ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทโรงงานผลิตสินค้าเอง โดยไม่มีการจ้างให้ที่อื่นผลิตแล้วนำสินค้ามาติดแบรนด์ โดยข้อดีของการผลิตเองจะสามารถดูแลคุณภาพของสินค้าได้ทุกชิ้น ขณะที่วัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติในการนำการผลิตสินค้า เช่น ว่านหางจระเข้ หรือ สเต็มเซล์จากส้ม100% ซึ่งเป็นส้มจากสเปน ที่มีคุณสมบัติในการช่วยเร่งผลัดเชลล์ผิวเก่าและเสริมการเกิดเชลล์ผิวใหม่ที่ทำให้เชลล์เท่ากับเด็กอายุ 12 ปี เป็นต้น โดยสินค้าดังกล่าวค่อนข้างได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งผลของการพัฒนาคุณภาพสินค้าต่อเนื่องทำให้เครื่องสำอางของเอสเซ่ได้รับรางวัลด้านคุณภาพจากหลายหน่วยงาน และยังช่วยเพิ่มยอดขายทุกๆ ปีด้วย
นางสาว นฤมล กล่าวว่า ในส่วนของแผนการตลาดในปีนี้เอสเซ่จะให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของตัวแทนจำหน่ายที่ปัจจุบันมีทั่วประเทศส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด เน้นการพัฒนาการทำตลาดออนไลน์จากที่ผ่านมาเน้นการทำตลาดหน้าร้าน หรือออฟไลน์ เนื่องจากกระแสความต้องการใช้สินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็จะเดินสายไปเยี่ยมเยือนและให้ความรู้ตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา,สปป.ลาว,เมียนมา และเวียดนาม) เนื่องจากตลาดเหล่านี้มีความเชื่อมั่นคุณภาพของสินค้าจากประเทศไทยอยู่แล้ว ล่าสุดได้ทดลองทำตลาดในประเทศสปป.ลาวมาบ้างแล้ว และประเมินว่าแนวโน้มของเอสเซ่เติบโตต่อเนื่อง ในอนาคตก็จะมีการผลักดันให้มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น สำหรับตลาดสินค้าอื่นๆ ก็กำลังศึกษาด้วยเช่นกัน เบื้องต้นประเมินแล้วว่าเครื่องสำอางเอสเซ่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีเช่นกันในอนาคต
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit