ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน "ตลาดนัดนวัตกรรม (InnoMart) สัญจร จังหวัดระยอง" ภายใต้แนวคิด "Natural Health & Beauty Cosmetic" เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2560 ว่า "สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ได้ร่วมมือกับกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย ภายใต้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงาน ตลาดนัดนวัตกรรม (InnoMart) สัญจร" ภายใต้แนวคิด Natural Health & Beauty Cosmetic ระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม 2560 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า จังหวัดระยอง ซึ่งรูปแบบงานจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการนวัตกรรมจำนวน 24 ราย กว่า 100 ผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สุขภาพ และเครื่องสำอาง พร้อมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้สังคมเกิดความสนใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักถึงความสำคัญของ "นวัตกรรม" ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนในการสร้างขีดความสามารถให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน สำหรับการจัดงานดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ สนช. ส่งเสริมและพัฒนาตลาดนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการนวัตกรรมของประเทศได้มีพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์ และนำสินค้านวัตกรรมการออกสู่ตลาดผู้บริโภคมากขึ้น รวมไปถึงการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการได้มี การเติบโต (Growth) และสร้างช่องทางใหม่ในการค้า (New Channel) สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ตลาดนวัตกรรม (Market Innovation) ของ สนช. เพื่อขยายผลธุรกิจนวัตกรรม (Scale up) และส่งเสริมให้เกิดการแพร่กระจายนวัตกรรม (Diffusion) สู่วงกว้างต่อไป"
ดร.พันธ์อาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา สนช. ได้ให้การสนับสนุนและร่วมสร้างสรรค์โครงการนวัตกรรมผู้ประกอบการภาคเอกชนมากกว่า 1,500 โครงการ วงเงินสนับสนุนกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในธุรกิจใหม่ประมาณ 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ สนช.ยังได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SMEs ไทย ไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในวงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นและเร่งให้ผู้ประกอบการ SMEs ดำเนินกิจกรรมด้านนวัตกรรมทั่วประเทศอีกด้วย"
"ประกอบกับ ปัจจุบัน รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี เพื่อก้าวสู่ Thailand 4.0 ซึ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม ดังนั้น สนช. จึงได้ปรับปรุงและขยายขอบเขตการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ สำหรับการพัฒนานวัตกรรมซึ่งประกอบด้วย 4 กลไกสนับสนุน ได้แก่ กลไกข้อมูล (data-driven innovation) กลไกการพัฒนายั่งยืน (sustainable innovation) กลไกการเงิน (financing innovation) และกลไกการสร้างตลาด (market innovation) และ 2 กลไกขับเคลื่อน ได้แก่ การขับเคลื่อนด้านเครือข่าย (innovation network) และ การขับเคลื่อนด้านกระบวนการ (innovation process) และ เพื่อให้สอดคล้องกับ พันธกิจหลักของ สนช. 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. การส่งเสริมการสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติ 2. สร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม และ 3. ยกระดับทักษะและความสามารถทางนวัตกรรมของกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย" ดร.พันธุ์อาจกล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit