นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เบอร์หนึ่งของเมืองไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560) บริษัทฯมีรายได้รวม 1,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 762 ล้านบาท หรือ75.97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,003 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271ล้านบาท หรือ 90.33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดปล่อยสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังบริษัทฯเดินหน้าขยายสาขาทั่วประเทศไทยตามแผน เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในระดับรากหญ้าที่ยังขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และที่สำคัญบริษัทฯมีจุดแข็งในการปล่อยสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว และคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดในระบบ ทำให้เป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ MTLS ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม
โดยในช่วงไตรมาส 2/60 มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 14,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 61.17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 8,749 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.18% เท่านั้น เนื่องจากบริษัทฯมีระบบบริหารจัดการ และติดตามลูกหนี้ อย่างมีประสิทธิภาพภายใน MTLSModel ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาระดับเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำ
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 3,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,459 ล้านบาท หรือ 78.06% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,869 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 527ล้านบาท หรือ 90.86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 580 ล้านบาท โดยมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า25,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 15,702 ล้านบาท
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2560 จะเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้เติบโตกว่า 50% หรือแตะที่ระดับ 50,000 ล้านบาท ตามแผนงานที่วางไว้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 37,000 ล้านบาท ผลักดันให้รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยบริษัทฯพร้อมเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 200 แห่ง เน้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เพื่อขยายฐานลูกค้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,100 สาขา ตามยุทธศาสตร์ขยายตัวทั่วไทย อีกทั้งยังวางเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไว้ที่ระดับ 1.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.18%
ส่วนกรณีที่ธนาคาแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการคุมเข้มบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ก.ย. 2560 นี้ นอกเหนือจากไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯแล้ว ยังจะเป็นแรงหนุนที่สำคัญที่ทำให้ฐานลูกค้าของ MTLS มีมากขึ้น เพราะลูกค้าที่คุณสมบัติไม่ผ่าน จะเข้ามาขอใช้บริการสินเชื่อกับ MTLSมากยิ่งขึ้น และจากจำนวนสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มากกว่า 2,100 แห่ง จึงถือเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ และเพิ่มจำนวนลูกค้า
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit