นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมสินค้าสหกรณ์สู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างตัวแทนสหกรณ์ 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจังหวัดชุมพร จำกัด จังหวัดชุมพร สหกรณ์ผู้ปลูกมะนาวบ้านแพ้ว ดำเนินสะดวก จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร และสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด จังหวัดตรัง กับบริษัท ไทย พาวิลเลี่ยน คอร์ปอเรท จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าไทย ในการร่วมมือกันสนับสนุนส่งสินค้าสหกรณ์ไปเปิดตลาดที่ประเทศจีน เบื้องต้น จะมีการนำตัวแทนของทั้ง 3 สหกรณ์เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Guangdong 21ST Century Maritime Silk Road International Expo 2017 ระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2560 นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติกว้างตุ้ง เมืองตงก่วน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะนำตัวอย่างสินค้าไปจัดแสดง เพื่อเป็นการแนะนำสินค้าของสหกรณ์ให้กับผู้บริโภคและผู้ที่มาเที่ยวชมงานด้วย
ในช่วงที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์กับบริษัทไทย พาวิลเลี่ยน คอร์เปอเรท จำกัด ได้มีการหารือถึงแนวทางในการส่งสินค้าสหกรณ์ไปเปิดตลาดที่ประเทศจีน และได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกสินค้าสหกรณ์ ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการส่งออก และพิจารณาแล้วเห็นว่าสินค้าที่มีศักยภาพไปเปิดตลาดที่ประเทศจีน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์หมอนยางพาราของสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด จังหวัดตรัง ผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มของสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจังหวัดชุมพร จำกัด จังหวัดชุมพร และผลิตภัณฑ์น้ำมะนาวของสหกรณ์ผู้ปลูกมะนาวบ้านแพ้ว ดำเนินสะดวก จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร ในอนาคตทางบริษัทจะนำสินค้าสหกรณ์จากประเทศไทยไปวางจำหน่ายที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าของบริษัท ไทย พาวิลเลี่ยนฯ 10 สาขาในประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าหลากหลายและครบวงจร และในอนาคตจะมีการเปิดจำหน่ายไปทั่วทุกภาคของประเทศจีน และจำหน่ายผ่านช้อปปิ้งออนไลน์ด้วย
ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่เป็นความหวังของการส่งสินค้าสหกรณ์ไปจำหน่าย และเป็นโอกาสที่จะช่วยขยายตลาดรองรับผลผลิตและสินค้าการเกษตรที่ผลิตโดยสหกรณ์ของไทยได้อีกทางหนึ่ง ผู้บริโภคชาวจีนนิยมสินค้าประเภทข้าวหอมมะลิ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป เครื่องแกง เครื่องต้มยำ อาหารแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว สินค้าสปา กลุ่มหัตถกรรม ผ้าไหม เครื่องหนัง ซึ่งโครงการส่งเสริมสินค้าสหกรณ์สู่ตลาดจีน มีความสำคัญในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีเป้าหมายในการยกระดับสินค้าของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ให้เป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ การผลักดันให้สินค้าสหกรณ์ไปเปิดตลาดในประเทศจีน จะเป็นโอกาสในการขยายช่องทางตลาดสินค้าของสหกรณ์สู่ผู้บริโภคในต่างประเทศ ทำให้ต่างชาติได้มองเห็นถึงศักยภาพและคุณภาพของสินค้าที่ผลิตโดยสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจากประเทศไทย ขณะเดียวกันสหกรณ์จะได้เรียนรู้และได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ยอมรับและตรงกับความต้องการของตลาดในประเทศจีน เพื่อนำกลับไปพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพสินค้าของตนเองให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และสามารถเพิ่มช่องทางและปริมาณการส่งออกสินค้าไปสู่ประเทศจีนได้มากขึ้นในอนาคตต่อไป
HTML::image( HTML::image( HTML::image(