสติให้นลินด้วย
          โฉมศรี (ไปรมา รัชตะ)
          แม่ของฉัตรฉาย เป็นเพื่อนบ้านที่ไม่ถูกกับยายเพียร เพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ พยายามจับผิดเพื่อเปิดโปงนลิน
          กวิตา (พิม-พิมจันทร์ พิชยะสูตร)
          เพื่อนสนิทของนลินตั้งแต่สมัยเรียนจนมาทำงานด้วยกันที่กรมศิลป์ คอยดูแลช่วยเหลือทุกอย่างด้วยความจริงใจ
          ฌาน (ปราบ-ปราบปฎล สุวรรณบาง)
          หมอผี ลูกน้องคนสนิทของพลเพิ่ม สืบเชื้อสายมาจากพราหมณ์ที่แกะสลักคำสาปบนแท่นหินเพื่อจองจำนลินให้เป็นกระสือ
          ดิษย์ (วิทย์-ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล)
          พ่อของตฤณฤทธิ์ คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับลูก ให้อิสระในการดำเนินชีวิต แต่จะคอยดูแลอยู่ห่างๆเสมอ
          ศันสนีย์ (เจี๊ยบ-ปวีณา ชารีฟสกุล)
          แม่ของตฤณฤทธิ์ รักและเป็นห่วงลูก ไม่อยากให้ไปลงพื้นที่วิจัยในเขตอันตราย ชื่นชอบในตัวมธุรส จึงพยายามเชียร์ให้ตฤณฤทธิ์เปิดใจคบหา
          นรา (ต้อม-รัชนีกร พันธ์มณี)
          แม่ของนลิน เมื่อรู้ความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับยายเพียร จึงอุ้มท้องลูกหนีมาอยู่กรุงเทพ และไม่ติดต่อกลับไปอีกเลย
          นวล (หยา-จรรยา ธนาสว่างกุล)
          แม่บ้านเก่าแก่ในบ้านยายเพียร ที่คอยดูแลรับใช้ยายเพียรมาตลอด เป็นคนพูดน้อย เก็บความลับเก่ง ซื่อสัตย์ต่อเจ้านายมาก ช่างสังเกต พูดจานิ่งๆ แต่มีความหมาย
          วิศวัต (โค้ช-พสุ สิงห์อุสาหะ)
          ผู้ช่วยในทีมวิจัยของตฤณฤทธิ์ ไม่เชื่อเรื่องโชคลางและสิ่งลี้ลับ
          ชลพร (แอนเดรีย-ชาคริยา เดชมาก)
          เพื่อนสนิทของปัณรี เป็นลูกคุณหนูนิสัยเสีย ชอบดูถูกเหยียดหยามคนอื่น
          เจ๊หวี (ธงธง-มกจ๊ก)
          เจ้าของร้านเสริมสวยในตลาดที่ยายเพียรเคยช่วยเหลือ ไม่ถูกกับบ้านกำนันสิน 
          ชมพู่ (ลูลู่-ดวงฤดี บุญบำรุง)
          ชาวบ้านที่ยายเพียรเคยช่วยเหลือจึงสำนึกบุญคุณ คอยเป็นหูเป็นตาให้นลินเสมอ
          นายเบา (เขาทราย-แกแล็คซี่)
          คนงานของกำนันสิน กลัวผี เชื่อเรื่องโชคลาง เป็นคนซื่อจึงถูกกำนันสินใช้เป็นเครื่องมือให้คอยทำร้ายนลินเสมอ

          ยุคอดีต บทประพันธ์เรื่องย่อละครเรื่องย่อละครเรื่องย่อละคร ปี
          สิงหล (สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์ )
          องครักษ์ฝีมือดีของเจ้าเมือง เป็นคนรักของนางสาวิตราณีมาก่อน จงรักภักดีต่อเจ้าเมืองมาก เจ้าเมืองต้องการตัวนางสาวิตราณีก็ยอมปล่อยนางไป แต่เมื่อรู้ว่าเจ้าเมืองกำลังทำให้หญิงสาวที่ตนรักทุกข์ทรมาน จึงตัดสินใจทรยศด้วยการพานางสาวิตราณีหนี แต่กลับพลาดถูกจับได้และถูกสังหาร
          สาวิตราณี (น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์)
          นางรำหลวงในอาณาจักรโบราณ หน้าตาสวย มีเสน่ห์ มีฝีมือในการร่ายรำ จนทำให้เจ้าเมืองหลงรัก แต่สาวิตราณีไม่เคยมอบใจให้ใคร นอกจากสิงหล องครักษณ์หนุ่มที่ผูกพันกันมานาน เมื่อถูกบังคับให้ถวายตัว สาวิตราณีพยายามจะหนี แต่ไม่สามารถทำได้ จึงต้องยอมเป็นสนมของเจ้าเมือง แต่เจ้าเมืองเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว กลับทำร้ายเธอทั้งร่างกายและจิตใจ สาวิตราณีจึงขอร้องให้สิงหลพาหนี เมื่อเจ้าเมืองจับได้จึงฆ่าสิงหล พาเธอกลับไปประหาร และสาปให้เธอกลายเป็นผีร้ายไปทุกชั่วโคตร
          เจ้าเมือง (ตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์)
          เจ้าเมืองอาณาจักรโบราณที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ใจคอโหดเหี้ยม ทุกคนต้องยอมสวามิภักดิ์ด้วย หลงรักนางสาวิตราณีและต้องการให้เธอมาเป็นของตน จึงบังคับให้เธอถวายตัวโดยที่สาวิตราณีไม่เต็มใจ เมื่อรู้ว่าเธอหนีไปกับสิงหลองครักษ์ของตนก็โกรธแค้นมาก
          รุจิเทวี (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก)
          นางสนมของเจ้าเมือง เป็นเพื่อนที่สาวิตราณีรักและไว้ใจมากที่สุด แต่ลึกๆแล้วรุจิเทวีกลับริษยามาตลอด จึงนำเรื่องของสาวิตราณีและสิงหลไปฟ้องเจ้าเมือง