"เมื่อก่อนตาลเคยคิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เพราะว่าตัวตาลเองไม่ได้เติบโตมาพร้อมที่จะเป็นศิลปิน นักแสดง ฯลฯ ก่อนหน้านี้ตาลเรียนครูมาค่ะ แล้วชีวิตเราก็คิดมาตลอดว่า วันหนึ่งเราจะโตมาเป็นครู รับราชการ แล้ววันหนึ่งตาลก็มาเป็นดารา จะต้องอยู่ท่ามกลางผู้คน เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้น มันก็เลยทำให้เราไม่ได้ตั้งรับในเรื่องของคำวิจารณ์หรือเรื่องอื่นๆ ยิ่งสมัยนี้เป็นโลกของสังคมโซเชียล ก็จะมีทั้งดี–ไม่ดี มีคนมาตัดสินเราจากสิ่งที่ได้ยินได้รับฟังมา หรือตัดสินเราจากการอ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ตาลดาวน์มากๆ รู้สึกเศร้า และมันก็ทำให้คนรอบข้างของเราหม่นไปด้วย เหมือนเรากระจายความทุกข์ให้กับพวกเขา ไม่ว่าคนจะมาพูดปลอบยังไง ตาลไม่รู้สึกดีขึ้นเลย ทุกอย่างแย่ไปหมด จนเริ่มคิดได้... ตัวเราเองต้องเข้มแข็ง ต้องยิ้มรับกับทุกสถานการณ์ เพื่อที่คนที่อยู่รอบตัวเราจะได้มีความสุขและสบายใจ หลังจากคิดได้ตาลมุ่งไปปฏิบัติธรรมค่ะ ไปเป็นลูกศิษย์ของท่าน ว.วชิรเมธี ทำให้เราได้ใส่ใจกับธรรมะมากขึ้น ก็เลยทำให้จิตใจเราสงบและอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น เมื่อก่อนเราอาจจะเป็นทุกข์กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ทำให้เราเป็นคนคิดมาก คิดเกิน ธรรมะสอนให้เราอยู่กับปัจจุบันและหลุดพ้นตรงนั้นมาได้ จากนั้นตาลก็มุ่งมั่นที่จะสร้างรอยยิ้มให้ตัวเอง รวมถึงคนอื่นๆ ที่ตาลจะช่วยเหลือได้ ตาลอยากจะเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ที่ประสบปัญหาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ รวมถึงคนอื่นๆ ที่กำลังคิดว่าชีวิตเรากำลังแย่ ให้ทุกคนมองทุกอย่างในแง่บวกมากขึ้น อยากให้ยึดหลักสายกลาง มาสูงสุด ไม่ต่ำสุด ใช้ชีวิตในทุกๆ วันให้มีความสุขก็พอค่ะ"
ติดตามหนังสือ Organic Smile เพียงแค่ยิ้มแล้วส่งต่อไป ราคา 399 บาท (304 หน้า) ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit