นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 - 23 กุมภาพันธ์ 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 21 จังหวัด 47 อำเภอ 90 ตำบล 257 หมู่บ้าน 12 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,988 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็น ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอกงไกรลาศ อำเภอคีรีมาศ อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอสวรรคโลก รวม 13 ตำบล 57 หมู่บ้าน 12 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 898 หลัง เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหนองไผ่ รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2 หลัง เสียชีวิต 1 ราย อุทัยธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอห้วยคต รวม 3 ตำบล 6 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 29 หลัง แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวังชิ้น รวม 1 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 19 หลัง พิษณุโลก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรหมพิราม และอำเภอบางระกำ รวม 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 274 หลัง กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบึงสามัคคี อำเภอขาณุวรลักษณ์ อำเภอไทรงาม และอำเภอคลองขลุง รวม 8 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 198 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 393 ไร่ เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอยเต่า และอำเภอจอมทอง รวม 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 52 หลัง เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอเทิง รวม 10 ตำบล 39 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 65 หลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอน้ำโสม บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1 หลัง สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร และอำเภอเต่างอย รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 11 หลัง เลย เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเอราวัณ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 หลัง นครพนม เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอท่าอุเทน รวม 7 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 82 หลัง หนองคาย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอโพนพัย รวม 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลัง มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอชื่นชม บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลัง หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอนาวัง บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 41 หลัง นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอพิมาย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลัง ขอนแก่น เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอแวงใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ล้มทับตู้น้ำดื่มชุมชนเสียหาย บึงกาฬ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอปากคาด รวม 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 48 หลัง มุกดาหาร เกิดวาตภัย ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอนิคมคำสร้อย และอำเภอคำชะอี รวม 7 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 130 หลัง ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูเขียว และอำเภอภูเนินสง่า รวม 6 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 93 หลัง กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคำม่วง อำเภอห้วยผึ้ง อำเภอเขาวง และอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ รวม 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 31 หลัง ซึ่ง ปภ. ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าบริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวนต่อเนื่องอีก 1 – 2 วัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักบางแห่ง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดกำแพงเพชร และตาก ภาคกลาง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี และนครสวรรค์ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง อยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit