นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ ซึ่งเป็นผู้นำในการเป็นตัวแทนนำเข้า จำหน่าย ติดตั้ง และการให้บริการดูแลและซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์ โดยเน้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษาเป็นหลัก เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ส่งมอบและติดตั้งเครื่องฉายรังสี EDGE ให้กับโรงพยาบาลวัฒโนสถ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
โดยลักษณะงานดังกล่าว ประกอบด้วย 1.เครื่องเร่งอนุภาคฉายรังสีระบบคอมพิวเตอร์วางแผนการรักษาและระบบบันทึกและตรวจสอบข้อมูล 2.อุปกรณ์ประกอบการฉายรังสี การวางแผนและควบคุมคุณภาพ 3. Immobilization Device ต่าง ๆ 4. ปรับปรุงและตกแต่งห้องให้เหมาะสมสำหรับติดตั้งเครื่อง
"แต่ละปีจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งจะเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งหากมีจำนวนเครื่องฉายรังสีมะเร็งเพิ่มขึ้นจะช่วยรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้และจะทำให้การดำรงชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น" นายสมพงษ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BIZ กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าติดตั้งเครื่องฉายรังสีมะเร็ง และส่งมอบงานได้ตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมขยายฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชนเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่กว่า 1,300 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ปีนี้และปีหน้า
ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า โรงพยาบาลวัฒโนสถ เป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยใช้หลักแนวทางการรักษาคือการควบคุมโรคมะเร็งที่เหมาะสมและเลือกวิธีการรักษาที่ดีให้กับผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะได้รับการรักษาแบบบูรณาการจากทีมบุคลากรทางแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ โดยศูนย์รังสีรักษาวัฒโนสถ ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งแบบครบทุกมิติ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านรังสีรักษา พยาบาลและนักรังสีที่มีความรู้และประสบการณ์ เครื่องฉายรังสี EDGE โรงพยาบาลวัฒโนสถเป็นมิติใหม่ของรังสีศัลยกรรม (Radiosurgery) ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ EDGEเป็นเครื่องฉายรังสีที่ให้ขอบเขตลำรังสีที่สอดรับกับรูปร่างหรือรูปทรงของก้อนมะเร็ง ทำให้การฉายรังสีแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาสั้น เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น
รองศาสตราจารย์นายแพทย์ประเสริฐ เลิศสงวนสินชัย ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง รพ.วัฒโนสถและแพทย์รังสีรักษา ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สำหรับโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรกมักจะมีปัญหาเฉพาะที่ แต่สำหรับมะเร็งในระยะท้าย ๆ จะมีการลุกลามและแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ แม้ว่าคนไข้บางรายจะเป็นมะเร็งชนิดเดียวกัน ระยะโรคเหมือนกัน แต่วิธีการรักษาอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโรคร่วมและร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย การรักษาโรคมะเร็งมีการพัฒนาไปในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดด้วยเทคนิคการส่องกล้อง การใช้หุ่นยนต์ผ่าตัด รวมถึงการรักษาด้วยตัวยาแบบมุ่งเป้าที่จะเจาะจงไปยังเซลล์มะเร็งเป้าหมาย ทำให้ผลกระทบจะเกิดกับเนื้อเยื่อปกติก็จะน้อยลงไป และด้วยวิวัฒนาการเทคโนโลยีทางรังสีรักษายุคใหม่ที่สามารถกำหนดพื้นที่เป้าหมายการฉายแสงเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเครื่อง Varian EDGE เป็นเครื่องฉายรังสีรักษารุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพและมีเทคโนโลยีการฉายรังสีในแบบ 3 มิติ (3D-RT) และ 4 มิติ (4D-RT) โดยเครื่องจะคำนวณปริมาณรังสีตามเทคนิคในการรักษาได้อย่างถูกต้อง แสดงให้เห็นการกระจายของปริมาณรังสีแบบ 3 มิติในบริเวณที่แพทย์ต้องการรักษา เป็นไปตามแผนการรักษาที่วางไว้ ลักษณะสำคัญของเครื่องคือ จะมีซี่วัตถุกำบังรังสี จำนวน 120 ซี่ ซึ่งสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างอิสระ และซี่วัตถุกำบังรังสีจะมีขนาดเล็กมาก ทำให้สามารถเปิดขอบเขตลำรังสีได้อย่างรัดกุม สอดรับกับรูปร่างของก้อนเนื้อเยื่อที่ต้องการรักษา ขณะเดียวกันซี่วัตถุกำบังเหล่านี้จะช่วยกำบังไม่ให้รังสีไปโดนอวัยวะปกติรอบข้าง หรือกำบังให้โดนให้น้อยที่สุด ในอดีตเครื่องฉายรังสีบางเครื่องถูกผลิตขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับการรักษาโรคมะเร็งในอวัยวะบางตำแหน่งเท่านั้น แต่เครื่อง EDGE สามารถปรับการใช้งานได้ และถูกออกแบบมาเพื่อเน้นจุดหรือตำแหน่งเฉพาะที่มากขึ้น ถ้าตำแหน่งของก้อนมะเร็งที่อยู่ใกล้เคียงกับอวัยวะสำคัญหรืออวัยวะที่ไวต่อรังสี โดยเครื่อง EDGE สามารถใช้ได้กับการฉายรังสีทั่วทั้งร่างกาย ทั้งในสมองและนอกสมอง ปอด ไขสันหลัง ต่อมลูกหมาก ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ เป็นต้น จากข้อมูลการวิจัยทางคลินิกภายในปัจจุบันพบว่าการฉายรังสีในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยปริมาณรังสีสูงมาก ๆ ในระดับหนึ่ง สามารถฆ่าและทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีกว่า โอกาสการกลับเป็นซ้ำน้อยลง อาการข้างเคียงลดลงกว่าวิธีเดิม ๆ ที่ต้องฉายรังสีหลายครั้ง (conventional technique and dose) ทำให้เพิ่มโอกาสอยู่รอดและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยสูงขึ้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit