นางสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด กล่าวถึงการครบรอบ 60 ปีของยาหม่องน้ำเซียงเพียวว่า "จุดเริ่มต้นของเซียงเพียวมาจากคุณพ่อ (นายบุญเจือ เอี่ยมพิกุล) ซึ่งได้คิดค้นและผลิตยาหม่องน้ำ ยี่ห้อ "เซียงเพียวอิ๊ว" เมื่อปี ค.ศ. 1958 โดยหลังจากที่ตนมาบริหารต่อจากบิดา ได้พัฒนาบริษัทและตราสินค้าให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นโดย Rebranding "เซียงเพียวอิ๊ว" ให้กลายมาเป็น "เซียงเพียว" เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคต และกำเนิด "เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์" แบรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ และมีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยเหมาะกับผู้บริโภคในยุคนั้น นับเป็นการสร้างเบอร์แทรม เพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล และเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังและยั่งยืนนับตั้งแต่นั้นมา
จากการสำรวจตลาดยาหม่องน้ำในไทยโดย AC Nielsen พบว่าปัจจุบันมีมูลค่าราว 1 พันล้านบาท ยาหม่องน้ำเซียงเพียวเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งกว่า 70% ส่วนอีกเกือบ 30% เป็นการเกาะกลุ่มกันประมาณ 10 แบรนด์ ส่วนตลาดยาดม ประมาณการณ์คร่าวๆ ว่าประชากรไทยราว 70 ล้านคน ใช้ยาดมอย่างน้อย 10% โดยใช้ประมาณ 2 หลอดต่อเดือน คิดเป็นมูลค่าราว 40 บาท เฉลี่ยแล้วมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 3.3 พันล้านบาท/ปี โดย "ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์" มีส่วนแบ่งราว 20%
ด้านตัวเลขผลประกอบการของเบอร์แทรม มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2560 ปิดยอดขายรวมที่ 1,213 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายของปี 2561 ไว้ที่ 10% หรือประมาณ 1,320 ล้านบาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศ 40% ต่างประเทศ 60% แยกคิดเป็นแบรนด์เซียงเพียว 65% เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ 35 % และมีส่วนแบ่งในตลาดยาหม่องน้ำเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และอันดับสองในตลาดยาดมแบบแท่ง
ด้านตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันสินค้าของเบอร์แทรมภายใต้แบรนด์ "เซียงเพียว" และ "เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์" ส่งออกจำหน่ายไปใน 13 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เยอรมัน มอลโดวา โดยแผนการรุกตลาดต่างประเทศจากนี้ สุวรรณาเผยว่า "เบอร์แทรม จะเดินหน้าสู่ความเป็นโกลบอลแบรนด์เต็มตัว ด้วยกลยุทธ์ "One World One Brand" เพื่อสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก นอกจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายแล้ว เบอร์แทรมจะสร้างความแข็งแกร่งในประเทศที่สามารถเข้าไปจำหน่ายแล้วให้ครอบคลุมช่องทางการขายให้มากขึ้น รวมทั้งโฟกัสตลาดในประเทศจีนและตลาดชาวมุสลิมซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของโลกในปัจจุบัน
และล่าสุดในปีนี้เบอร์แทรมคว้ารางวัล "แบรนด์ไทยยอดเยี่ยม หรือ Best Thai Brand" จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2561(Prime Minister's Export Award 2018) ภายใต้แนวคิด "Leading The Way" สะท้อนถึงเส้นทางเดินแห่งความสำเร็จของนักธุรกิจไทย ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลสูงสุดที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ส่งออกไทย ที่ได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีถึงมาตรฐานการผลิตสินค้าของเบอร์แทรมและช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่คู่ค้าประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
"นอกจากการดำเนินงานทางธุรกิจแล้ว เบอร์แทรมยังใส่ใจในการตอบแทนสังคมอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย ตามปณิธานในการดำเนินธุรกิจที่ว่า "BUILDING A STRONGER COMMUNITY FOR ALL มุ่งสู่สังคมที่ดีร่วมกัน" ซึ่งมุ่งมั่นส่งเสริมให้คนในสังคมมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น โดยเน้น 3 ด้านหลัก คือ การศึกษา กีฬา และศิลปะ ผ่านผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของเบอร์แทรม อาทิ Bertram Sunrise Run ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ณ เขตบางขุนเทียน เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ยากไร้ต่างๆ การมอบทุนการศึกษาในสถานศึกษาฯ ทั่วประเทศ การมอบเงิน 1,000,000 บาทให้กับโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" พร้อมทั้งมอบยาและตู้ยาสามัญ มูลค่ารวม 150,000 บาท แก่ 45 โรงเรียน ตามเส้นทางวิ่งในโครงการ และการจัดตั้ง Bertram Sport Team เพื่อสร้างเสริมการออกกำลังกายให้แก่พนักงานเบอร์แทรมทุกคน" สุวรรณา กล่าวปิดท้าย
สำหรับโรงงานแห่งใหม่ของเบอร์แทรม ตั้งอยู่ที่ลำลูกกาคลอง 7 จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่ราว 70 ไร่ ด้วยงบประมาณในการลงทุนทั้งหมดกว่า 1,000 ล้านบาท และมีเครื่องจักรคุณภาพมาตรฐานการผลิตขั้นสูงสุด GMP/Pics ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นโรงงานในการผลิตสินค้าทั้งหมดของบริษัท โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 80 ล้านชิ้น/ปี (สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงสุดเป็น 200 ล้านชิ้น/ปี) มีพนักงาน 300 คน และลดการใช้พลังงานด้วยการติดตั้ง "หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์" ใช้งบลงทุนกว่า 35 ล้านบาท โดยก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 1,158,465 kwh/ปี หรือเป็นเงิน 4,270,597 บาท/ปี และโรงงานแห่งนี้ สามารถลดปริมาณ CO2 ได้มากกว่า 550,356 กิโลกรัม เทียบเท่ากับการดูดซับ CO2 จากต้นไม้ใหญ่ถึง 55,035 ต้น/ปี
ปัจจุบันบริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด เป็นเจ้าของ 4 แบรนด์ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ 2 แบรนด์ ได้แก่ เซียงเพียวและเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ และเป็นแบรนด์ด้านการบริการ 2 แบรนด์ ได้แก่ เป๊ปเปอร์มินท์ไบค์ปาร์ค ซึ่งเป็นสนามปั่นจักรยานเสือภูเขาใจกลางเมือง ตั้งอยู่ที่ซอยโยธินพัฒนา 3 เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และร้านอาหารมิ้นท์คาเฟ่ ซึ่งอยู่ด้านหน้าของสนามจักรยานเป๊ปเปอร์มินท์ไบค์ปาร์ค
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit