หากโรงเรียนมีสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อการเรียนรู้อย่างเหมาะสม มีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของนักเรียน ครู และการเรียนการสอนภายในโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท
อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จึงสนับสนุนโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยในปีนี้ อินทัชได้สนับสนุนโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อการศึกษาแก่สามโรงเรียนในจังหวัดเลย ประกอบด้วย
โรงเรียนบ้านวังกกเดื่อ อำเภอวังสะพุง
โรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝาย อำเภอเอราวัณ และโรงเรียนบ้านสวนปอ อำเภอภูหลวง เพื่อให้นักเรียน ครูในโรงเรียนมีอุปกรณ์การเรียนและสื่อการเรียนการสอนที่ดี สามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้เหมาะสมกับวัย รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้สะอาด น่าอยู่ น่าเรียนมากขึ้น เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนมีสุขอนามัยที่ดี เรียนรู้อย่างมีความสุข
นายเอนก พนาอภิชน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "อินทัช และบริษัทในเครือสนับสนุนนโยบายของภาครัฐที่มุ่งเน้นปฏิรูประบบการศึกษา เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลมีโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพจึงเข้าร่วมโครงการฯเป็นปีที่ อินทัช โฮลดิ้งส์ หลังจากที่ทีมงานลงพื้นที่ร่วมประชุมกับโรงเรียนและชุมชนแล้ว จึงทราบปัญหาความต้องการของแต่ละโรงเรียนซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่เป็นความจำเป็นพื้นฐานที่ยังขาดอยู่ อินทัชและบริษัทในเครือมีความเห็นร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือทั้ง 3 โรงเรียนจึงจัดสรรงบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 3,3โรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝายโรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝาย,โรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝายโรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝายโรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝาย บาท เพื่อปรับปรุงและพัฒนา 4 ด้าน คือ โรงเรียนบ้านวังกกเดื่อ)ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในโรงเรียน อินทัช โฮลดิ้งส์)พัฒนาทักษะความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ของเด็ก 3)ส่งเสริมสุขอนามัย และ 4)ฝึกทักษะอาชีพให้แก่นักเรียน โดยบริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จะเป็นแกนหลักในการสนับสนุนและประสานงานร่วมกับโรงเรียนและชุมชน"
ปรับปรุงอาคารเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน ระบบกรองน้ำดื่ม และร้านคาร์แคร์ฝึกอาชีพเพื่อสร้างรายได้เสริม
จากการสำรวจโรงเรียนบ้านวังกกเดื่อ อ.วังสะพุง พบว่าอาคารเรียนทั้งระดับประถมและมัธยมศึกษามีสภาพชำรุด ทรุดโทรมหลังคารั่ว มีน้ำซึมเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อการเรียน ทั้งยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน จึงสนับสนุนการปรับปรุงอาคารเรียน ห้องน้ำ มอบโต๊ะเก้าอี้สำหรับนักเรียน สื่อการเรียนการสอน และคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำดื่มในโรงเรียนมีหินปูนไม่สามารถบริโภคได้ จึงติดตั้งระบบกรองน้ำดื่มด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยประหยัดค่าไฟและเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมติดตั้งระบบ Internet of Things (IoT) เพื่อตรวจสอบปริมาณการผลิตน้ำและการใช้น้ำผ่านทางออนไลน์ โดยสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการในการใช้น้ำของโรงเรียนและนำไปออกแบบระบบผลิตน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานทำให้ไม่สิ้นเปลืองพลังงานในการผลิต นับเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ และวางแผนการใช้น้ำได้เป็นอย่างดี
นายจักรรินทร์ ศรีสุธรรม ครูโรงเรียนบ้านวังกกเดื่อ กล่าวถึงความรู้สึกว่า "หลังจากที่อินทัชให้งบประมาณสนับสนุนทางโรงเรียนมีการปรับปรุงซ่อมแซมห้องเรียน ทาสี ปูพื้นกระเบื้อง มีโต๊ะ เก้าอี้ใหม่ทำให้บรรยากาศน่าดู น่าอยู่ เด็กๆ เกิดความกระตือรือร้นอยากจะมาโรงเรียนทุกวัน การจัดกิจกรรมในห้องเรียนก็ดีกว่าเดิมมากเพราะมีห้องเรียนที่ได้มาตรฐานมากขึ้น"
