"โครงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ตามรอยรัชกาลที่ ๙" เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์แผนการท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะ "โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโพธาราม ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดราชบุรี ซึ่งปัจจุบันมาเป็นศูนย์ศึกษาและพัฒนาด้านเกษตรกรรมส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรและผู้สนใจ ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแวะมาสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายพอเพียงตามแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ ๙
โดย "นายบุญช่วย ช่วยระดม" ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ในปี ๒๕๒๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ เป็นครั้งแรก ทรงมีพระราชดำริ ให้ดำเนินการศึกษาหาวิธีการปรับปรุงดินเสื่อมโทรมให้สามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ โดยทำการทดสอบวางแผนและจัดระบบปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในลักษณะศูนย์ศึกษาการพัฒนาขนาดย่อม
ภายในโครงการฯ สามารถเข้าชมบริเวณภายใน ซึ่งประกอบด้วย แปลงสาธิตผ่านการเรียนรู้ต่างๆ พลับพลาที่ประทับซึ่งเตรียมไว้รับเสด็จในหลวง รัชกาลที่๙ ตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำ และต้นประดู่อายุ ๒๑ ปี ที่พระองค์ทรงปลูกไว้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนป่าเขาเขียว ในเส้นทางได้สัมผัสกับป่าเต็ง และป่า เบญจพรรณ จุดชมวิวเขาเขียวเห็นพื้นที่ด้านล่าง เป็นต้น
"ปีหนึ่งๆ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวฤดูหนาวปลายปี เช่นในปี ๒๕๕๙ ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเขาชะงุ้มมากกว่า ๑๖๐,๐๐๐ คน สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งปัจจุบันเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่จังหวัดราชบุรี ผลักดันให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เปรียบเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดราชบุรี"
นอกจากพื้นที่กิจกรรมตามรอยพระบาทในหลวงรัชที่ ๙ ณ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีแล้ว ยังมีสถานที่ที่พระองค์ทรงเคยเสด็จเยือน โดยทรงปลูกต้นอินทนิล ๒ ต้น ไว้เป็นที่ระลึก และเป็น Unseen ในจังหวัดราชบุรี นั่นก็คือ "วัดป่าพระธาตุเขาน้อย" อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ซึ่งภายในวัดยังมีอัฐิธาตุหลวงปู่เทสก์ ให้นักท่องเที่ยวได้กราบนมัสการเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงบนเขายังเป็นจุดชมวิวพาโนราม่า มองได้รอบทิศทาง ๓๖๐ องศา
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวตามรอยเสด็จในหลวงรัชกาลที่ ๙ ดังที่ได้กล่าว ยังมีชุมชนที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน ทำให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี นั่นก็คือ "กาดวิถีชุมชน น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง" หรือ ตลาดเมืองโบราณบ้านคูบัว ตั้งอยู่ ณ วัดโขลงสุวรรณคีรี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยการนำของ "พระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวํโส" เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี กล่าวว่า วันนี้วัด โรงเรียน ชุมชน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเดินตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ริเริ่ม "กาดวิถีชุมชนคูบัว" ขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวโดยชุมชน ไท – ยวน เป็นตลาดย้อนยุค ที่มีบรรยากาศตามวิถีชีวิตท้องถิ่นของชุมชน มีเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ความเป็นไท- ยวน ดั้งเดิม
"กาดวิถีชุมชนคูบัว" ณ วัดโขลงสุวรรณคีรี ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เปิดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศได้ในทุกวันศุกร์ - เสาร์ – อาทิตย์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวชม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชม นำมาซึ่งรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นรวมถึงการได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณบ้านคูบัว ได้สัมผัสโบราณสถานความรุ่งเรืองในสมัยทวารวดีของเมืองราชบุรีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ได้นำเสนอ ทั้ง ๓ แห่งนี้แล้ว ยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกมากมายหลายเส้นทาง ในเส้นทางตามรอยเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงเรื่องราวที่น่าประทับใจ และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ อาทิเช่น สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี อำเภอโพธาราม ถ้ำเขางู (อุทยานหินเขางู) อำเภอเมือง ถ้ำจอมพล อำเภอจอมบึง วัดถ้ำสิงโตทอง อำเภอจอมบึง รวมถึงวัดโชติทายการาม อำเภอดำเนินสะดวก ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดน้ำดำเนินสะดวก แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดราชบุรี
ในทุกสถานที่และเส้นทาง "ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ตามรอยรัชกาลที่ ๙" ของจังหวัดราชบุรี สามารถเชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ล้วนเป็นเรื่องราวที่มีประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และมีเหตุการณ์อันน่าประทับใจ สักครั้งต้องตามรอยเสด็จประพาส ไปเที่ยวกัน หรือสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี โทร ๐๓๒ ๓๒๒๐๒๘