ยูพีเอส เพิ่มเป้าการใช้ยานพาหนะพลังงานทดแทน เชื้อเพลิงทดแทน และพลังงานหมุนเวียนในปี 2568

05 Jul 2017
ตั้งเป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และจัดพิมพ์รายงานด้านความยั่งยืนขององค์กรทุกปี
ยูพีเอส เพิ่มเป้าการใช้ยานพาหนะพลังงานทดแทน เชื้อเพลิงทดแทน และพลังงานหมุนเวียนในปี 2568

ยูพีเอส ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนใหม่อันเข้มข้นในการเพิ่มจำนวนยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยในการขนส่ง พร้อมหันมาใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนในการดำเนินงานให้มากขึ้น เป้าหมายดังกล่าวซึ่งมีรายละเอียดใน รายงานด้านความยั่งยืนขององค์กรประจำปี 2559 สนับสนุนความมุ่งมั่นของยูพีเอสในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินงานภาคพื้นดินทั่วโลกให้ได้ 12% ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่วางขึ้นโดยใช้วิธีการที่ได้รับการอนุมัติจากโครงการเป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative)

เดวิด แอ็บนีย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูพีเอส กล่าวว่า "ด้วยขนาดธุรกิจของเรา เราทราบดีว่าความมุ่งมั่นของเราสามารถกำหนดทิศทางตลาด สร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และช่วยผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานได้ เราจึงตั้งความหวังไว้กับพนักงาน คู่ค้า และผู้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีของเราในการช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมขนส่งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรม"

ยูพีเอสตั้งเป้าที่จะให้ 25% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในองค์กรมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากระดับ 0.2% ในปี 2559 นอกจากนั้น ในปี 2563 ยูพีเอสวางแผนว่าหนึ่งในสี่ของยานพาหนะใหม่ที่ซื้อในแต่ละปีต้องเป็นพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2559 บริษัทยังตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะให้ 40% ของพลังงานที่ใช้ในภาคพื้นดินทั้งหมดมาจากแหล่งที่ไม่ใช่น้ำมันเบนซินและดีเซลภายในปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 19.6% ในปี 2559

ปัจจุบัน ยูพีเอสใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่า 8,300 คันทั่วโลก ขบวนพาหนะของบริษัทมีทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไฮบริดไฟฟ้า ไฮโดรลิกไฮบริด ก๊าซซีเอ็นจี ก๊าซแอลเอ็นจี ก๊าซโปรเพน และรถโครงสร้างคอมโพสิตน้ำหนักเบาประหยัดพลังงาน นอกจากการใช้รถยนต์พลังงานทดแทนแล้ว ยูพีเอสยังใช้น้ำมันดีเซลหมุนเวียนและก๊าซธรรมชาติหมุนเวียนซึ่งมีระดับคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำในขบวนพาหนะจำนวนหลายล้านแกลลอนในแต่ละปี

แนวคิดริเริ่มเหล่านี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของยูพีเอสในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแม้ในภาวะการเติบโตของการส่งสินค้าอีคอมเมอร์ซ ซึ่งส่งผลให้มีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นทั้งในการดำเนินการต่าง ๆ และในยานพาหนะขนส่ง

วิสัยทัศน์ของยูพีเอสสะท้อนให้เห็นภาพเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะแห่งอนาคตซึ่งยานพาหนะและสถานที่ปฏิบัติงานต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยและขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานที่หลากหลายและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ พลังงานลมจากที่อื่น ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียน ไฮโดรเจนหมุนเวียน ดีเซลหมุนเวียนที่ส่งผ่านระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงานที่ทันสมัย ซึ่งยูพีเอสได้เริ่มใช้เทคโนโลยีเหล่านี้แล้วในขบวนยานพาหนะและสถานที่ปฏิบัติงานภาคพื้นดินบางแห่ง และมีแผนที่จะใช้เพิ่มในอัตราที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในขบวนยานพาหนะทั่วโลก

ตั้งแต่ปี 2552 ยูพีเอสได้ลงทุนไปแล้วกว่า 750 ล้านดอลล่าร์ในด้านพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยและสถานีเชื้อเพลิงทั่วโลก บริษัทได้ใช้น้ำมันพลังงานทดแทนคาร์บอนต่ำในขบวนพาหนะภาคพื้นดินกว่า 97 ล้านแกลลอนในปี 2559 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ลงทุน 18 ล้านดอลล่าร์ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในพื้นที่ในสถานปฎิบัติงาน 8 แห่ง ยูพีเอสใช้แนวทาง ห้องแล็บเคลื่อนที่ เพื่อประเมินว่าเชื้อเพลิงทดแทนและเทคโนโลยีพลังงานทดแทนประเภทใดมีความเหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์ ตั้งแต่จักรยานรูปแบบดั้งเดิม จักรยานไฟฟ้า ไปจนถึงพลังงานไฟฟ้า ไฮบริดไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียน ก๊าซโปรเพน และน้ำมันดีเซลหมุนเวียน ซึ่งยูพีเอสนำนวัตกรรมด้านความยั่งยืนมาใช้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั่วโลก

บุนเทียม ตัน กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า "ในประเทศไทย ความพยายามเพื่อสร้างความยั่งยืนของเรากำลังส่งผลดีที่ชัดเจน โดยตั้งแต่ปี 2553 เราได้สนับสนุนมูลนิธิราชพฤกษ์ในการปลูกต้นไม้ไปแล้วจำนวนกว่า 160,000 ต้น มูลนิธิราชพฤกษ์คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการอนุรักษ์ทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยส่งเสริมการปลูกต้นไม้และขยายพื้นที่ป่า นอกจากนี้ปัจจุบัน ยูพีเอส ประเทศไทย ยังมีการใช้ยานพาหนะที่ใช้ก๊าซซีเอ็นจีจำนวน 10 คัน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยของยูพีเอสทั่วโลก และมีส่วนช่วยเสริมสร้างการขับขี่ที่สะอาดขึ้นในเมืองไทย"

นอกเหนือจากความพยายามในด้านสิ่งแวดล้อม ยูพีเอสยังได้วางเป้าหมายด้านกำลังคนและชุมชนในรายงานด้านความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นที่จะให้พนักงานร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์เป็นเวลารวม 20 ล้านชั่วโมงภายในสิ้นปี 2563 และได้ร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิยูพีเอสเพื่อการกุศล ทั้งด้านการบรรเทาทุกข์และการสร้างความปลอดภัยในชุมชน เป็นจำนวนเงินรวม 127 ล้านดอลล่าร์ภายในปี 2563 โดยโครงการเหล่านี้มอบความช่วยเหลือแก่ชุมชนทั่วโลก รวมถึงการร่วมมือกับคู่ค้าต่าง ๆ เพื่อจัดส่งโลหิต ยา และวัคซีนสู่ชุมชนห่างไกล และการสนับสนุนองค์กรด้านบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดริเริ่มเพื่อความยั่งยืนของยูพีเอส ค้นหาได้ที่ ups.com/sustainability สำหรับสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น บีโรล ภาพถ่าย วีดิโอ ฯลฯ ไปที่ pressroom.ups.com