นอกจากนี้ ได้จัดทำโครงการร้านคาร์แคร์ เพื่อช่วยฝึกทักษะอาชีพในชั่วโมงกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โดยมีวิทยากรในท้องถิ่นมาให้ความรู้ด้านงานบริการล้าง อัด ฉีด เบื้องต้นนักเรียน โรงเรียนบ้านวังกกเดื่ออินทัช โฮลดิ้งส์ คนที่เข้าร่วมโครงการสามารถมีทักษะอาชีพเพิ่มเติม และสร้างรายได้ในอนาคต ทั้งนี้ ทางโรงเรียนมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนชุมชนใกล้เคียงนำรถมาใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ และเฟซบุ๊คของโรงเรียนอีกด้วย
สร้างถนนคอนกรีตในโรงเรียน ช่วยลดปัญหาโรคระบบทางเดินหายใจของนักเรียน
ถนนภายในโรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝาย อ.เอราวัณ เป็นถนนดินเมื่อถึงฤดูร้อนจะมีฝุ่นละอองจำนวนมากก่อให้เกิดมลภาวะที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของนักเรียนและครู พอถึงฤดูฝนพื้นถนนจะเป็นโคลน สัญจรลำบาก การจัดสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กระยะทาง 383 เมตรจึงเป็นสิ่งจำเป็นและตรงกับความต้องการของทั้งครู นักเรียน รวมถึงชาวชุมชนเป็นอย่างยิ่ง หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จพบว่าช่วยลดปัญหามลภาวะ นักเรียนและครูมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถเดินทางไปกลับโรงเรียนได้อย่างสะดวกปลอดภัย
เด็กหญิงสุนิสา ชินตู้ นักเรียนโรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝาย กล่าวว่า "เห็นโรงเรียนอื่นมีถนนคอนกรีตก็อยากมีบ้าง เพราะเวลาฝนตกมาถนนเปียก รองเท้าก็เปียกแฉะ ไม่อยากจะเดิน พอถนนแห้งฝุ่นก็เยอะ ทำเวร กวาดพื้นก็ลำบาก พอมีถนนคอนกรีตดีใจมาก เพราะน้องๆ ได้มาใช้ มาเดินเล่น ไม่ต้องเลอะ มีความสุขมาก"
สนับสนุนสื่อการเรียนการสอนตามแนวคิดมอนเตสซอรี่ และปรับปรุงสนามเด็กเล่น
โรงเรียนบ้านสวนปอ อ.ภูหลวง ประสบปัญหาขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กระดับปฐมวัยตามแนวคิดมอนเตสซอรี่ที่คำนึงถึงความคิดของเด็กเป็นสำคัญ ดังนั้นการจัดหาอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและปรับปรุงสนามเด็กเล่น เพื่อเปิดพื้นที่การเรียนรู้ให้เด็กๆได้ฝึกทักษะสมอง สมาธิผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าจะช่วยส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างอิสระ รวมทั้งเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กได้ดียิ่งขึ้น
นางนงนาฏ เพ็ชรล้ำ ครูโรงเรียนบ้านสวนปอ เปิดเผยความรู้สึกว่า "เด็กๆ ในช่วงปฐมวัย เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิตและพัฒนาการทุกด้าน การส่งเสริมศักยภาพของเด็กในวัยนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พออินทัชเข้ามาช่วย เราได้สื่อที่พร้อม นักเรียนของเราสามารถเรียนรู้ได้เท่าๆ กับเด็กในเมือง ส่วนสนามเด็กเล่นที่ได้มาช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เด็กๆ ได้ออกกำลังกาย ผ่อนคลาย ได้เล่นกับเพื่อน ร่าเริงแจ่มใส รู้จักช่วยเหลือกัน ทำให้เค้ามีความสุข"
นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่มอินทัช ประกอบด้วยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมสนับสนุนสื่อการเรียนที่นำเทคโนโลยีมาใช้ซึ่งจะช่วยเปิด โลกทัศน์การเรียนรู้ของนักเรียนเพิ่มเติม โดยเอไอเอส มอบชุดอุปกรณ์สานรัก สานความรู้พร้อมโทรทัศน์ 3 ชุด คอมพิวเตอร์ 3โรงเรียนบ้านวังเลาหัวฝาย เครื่อง และถังสำรองน้ำพร้อมฐาน 6 ถัง ไทยคม มอบชุดรับสัญญาณดาวเทียมพร้อมเครื่องรับโทรทัศน์ หนังสือและชั้นวาง และปรับปรุงสหกรณ์โรงเรียนบ้านวังกกเดื่อ ส่วนซีเอส ล็อกซอินโฟ จัดมุมสื่อนวัตกรรม(ซีดีชุดความรู้)สร้างสรรค์การเรียนรู้ในห้องสมุด เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างสนุกและเพลิดเพลินมากขึ้น
เพราะการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเยาวชน โรงเรียนเป็นสถานศึกษาที่บ่มเพาะให้เขาเหล่านั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญของประเทศ กลุ่มอินทัชหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสนับสนุนสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นและมีความเหมาะสมกับวัยจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เด็กและเยาวชนให้มีความพร้อมและเติบโตเป็นอนาคตที่ดีของสังคมและประเทศต่อไป