โดย "แนวสุดท้าย" เป็นเรื่องของ ชาคริต (โทนี่ รากแก่น) ถูกส่งมาสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานในหน่วยสืบราชการลับ เขาได้รับคัดเลือกเนื่องจากเป็นคนที่มีคุณบัติครบถ้วน คือ เขาไม่มีภาระทางครอบครัว ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกได้ดี มีความสามารถในการจดจำและใช้ภาษา ชาคริตได้พบกับ ผู้การ (บี๋ - ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) ซึ่งผู้การได้เขาไปทดสอบและฝึกเพื่อเอาตัวรอดตอนเป็นสายลับ นั่นทำให้ชาคริตรู้จักกับ กานดา (แก้ว - จริญญา ศิริมงคลสกุล), หมวดแจ๊ค (อาร์ต - พศุตม์ บานแย้ม) และ บุญส่ง (บูม - จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต) พวกเขามีหน้าที่เตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ในการออกปฏิบัติหน้าที่ และคอยสนับสนุนช่วยเหลือทุกอย่างที่ชาคริตต้องการ งานแรกที่ ชาคริต ได้รับคือ ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อล้วงความลับจาก กวางอันซู (หลิน - มชณต สุวรรณมาศ) นักเต้นสาวสวยที่ผู้การสงสัยว่าเป็นสายลับของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ชาคริตจึงย้ายเข้าไปอยู่ห้องข้างๆ กับกวางอันซู แต่ระหว่างการทำงานชาคริตกลับพบว่า กวาง อัน ซู เป็นเพียงผู้หญิงน่าสงสารที่ต้องยอมทำงานทุกอย่างที่ได้รับคำสั่งมาเพื่อแลกกับชีวิตของผู้ชายที่เธอรักอย่าง เลียว เวียน ซาน (ตั๊ก - นภัสกร มิตรธีรโรจน์) ซึ่งถูกจับเป็นนักโทษ กวาง อัน ซู ไว้ใจชาคริต และรู้สึกดีกับชาคริตจนทำให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง สุดท้ายภารกิจของชาคริตจะดำเนินต่อไปอย่างไร เขาจะเข้าถึงตัวเลียว เวียน ซาน ได้หรือไม่ต้องติดตาม"
ซึ่ง โทนี่ เผยถึงการบู๊เต็มตัวเรื่องแรกครั้งนี้ว่า "ชอบมากครับบทนี้ คือเป็นความฝันวัยเด็กเลยนะเพราะตอนที่เราดูหนังของ เจ็ท ลี (Jet Li) เราก็อยากจะเก่ง อยากจะเป็นเหมือนเขา จนวันหนึ่งเราได้มาเล่นเองแล้วกลายเป็นว่าบทที่ได้รับตรงกับสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วก็เลยดีใจมากๆ ครับ แล้วยังได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนโดยเฉพาะเรื่องของคิวบู๊ซึ่งหนักพอสมควรเพราะเป็นการบู๊เต็มตัวครั้งแรก ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำ ผมก็เลยไปเรียนคอมแบทเพิ่ม ตอนนี้เรียนไป 10 คลาสๆ ละ 3 ชั่วโมง ก็ได้ความรู้มาเยอะเลยครับ เอามาปรับใช้เวลาเข้าฉากว่าเราจะเซฟตี้ตัวเองยังไงให้เจ็บตัวน้อยที่สุด ส่วนพาร์ทดราม่าก็ไม่ง่ายครับ ด้วยความที่เราสนิทกับ หลิน อยู่แล้ว พอต้องมาใส่เมมโมรี่ใหม่ว่าเขาคือ กวาง อัน ซู เราก็จะไม่เชื่อง่ายๆ ต้องมีสมาธิและพยายามทำความเข้าใจกับตัวละครตลอดเวลาครับ"
ด้าน หลิน เสริมทันที "เล่นกับพี่โทนี่ก็ยากเหมือนกันค่ะ เพราะว่าด้วยความที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว เวลาอยู่กองก็จะแยกกันอยู่คนละมุมเพื่อทำสมาธิ แต่สิ่งที่ยากมากๆ สำหรับหลินคือการเต้นโพลแดนซ์ ก่อนแสดงเครียดและเป็นกังวลมากค่ะ กลัวไปหมดทุกอย่าง แต่พอต้องถ่ายจริงๆ พี่โอ๋ก็มีครูมาสอนให้ คอยแนะนำว่าจะต้องเต้นยังไง ให้ดูสวยงามและดูเซ็กซี่ กว่าจะผ่านซีนนั้นก็ตัวเขียวช้ำกันไปหลายวันค่ะ เพราะหลินต้องเกาะเกี่ยวอยู่กับเสาตลอด ถือเป็นสิ่งใหม่ที่เราไม่เคยลองและไม่เคยทำมาก่อน สนุกและตื่นเต้นดีเหมือนกันค่ะ"
ฟากหนุ่ม อาร์ต เล่าต่อว่า "ส่วนผมแม้จะผ่านละครบู๊มาหลายแบบแต่เรื่องนี้ผมได้บู๊ที่แตกต่างไปครับ เป็นแอ็กชั่นที่ผมอยากเล่น คือเป็นแบบที่ไม่ต้องมานั่งต่อยเตะกันอย่างเดียว นั่นคือ การต่อสู่แบบ "ไอกิโด" เป็นศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นสมัยใหม่ เป็นการป้องกันตัวแบบล็อคแขน ขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้วก็เลยไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ต้องวอร์มร่างกายอยู่ตลอดเหมือนกันเพราะค่อนข้างโหดบู๊เยอะครับ ต้องเล่นหลายรอบเพราะอยากให้ภาพสวยและมุมที่ดีที่สุดเพื่อความสมจริงครับ"
ปิดท้ายด้วย แก้ว กับบทสุดท้าทายนี้ว่า "เป็นการแสดงบู๊เต็มตัวครั้งแรกเลยค่ะ ได้รอยฟกช้ำมาเพียบ เพราะว่าเป็นคนช้ำง่าย ผิวบางโดนอะไรนิดหน่อยก็เป็นรอย ซึ่งแต่ละท่าที่ใช้ในการต่อสู้จะเป็นแบบไม่ได้ใช้อาวุธจะใช้แขน ขา ท่าทาง ก็เลยจะยากสำหรับแก้วเพราะแก้วตัวแข็งความยืดหยุ่นของร่างกายมีน้อยมาก บางฉากก็ต้องกระโดดข้ามท่อ กระโดดถีบคู่ต่อสู้ มันส์มากค่ะตอนเล่น ก็อยากให้แฟนๆ ติดตามกันดูน่าจะไม่เคยเห็นแก้วเล่นแบบนี้ที่ไหนมาก่อนค่ะ คอนเฟิร์มว่าเรื่องราวครบทุกรสจริงๆ มีอะไรที่หักมุมเยอะมาก มีเซอร์ไพรส์ตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ"
ติดตามชมกันได้ในโปรเจกต์ "The Writers" เรื่อง "แนวสุดท้าย" เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง GMM25
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit