น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า "บลจ.กรุงศรี เล็งเห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่ง และโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากแนวทางการลงทุนในเชิงรุกผ่านหุ้น A-Shares ของจีน ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่อยู่ในจีนและซื้อขายที่ตลาดเซี่ยงไฮ้หรือเซินเจิ้นโดยซื้อขายในสกุลเงิน Renminbi (RMB) โดยเฉพาะกลุ่มที่ถือเป็นเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีนซึ่งเติบโตสูงกว่าตลาดรวม เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี การแพทย์ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มเศรษฐกิจใหม่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 45%ของมูลค่าตลาดในจีน และการเติบโตของกำไรในกลุ่มเศรษฐกิจยุคใหม่โดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคนั้นยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งอีกด้วย"
"หุ้น A-Shares ของจีน มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน ที่ปรับตัวดีขึ้นบนระดับราคาหุ้นที่สมเหตุสมผล การเปิดตลาดของจีนทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง การบริโภคเคลื่อนย้ายไปสู่สินค้าและบริการในกลุ่ม high - end ผู้บริโภคจีนมีแนวโน้มซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น การใช้จ่ายเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมต่างๆจากผู้ผลิตในจีนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มหุ้น A-Shares ในดัชนี MSCI ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในสายตานักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น จากปัจจัยต่างๆดังกล่าวถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้การลงทุนในหุ้น A-Shares ของจีนมีโอกาสที่จะเติบโตและสร้างผลตอบแทน ที่ดีได้อย่างยั่งยืนให้กับผู้ลงทุน จึงเป็นที่มาของการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเอแชร์อิควิตี้ – สะสมมูลค่า (KFACHINA-A)"
"กองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเอแชร์อิควิตี้ – สะสมมูลค่า (KFACHINA-A) มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักระดับ 5 ดาวจาก Morningstar(ที่มา :Morningstar ณ 31 ธ.ค. 60) บริหารโดยผู้จัดการกองทุนชั้นนำในกลุ่มกองทุนหุ้นจีน โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ที่มา : UBS Asset Management ณ ก.ย. 60/ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต) ได้แก่ UBS (Lux) Investment SICAV-China A Opportunity Fund จุดเด่นคือกองทุนหลักสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนีอย่างโดดเด่น จากความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลการลงทุนและบทวิเคราะห์ในเชิงลึกจากความร่วมมือกับ UBS SDIC บริษัทร่วมทุนที่ตั้งอยู่ในจีนซึ่งมีความใกล้ชิดกับตลาดเป็นอย่างดี โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม หรือหุ้นที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและการปฎิรูปเศรษฐกิจระยะยาว ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างยั่งยืนในระยะกลางถึงยาว"
"กองทุน KFACHINA-A เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการเติบโต ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว อาจพิจารณาจัดสรรเงินลงทุนบางส่วนมาลงทุนในกองทุนดังกล่าว เพื่อบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้มีสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ" น.ส. ศิริพร กล่าว
ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก
ผลตอบแทนสะสม
6 เดือน
1 ปี
3 ปี
4 ปี
ตั้งแต่จัดตั้ง 29 พ.ย. 56
กองทุนหลัก
24.60%
74.60 %
98.70 %
157.40 %
155.00 %
ดัชนีเปรียบเทียบ MSCI China A
8.10 %
18.20 %
2.30 %
50.00 %
44.60 %
ที่มา : UBS Asset Management ณ 31 ธ.ค. 60 ผลการดำเนินงานข้างต้นเป็นของกองทุนหลักซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
**ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับ AIMC แต่อย่างใด
กองทุน KFACHINA-A มีนโยบายลงทุนในกองทุนต่างประเทศ UBS (Lux) Investment SICAV-China A Opportunity Fund (กองทุนหลัก) ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6
กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 90 % ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit